สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 17401เข้าชม
  • 35ตอบกลับ

ในกองถ่ายละครทุกวันนี้ใช้กล้องแบบไหนครับ ยังมีโอบีหรือเปล่าครับ

ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
249
เงิน
798
ความดี
3490
เครดิต
3070
จิตพิสัย
8316
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 15#  โพสต์เมื่อ: 2013-06-08
ตอบครับผม
          ข้อ 1 กับ 2 บันทึกภาพกับเสียงพร้อมกันครับ และเครื่องบันทึกทุกชนิดที่ผมกล่าวไปนั้น บันทึกภาพพร้อมกับเสียงทั้งหมดครับ ต่างตรงที่ Input ของเสียงแต่ละเครื่องไม่เท่ากันครับ AJA ได้ 2แทร็ค P2 ได้ 4แทร็ค XD CAM ได้ 8 แทร็คครับ
          ข้อ 3 ใช้ 3 กล้องครับเป็นระบบโอบี ปีกมารใช้เครื่อง XD CAM ครับ ส่วนรักสุดฤทธิ์ บันทึกแบบ 2เรคคอร์ดครับ ใช้ทั้ง AJA และ P2
             ข้อ 4 ไม่ตัดสวิตช์เองครับ ชื่อตำแหน่งที่เป็นทางการคือ กำกับรายการ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเรียกกันจนติดปากว่า สวิตช์เชอร์ มากกว่าครับ เวลาขึ้นไตเติ้ลเครดิตจะใช้คำว่ากำกับรายการเท่านั้นเอง
          ข้อ 5 ไม่เคยร่วมงานครับ และไม่รู้ว่าถ่ายแบบไหน

         ขอแก้ครับ P2 เป็นของ Panasonic ครับไม่ใช่ Sony

            วันนี้เลยถ่ายรูปเครื่องมือบางชนิดมาให้ชมครับ

มอนิเตอร์กองปีกมาร


มอนิเตอร์กองรักสุดฤทธิ์


กองปีกมาร วันนี้


รถโอบี HD กล้อง Ikegami ของบริษัทDBS ตอนนี้มี 5คันแล้วจ้า กล้องSD อีก 3 คัน


ภายในโอบี คนที่นั่งอยู่คือช่างเทคนิค แต่เรียกทั่วไปว่าCCU คอยคอนโทรลเรื่องแสงสีของกล้องและคอยควบคุมเครื่องบันทึกภาพเสียง


รีโมทที่ใช้ควบคุมแสงสีของกล้องทั้ง 3 ตัว สังเกตจะมี 3ชุด


เครื่องบันทึก SONY XD CAM เป็นของบังคับของเอ็กแซ็กท์ และเวิคพ้อยน์


เสารับสัญญาณไวเลส พร้อมกล่องRF Amp. ลากสายไปตั้งหน้าเซ็ตได้เกือบ 100 เมตร ไม่ต้องยกรีซิฟเวอร์ให้ยุ่งยาก


เซ็ตโอบี 8 กล้อง ถ่ายทอดสดรายการเดอะเทนเนอร์ครับ วันเสาร์ทางช่อง 9 เครื่องมือทั้งหมดเป็นของ DBS เช่นกัน


ห้องโอบีถ่ายทอดสดเดอะสตาร์ 8 กล้อง 8เรคคอร์ดที่เห็นอยู่ข้างหลังผม โดยใช้ทั้ง XD CAM และ AJA

รูปทั้งหมดถ่ายในวันนี้ครับยกเว้นโอบีเดอะเทนเนอร์และเดอะสตาร์  ส่วนภาพอุปกรณ์อื่นๆหาดูได้จากเฟสบุ้คผมน่ะครับ ชื่อ jaysoundman

บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 2 คะแนน ความดี +51 ซ่อน
koon5666 ความดี +50 2013-07-10 บทความที่ดีเยี่ยม, สนับสนุน!
lteam ความดี +1 2013-06-08 -
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
169
เงิน
3756
ความดี
3643
เครดิต
3390
จิตพิสัย
8662
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 16#  โพสต์เมื่อ: 2013-06-08


ปีกมาร



รักสุดฤทธิ์

นี่คือมอนิเตอร์แต่ไม่ใช่โอบีใช่ไหมครับ  แสดงว่าที่โอบีผู้กำกับรายการ (สวิชเชอร์) ตัดภาพแล้วส่งภาพมาให้ผู้กำกับดูที่มอนิเตอร์ที่เห็นในรูป ใช่ไหมครับ (ผมเข้าใจถูกไหมครับ)

เพราะเห็นพี่บอกว่ากองถ่ายสองกองนี้ใช้ 3 กล้อง พอดีเห็นมอนิเตอร์แค่ 1-2 ตัวเลยสงสัยน่ะครับ
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
169
เงิน
3756
ความดี
3643
เครดิต
3390
จิตพิสัย
8662
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 17#  โพสต์เมื่อ: 2013-06-08
พี jaysoundman ครับ คือว่าขอสอบถามเพิ่มเติมหน่อยนะครับ

1 บริษัทละครเขาเช่าโอบีและกล้องเหรอครับ ไม่มีของตัวเองเหรอครับ

2 ถ้าซื้อเองจะชุดละเท่าไรครับ สงสัยว่าทำไมบริษัทละครไม่ซื้อของตัวเอง


3 ขอรูปกล้อง ระบบโอบี การทำงานในกองถ่าย  เรื่องปีกมารและรักสุดฤทธิ์เพิ่มอีกได้ไหมครับ ผมและเพื่อนๆอยากเห็นครับ (ถ้าได้ภาพนักแสดงเพิ่มด้วยก็ดีเลยครับ)

ผมเห็นพี่ตอบกระทู้มานาน คิดว่าอายุมากมีหนวดเครา ที่ไหนได้หน้าเด็กมากเลย

(มีคำถามส่วนตัวบางอย่างขอถามทางข้อความลับนะครับ ไม่รู้ว่าพี่เปิดดูทางสมาร์ทโฟนได้หรือเปล่า)

บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ความดี +1 ซ่อน
lteam ความดี +1 2013-06-08 -
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
150
เงิน
490
ความดี
1710
เครดิต
1548
จิตพิสัย
3085
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 18#  โพสต์เมื่อ: 2013-06-08
ชอบกระทู้ถามเยอะๆตอบเยอะๆแบบนี้จังเลย
ขอบคุณทั้งผู้ถามและผู้ตอบครับ
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
169
เงิน
3756
ความดี
3643
เครดิต
3390
จิตพิสัย
8662
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 19#  โพสต์เมื่อ: 2013-06-08
อ้างอิง
อ้างอิงโพสต์18 ต้นฉบับโพสต์โดยlteamเมื่อ2013-06-08 13:19เผยแพร่ :
ชอบกระทู้ถามเยอะๆตอบเยอะๆแบบนี้จังเลย
ขอบคุณทั้งผู้ถามและผู้ตอบครับ



ตอนแรกผมกลับกลัวคนรำคาญซะอีก  กลัวมีคนมาด่าว่าถามอะไรเหมือนเด็กๆ เลยถามแบบเกรงๆ  ถ้ามีคนชอบก็ค่อยกล้าถามขึ้นหน่อยครับ

ขออภัยที่บางข้อผมต้องถามพี่jay ส่วนตัวนะครับ เพราะกลัวพี่เจย์ไม่สะดวกตอบตรงนี้น่ะครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
249
เงิน
798
ความดี
3490
เครดิต
3070
จิตพิสัย
8316
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 20#  โพสต์เมื่อ: 2013-06-08
ตอบกระทู้ตามลำดับนะครับ รูปมอนิเตอร์น้องเข้าใจถูกละครับ โอบีจะเป็นรถตู้แล้วส่งภาพมาที่มอนิเตอร์ผู้กำกับครับ และที่ว่า 3กล้อง แต่มีมอนิเตอร์ 2ตัวก็คือ บันทึก 2 เครื่องเรคคอร์ครับ โดยเครื่องที่ 1 จะตัดสวิตช์ตามปกติและภาพจะแสดงที่มอนิเตอร์ตัวแรก ส่วนเรคคอร์ดที่2 คือในจำนวน 3กล้องนี้ผู้กำกับจะสั่งให้บันทึกกล้องตัวใดตัวนึงยาวทั้งซีนครับ ภาพก็จะแสดงที่มอนิเตอร์ตัวที่2 โดยในโอบีจะมีเครื่องซีเล็คเตอร์สำหรับเลือกภาพจากกล้องตัวใดตัวหนึ่งมาเรคคอร์ดที่2 ครับ จริงๆจะบันทึก 3เรคคอร์ดยังได้เลย ขึ้นอยู่กับลูกค้า ข้อดีของ2เรคคอร์ด มันก็เหมือนถ่ายหนังอ่ะครับ ได้ภาพแอคติ้งและรีแอคติ้งทั้งหมด ได้มุมกล้องที่เราต้องการยาวทั้งซีน แล้วไปเลือกตัดต่อเอา และ เวลาถ่ายอินเสริจ 2คน ถ้ามี 2เรคคอร์ดก็ถ่ายครั้งเดียวจบ ได้หน้าทั้งพระเอกและนางเอก แต่ถ้าเรคคอร์ดเดียว ก็ต้องถ่ายทีละคน หรือจะสวิตช์เอาก็แล้วแต่ผู้กำกับสั่ง แต่บางทีแอคติ้งสีหน้าที่สำคัญก็ถูกสวิตช์ตัดออกไป ทำให้สู้แบบ 2เรคคอร์ดไม่ได้

เรื่องเช่าโอบี
1. บางบริษัทก็มีโอบีเป็นของตัวเองครับ แต่บางบริษัทไม่มี และมีแต่ไม่พอใช้งานครับ เช่น ทำละคร 5เรื่องแต่มีโอบี 3 คัน ก็ต้องเช่าอีก 2คันครับ

2.ถ้าซื้อเอง กล้องHDอุปกรณ์ครบทุกอย่างทั้งภาพและเสียง แบบออกกองละครได้สมบูรณ์แบบ ตกอยู่ที่คันละ 10ล้านบาทครับ

3. รูปการทำงานเดี๋ยวจะถ่ายมาลงให้ดูอีกครับ ในเฟสบุ้คผมก็มีนะครับ

    ส่วนคำถามส่วนตัวได้ตอบให้แล้วน่ะครับ
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
169
เงิน
3756
ความดี
3643
เครดิต
3390
จิตพิสัย
8662
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 21#  โพสต์เมื่อ: 2013-06-09
ขอบคุณมากครับพี่  ขอรบกวนสอบถามเพิ่มหน่อยครับ

1  กล้อง 3 ตัวที่ถ่ายไม่มีการ์ด หรือเทปเบต้าเรคคอร์ดในกล้องใช่ไหมครับ  แต่จะส่งภาพมาที่เครื่องเรคคอร์ดต่างหากใช่ไหมครับ  โดยจะเรคคอร์ดภาพขณะสวิชช์ชิ่งใช่ไหมครับ (จะเรคคอร์ดเฉพาะภาพที่เลือกสวิชช์แล้วใช่ไหมครับ)

2 ที่พี่บอกว่างานละครใช้ 3 กล้อง มีเครื่อง 2 เรคคอร์ด

เครื่องเรคคอร์ด 2ได้มุมกล้องที่เราต้องการยาวทั้งซีน แล้วไปเลือกตัดต่อเอา แสดงว่ายังตัดต่อตอนที่สวิชชิ่งยังไม่เสร็จสมบูรณ์ใช่ไหมครับ เลยต้องไปทำอีกรอบใช่หรือเปล่าครับ  

3  ที่ดาราวีดีโอให้ผู้กำกับละครเป็นสวิชเชอร์เองเพราะเหตุผลอะไรครับ

4 การตัดต่อจากการสวิชช์ในโอบีแบบของดาราวีดีโอจำเป็นต้องไปตัดต่ออีกครั้งไหมครับ เพราะเห็นว่าผู้กำกับทำเองแล้ว และเร่งออกอากาศด้วย

5 ทำไมดาราวีดีโอเลือกใช้แค่ 2 กล้อง

6  ละครค่ายอื่นๆใช้กี่กล้องกันครับ 3 กล้องมากสุดใช่ไหมครับ  

ถ้าจะใช้ 4-5 กล้องทุกฉากเลยจะได้ไหมครับ

7 พี่บอกว่า เครื่องบันทึกทุกชนิดที่ผมกล่าวไปนั้น บันทึกภาพพร้อมกับเสียงทั้งหมดครับ ต่างตรงที่ Input ของเสียงแต่ละเครื่องไม่เท่ากันครับ AJA ได้ 2แทร็ค P2 ได้ 4แทร็ค XD CAM ได้ 8 แทร็คครับ

ผมสงสัยว่าการบันทึกเสียงลงกล้องเลย คุณภาพเสียงจะสู้แบบมีการคอนโทรลด้วยระบบบันทึกเสียงต่างหากได้เหรอครับ

8 รูปเบื้องหลังจากกองถ่ายละครผมขอมากๆเลยนะครับ กล้องถ่าย โอบี อะไรแบบนี้ครับ

ในเพสบุคพี่ผมดูตั้งหลายวันแล้วครับแต่ยังได้เพิ่มอีกน่ะครับ

ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
249
เงิน
798
ความดี
3490
เครดิต
3070
จิตพิสัย
8316
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 22#  โพสต์เมื่อ: 2013-06-10
ครับผม
1. กล้องทั้ง 4 ยี่ห้อที่นิยมใช้ทำโอบีระดับสูงจะใส่การ์ดหรือเทปไม่ได้ครับ มียี่ห้อ Sony , Ikegami , Hitachi , Panasonic ขอไม่บอกชื่อรุ่นนะครับเพราะมันออกมาใหม่เรื่อยๆยังกะมือถือ 55

2. จะสวิตช์หรือไม่สวิตช์ยังไงก็ไม่สมบูรณ์อยู่ดีครับ ต้องไปตัดต่อแล้วทำเพลงลงเสียงเอฟเฟคต่างๆนานาอีกอยู่ดีครับ การที่ใช้ 2 เรคคอร์ดหรือมากกว่านั้นเหตุผลได้บอกไปแล้วคือได้ภาพแอคติ้งของนักแสดงคนนั้น ซึ่งบางทีแอคติ้งของคนนี้มีความสำคัญมาก จึงเรคคอร์ดต่างหากไปเลย แล้วไปเลือกตัดต่อเอาทีหลัง ทำให้งานออกมาดีครับ และถ้าฉากไหนมีนักแสดงแค่ 2คนคุยกัน เครื่องเรคคอร์ดก็เรคอร์ดไปเลยคนละอันไม่ต้องสวิตช์ เช่นเครื่องแรกเป็นหน้าพระเอก อีกเครื่องก็เป็นหน้านางเอก แต่การเรคคอร์ด 2เครื่องขึ้นไปก็อยู่ที่ลูกค้าด้วยนะครับ ว่างบเยอะไหม มีความละเอียดในการทำโปรดักชั่นมากแค่ไหน

3. เพราะว่าไม่มีสวิตเชอร์คนไหนรู้ใจเท่าผู้กำกับครับ ไม่ใช่ว่าเขาประหยัดงบจ้างคนน่ะ แต่การที่ผู้กำกับมาสวิตช์เอง ทำให้ได้ภาพตามที่ตนเองต้องการไม่มีผิดจังหวะ งานก็จะถ่ายทำเร็วขึ้นมากด้วย เพราะบางทีการที่มีคนมาสวิตช์ต่างหาก ถ้าไม่เก่งพอการตัดภาพก็จะออกมาเละเทะ เนื้อเรื่องไม่สนุก มุมกล้องไม่สวย และที่สำคัญคือผู้กำกับจะอารมณ์เสียเพราะว่าต้องถ่ายใหม่อีกเทคครับ เพราะภาพไม่ได้ดั่งใจเขา และน้องได้คำถามใหม่คือ แล้วทำไมบริษัททั่วไปถึงไม่ให้ ผกก.สวิตช์เอง เพราะว่าการแยกคนมาสวิตช์จะทำให้ผู้กำกับดูแอคติ้งของนักแสดงได้ละเอียดกว่า และ ผกก. ส่วนใหญ่ไม่เชี่ยวชาญในด้านการวางไลน์กล้อง มีสวิตช์เชอร์ก็มีข้อดีเพราะสามารถช่วยกันระดมความคิดในเรื่องของมุมกล้องสวยๆได้ และทำให้ ผกก.เบาแรงลง ไม่เหนื่อยในการทำงานครับ

4. ต้องผ่านห้องตัดต่อทุกกรณีครับ น้องอย่าคิดว่างานโทรทัศน์มันง่ายนะครับ จริงๆแล้วมันไม่ง่ายเลย ยกตัวอย่างถ้าเป็นละครผมจะเล่าขั้นตอนนะครับ คือการถ่ายทำไม่ว่าหนังหรือละคร น้องลืมไปหรือป่าวว่า เขาไม่ได้ถ่ายเรียง ฉากที่ 1 2 3...ไปถึงฉากจบน่ะครับ เขาถ่ายสลับกันไปสลับกันมา โดยบริหารจัดการฉากไหนที่โลเกชั่นเดียวกันก็จับมาถ่ายในวันเดียวกัน  คิวนักแสดงแต่ละคนได้ไม่ได้  และปัจจัยอื่นๆ ดังนั้นการถ่ายทำในแต่ละอาทิตย์ฝ่ายห้องตัดต่อจะมีเจ้าหน้าที่ลำดับภาพ คือเรียงซีนนั่นเอง แต่ก่อนที่จะทำอะไรกับเทปหรือไฟล์งาน เขาจะทำการก็อปปี้สำเนาไว้ก่อนทั้งเทป เผื่อเกิดการผิดพลาดจากหลายๆอย่าง ถ้าภาพหายหรือมีคนกดผิดไปลบเทป เทปที่ก็อปปี้ไว้ก็ยังอยู่ ฝ่ายลำดับภาพก็จะทำการเอาฉากที่ได้ถ่ายทำมา มาเรียงต่อกันในเทปให้เปนลำดับฉาก 1 2 3 4 ไปเรื่อยๆ ฉากไหนที่ยังไม่ถ่ายก็จะเว้นไว้ แล้วก็จดบันทึกไว้ แต่ปัจจุบันเป็นไฟล์งานหมดแล้ว เขาก็จะทำการคัดไฟล์แต่ละฉากนำมาเรียงกันในโฟลเดอร์ ตั้งชื่อซีนที่ 1 ที่2 ที่ 3 ไปเรื่อยๆ แล้วน้องอย่าลืมว่าแค่ฉากเดียว มันไม่ได้มีแค่ไฟล์เดียวนะครับ เพราะการถ่ายทำบางทีก็ถ่ายหลายเทค หลายมุมกล้อง หลายอินเสริจ แต่จะใช้ไฟล์ไหนคัทไหนเทคไหน เอาอะไรจับมาปะติดปะต่อกันบ้าง ได้มีการจดรีพอตท์ไว้แล้วตามที่ผู้กำกับสั่ง คนที่รับผิดชอบเรื่องพวกนี้คือตำแหน่งคอนทินิวและทามโค้ด พอฝ่ายลำดับภาพเรียงซีนครบทั้งตอนแล้ว(บทละครจะแยกเป็นตอนๆครับ 1ตอนคือเนื้อเรื่องที่จะออนแอร์ทางโทรทัศน์1วันครับ) เสร็จแล้วก็ส่งให้คนตัดต่อทำการตัดต่อดูเนื้อเรื่อง ตัดส่วนที่ไม่ใช้งานทิ้งต่อส่วนที่EDITหรืออินเสริจเข้าด้วยกัน พอได้ครบทั้งตอนแล้วจับเวลาทั้งหมดว่าได้กี่นาทีโดยบวกเวลาไตเติ้ลตอนเข้า-ออกโฆษณาด้วย สมมุติละครออนแอร์ 1ชั่วโมงทางโทรทัศน์ ก็ต้องมาลบเวลาโฆษณาออกด้วย สมมุติตัดโฆษณาออกแล้วเหลือ 40นาที ก็มาดูเนื้องานที่เราตัดต่อว่าเกิน40นาทีหรือขาด ถ้าเกินก็มาดูว่าฉากไหนสามารถตัดออกน้อยๆได้ หรือเพิ่มไตเติ้ลหัวท้ายให้ยาวขึ้นอะไรประมานนี้ เสร็จแล้วต้องแยกเป็นเบรกๆ ถ้าโฆษณา 5เบรกฝ่ายตัดต่อก็จะแยกเนื้อเรื่องเป็น 5ส่วนแล้วใส่ไตเติ้ลหัวท้ายทุกส่วน แต่การแยกก็ต้องแยกให้สนุกตื่นเต้นด้วย สังเกตุพอถึงฉากตื้นเต้นทีไรก็โฆษณามาทุกที นี่แหละคือการดึงดูดให้ผู้ชมอยากติดตามละครมากขึ้น
          พอตัดต่อ ใส่เอฟเฟค ใส่CG อะไรต่ออะไรที่เกียวกับภาพเสร็จ ก็ต้องส่งต่อไปยังห้องเสียง เช็คเสียงทั้งหมด บาลานซ์เสียงไดอะล็อกใหม่ในจุดที่ไม่เท่ากัน หรือถ้าเสียงมีปัญหามากๆไม่สามารถออนแอร์ได้ เขาก็จะสั่งให้ถ่ายใหม่ หรือพากย์เอาแล้วแต่เคส แต่ส่วนใหญ่จะถ่ายใหม่มากกว่า และที่สำคัญคนที่โดนด่าก็คือช่างเสียงนั่นเอง ว่าปล่อยให้เสียงที่ไม่ดีผ่านมาได้ไง พอเช็คบาลานซ์เสียงเสร็จก็ใส่ซาวน์เอฟเฟค เช่นเสียงปืน เสียงเตะต่อย ฯลฯ แล้วก็วางเพลงประกอบละคร ทุกอย่างต้องปรานีตครับ พอเสร็จขั้นตอนทั้งภาพและเสียงแล้ว ก็ต้องส่งให้เจ้าของบริษัทดูก่อน โดยดูพร้อมกันทั้งฝ่ายตัดต่อและวางเพลง เพื่อรับรู้และแก้ไขเนื้องานตามที่เจ้าของบริษัทสั่ง( เจ้าของบริษัทจะได้ยินคำเรียกบ่อยๆทางทีวีว่า " ผู้จัดละคร " )  พอผ่านทุกอย่างเสร็จก็ให้แมสเซนเจอร์นำเทปหรือฮาดดิสท์ไปส่งช่อง เสร็จแล้วช่องต้องทำการส่งให้กองเซ็นเซอร์ดูก่อนว่ามีสิ่งที่ไม่สามารถออกอากาศได้หรือป่าว เช่น คำหยาบ คำลามก ภาพลามากอนาจาร การแต่งกายที่วาบหวามมากๆ ภาพและเสียงที่หมิ่นพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ หรือส่อเสียดนักการเมือง ถ้ามีก็จะถูกแจ้งให้นำกลับมาแก้ไข ทำให้เกิดปัญหาล่าช้า ดังนั้นสิ่งพวกนี้ต้องดูให้ดีครับ

5. ทำไมเลือกใช้แค่ 2 กล้อง ก็คงสะดวกต่อการกดสวิตช์เชอร์ครับ เพราะกด 2ปุ่ม มันจำง่ายกว่า 3ปุ่ม แต่ช่างภาพก็จะเหนื่อยมากๆ เพราะเมื่อกล้องน้อยมุมกล้องและขนาดภาพก็จะน้อยตาม ดังนั้นช่างภาพต้องเปลี่ยนขนาดภาพตามคำสั่งให้ไวที่สุด คือใครผ่านบริษัทนี้มาได้ ถือว่าเก่งพอสมควรครับ

6. ค่ายอื่นใช้ 3กล้องหมดครับ แต่บางครั้งก็ใช่ว่าจะใช้ 3กล้องทุกฉาก ฉากที่ง่ายๆสั้นๆบางทีก็ใช้ 1-2 ตัวก็มีครับ และสาเหตุทำไมต้อง 3 กล้องถ้าน้องศึกษาในเวปนี้จะมีเรื่องของไลน์กล้องอยู่ หลักๆให้นึกภาพนักแสดงคุยกัน 2คน กล้อง 1 และ 3 ทิศทางการถ่ายจะไขว้กันเพื่อรับหน้านักแสดงคนนั้นๆ กล้อง1 ก็รับหน้าคนด้านขวา กล้อง 3 จะรับหน้านักแสดงด้านซ้าย ส่วนกล้อง 2 จะอยู่ตรงกลางทำขนาดภาพให้เห็นทั้ง 2 คนหรือไวด์ช็อทเป็นภาพกว้างมากๆได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้ตายตัวตลอด มันขึ้นอยู่กับซีนและการวางไลน์ของสวิตช์เขอร์ด้วย เพราะบางทีแอคติ้งของนักแสดงเยอะมาก กล้องทั้ง 3ก็สามารถทำหน้าที่แทนกันได้หมด ไม่ต้องห่วงเพราะการถ่ายทุกครั้งมีการซ้อมก่อน ถ้าไม่ดี ไม่สวย ก็เปลี่ยนมุมกล้องหรือวางไลน์กล้องใหม่ได้ แต่จริงแล้วบางวันก็สั่งกล้องมาเพิ่มอีก 1-2ตัวก็มี แต่เป็นกล้องเดี๋ยวสำหรับถ่ายในรถ ในเรือ หรือฉากที่ไม่จำเป็นต้องใช้โอบี กล้องพวกนี้แหละจะอัดเทปหรือใส่การ์ดได้

7. ถ้าน้องถามเรื่องคุณเสียง ถ้าเป็นกล้องใหญ่แบรนด์เนมที่พี่กล่าวไปนั้น ถ้ามันใส่เทปหรือการ์ดได้ คุณภาพเสียงดี100%ครับ  แต่น้องอย่าลืมว่าละครไม่ได้มีนักแสดงแค่ 1คนน่ะครับ นักแสดงมี 2คนขึ้นไปจำเป็นต้องมีการมิกซ์เซอร์ก่อนครับเพื่อให้ได้เรเวลที่มาตรฐาน และคุมในเรื่องของบาลานซ์ และเสียงเบาเสียงตะคอก ไม่ได้เกิดเสียงแตกได้ อีกอย่างอินพุทเอ้าท์พุทของกล้องก็ไม่สะดวกต่อการต่อสายเอาเสียงออกมาฟังครับ พี่ว่าในเรื่องของการบันทึกเสียงน้องยังมีความรู้ไม่มาก แต่ดีแล้วครับที่ถาม เอาง่ายๆเวลาน้องดูคอนเสริต ทำไมเสียงเครื่องดนตรีทุกชิ้นมันไพเราะ เสียงบาลานซ์เท่าๆกัน น้องดูละครทีวี หรือหนังที่ไหนก็แล้วแต่ เสียงที่น้องได้ยินมันผ่านการมิกซ์แบบสดๆมาก่อนทั้งสิ้นครับ
     คือนึกภาพเอาง่ายๆว่าระบบโอบี คือไม่ว่าจะมีกล้องกี่ตัว ยังไงก็ได้ภาพครั้งละ 1ภาพดังนั้นก็ต้องมีเครื่องเรคคอร์ดที่ไว้เรคอร์ดภาพและเสียง และอีกอย่างพี่ะบอกว่า การบันทึกเสียงเข้ากล้องนั้นอันตรายมากถ้าไม่มีความรู้ด้านเรเวลเสียง เพราะกล้องส่วนใหญ่ต้องอินพุทเสียงเข้าไปแค่นิดเดียวพอ เพราะฮาดแวร์ด้านเสียงของตัวกล้องมันบอบบางไม่มีคอมเพรสเซอร์ ไวต่อการเสียงแตกมาก เครื่องบันทึกทั่วไปและสถานีโทรทัศน์แบบอนาล็อกเสียงระดับปกติคือ 0 dB แต่กล้องดิจิตอล DSLR ดีวี เบต้า อื่นๆและการส่งสัญญาณถ่ายทอดสดแบบดิจิตอล (SDI ) ต้องปล่อยเสียงระดับปกติที่ -30 dB ครับ มากกว่านี้เสียงจะแตกเละเลย

8. รูปถ่ายมาเพิ่มให้แล้วครับ แต่พรุ่งนี้จะลงให้ครับเพราะต้องรีไซด์ไฟล์ภาพให้เล็กลงก่อน ตอนนี้ง่วงแล้วครับ ขอนอนก่อนครับ
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 3 คะแนน ความดี +21 ซ่อน
vfspostwork ความดี +10 2013-06-10 เยี่ยม
pixsolute ความดี +1 2013-06-10 -
mr.nantawat ความดี +10 2013-06-10 -
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
257
เงิน
3170
ความดี
4848
เครดิต
4702
จิตพิสัย
6514
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 23#  โพสต์เมื่อ: 2013-06-10
ชอบเหมือนกันครับกระทู้แบบนี้ ขอบคุณน้าเจย์ซาวแม้นด้วยนะครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
249
เงิน
798
ความดี
3490
เครดิต
3070
จิตพิสัย
8316
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 24#  โพสต์เมื่อ: 2013-06-10
ยินดีครับ การแบ่งปันความรู้ซึ่งกันและกัน ก่อให้เกิดมิตรภาพ และทำให้มีความรู้เพิ่มขึ้นด้วย รูปที่ขอเพิ่มตามด้านล่างครับ


ถ่ายที่ศาลแพ่ง รัชดา


ถ่ายที่กรมป่าไม้


เช้าตรู่ ทีมไฟกำลังขนอุปกรณ์ลงจากรถ


เรียงอุปกรณ์ไฟให้เป็นระเบียบ


รถโอบีที่ใช้ถ่ายเรื่องนี้(ปีกมาร) จอดในที่ประจำ การจอดรถทุกคันจะต้องไม่ให้เห็นในไลน์กล้องด้วย


ท้ายรถโอบีขณะยังไม่ใช้งาน


ท้ายรถโอบีเมื่อใช้งาน


แผงต่ออินพุทและเอ้าท์พุทของภาพและเสียงที่ท้ายรถโอบี (แก้วโค้กไม่เกี่ยว 55)


รถเครื่องปั่นไฟ กองนี้ใช้บริษัทไฟ แฮนดี้เกียร์ (ซันไลท์ติ้งเก่า)


กาฟเฟอร์(คนซ้าย)และลูกทีมช่วยกันประกอบไฟเพื่อสแตนบายรอถ่าย


ผู้ช่วยช่างภาพประกอบกล้องและนำกล้องมาเรียงเพื่อรอบล็อกกิ้ง


เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จ ก็จะมารอกันที่หน้าเซ็ตของฉากแรกที่จะถ่าย ที่นั่งอยู่คือแบ็งค์ ผู้ช่วยผู้กำกับ 2(หน้าเซ็ตหรือเวที)


นักศึกษาฝึกงานได้รับมอบหมายให้คอยยิงเสลทของทุกฉาก


ช่วยกันเคลียร์แบล็คกราวน์ เคลียร์รองเท้าหน้าบ้านและจุดที่จะเห็นในเฟรมกล้อง


ผู้กำกับมาบล็อกกิ้ง จากซ้ายไปขวาคือ พี่ติ(ผู้กำกับ) มี่(ผช.ผู้กำกับ1) พี่ก้ง(สวิชเชอร์) น้าหมึก(กาฟเฟอร์) ทุกคนเป็นพนักงานของเอ็กแซกท์ เสื้อฟ้าที่นั่งอยู่คือ พี่หน่อย ช่างภาพฟรีแลนซ์ประจำ


เมื่อบล้อกกิ้งและวางไลน์กล้องเสร็จกาฟเฟอร์จะสั่งให้ทีมไฟจัดไฟตามคำสั่ง ในภาพช่างไฟกำลังดูความเรียบร้อยของเดย์ไลท์


ขณะเดียวกัน ผช.ช่างภาพจะนำกล้องทั้ง3ตัวมาเข้าไลน์กล้อง ( หมายเหตุ การถ่ายในบ้านจะแต่งตัวตามสบายรองเท้าแตะได้ เพราะต้องถอดเข้าออกบ่อย)


ซ้าย พี่หน่อยช่างภาพ กลางนักศึกษาฝึกงาน ขวา ผช.ช่างภาพ


ภาพรวมของหน้าเซ็ตในฉากนี้


เรียกนักแสดงออกมาบล้อกกิ้ง ในภาพมี ปูโลกเบี้ยว แป้งอรจิรา และหนุ่มศรราม


บล็อกกิ้งและซ้อมบท




บล็อกกิ้งและซ้อมบท


ช่างไฟดูความเรียบร้อยของมินิจิ้บ


มินิจิ้บ(บางกองถ่ายเรียกเครนตั้กแตน)


รีแล็คระหว่างรอนักแสดงมาเข้าฉาก


วิวไฟเดอร์กล้อง


ขาสูงแต่จะเรียกกันแพร่หลายว่า "น้องแน็ท"


ผมเอง หน้าดำคร่ำเครียดเพราะอากาศร้อนมาก ภาพนี้ถ่ายที่กอง เมโลดี้360องศารัก

   ถ่ายภาพมาให้ชมตามใจผู้ขอแล้วน่ะครับ หวังว่าจะได้ความรู้จากภาพและจากผมไม่มากก็น้อยน่ะครับ สวัสดีครับ



บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 2 คะแนน ความดี +21 ซ่อน
vfspostwork ความดี +10 2013-06-11 -
mr.nantawat ความดี +11 2013-06-10 -
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
169
เงิน
3756
ความดี
3643
เครดิต
3390
จิตพิสัย
8662
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 25#  โพสต์เมื่อ: 2013-06-10
กราบงามๆเลยครับที่ให้ความรู้ และยังนำภาพมาให้ชม

ขออนุญาตนำภาพไปแชร์เวบอื่นด้วยนะครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
249
เงิน
798
ความดี
3490
เครดิต
3070
จิตพิสัย
8316
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 26#  โพสต์เมื่อ: 2013-06-11
ได้เลยครับผม
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
169
เงิน
3756
ความดี
3643
เครดิต
3390
จิตพิสัย
8662
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 27#  โพสต์เมื่อ: 2013-06-11
มีพี่คนหนึ่งฝากมาถามว่า สมมุติว่าพี่แกจะใช้กล้อง dslr 5 d mark 3 ถ่ายละคร ใช้บูมอัดเสียงลงกล้องเลย

อัดเสียงแบบนี้พอจะเป็นละครแพร่ภาพทางทีวีได้หรือเปล่าครับ คุณภาพเสียงได้หรือเปล่าครับ  
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
249
เงิน
798
ความดี
3490
เครดิต
3070
จิตพิสัย
8316
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 28#  โพสต์เมื่อ: 2013-06-11
ไม่ได้ครับ ไมค์บูมมีข้อจำกัดของมันในเรื่องของเฟรมภาพและจำนวนตัวละครครับ พี่จะบอกว่าหนังเขาใช้ทั้งไวเลสและไมค์บูมอัดแยกแทร็คพร้อมกันน่ะ โดยมีมิกซ์เซอร์เป็นตัวบาลานซ์และคุมเรเวลด้วยครับ
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
169
เงิน
3756
ความดี
3643
เครดิต
3390
จิตพิสัย
8662
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 29#  โพสต์เมื่อ: 2013-06-12
ซํ็า
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้