สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 22137เข้าชม
  • 33ตอบกลับ

ว่ากันด้วยเรื่องโฟกัส

ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
394
เงิน
7818
ความดี
8913
เครดิต
9171
จิตพิสัย
9646
จังหวัด
นครนายก
จริงๆแล้วไม่ได้ตั้งกระทู้นี้เพื่อให้ความรู้นะครับ แต่อยากให้เป็นที่รวมความรู้ของพี่ๆผู้มากประสบการณ์

เข้าเรื่องเลยดีกว่า

คือผมสงสัยมานานแต่ไม่กล้าถามกลัวจะหาว่าโง่ ปกตินี่เวลาถ่ายภาพยนตร์หรือแม้กระทั่ง
หนังสั้น เราจะมีคนคอย follow focus ให้ต่างหากใช่หรือไม่ครับ (อันนีคำถามที่1)
ถ้าใช้ แล้วท่านใดพอจะอธิบายการทำงานได้หรือไม่ (คำถามที่2)
แล้วมันต้องใช้จอที่ต่อตั่งหากด้วยใช่หรือไม่ ถ้าใช่แล้วปกติถ้าโฟกัสเองมันช่วยให้สะดวกกว่าหรือไม่(คำถามที่3)

เอาแค่นี้ก่อนแล้วกันครับไม่รู้ว่าจะมากไปรึเปล่า  ยังไงก็ขอบคุณล่วงหน้าเลยนะครับ


บทความที่เกี่ยวข้อง

ake
โพสต์
4768
เงิน
34014
ความดี
117475
เครดิต
125435
จิตพิสัย
118050
จังหวัด
เชียงใหม่

1. ปกตินี่เวลาถ่ายภาพยนตร์หรือแม้กระทั่ง หนังสั้น เราจะมีคนคอย follow focus ให้ต่างหากใช่หรือไม่ครับ
ตอบ แล้วแต่ครับ โดยส่วนใหญ่จะกำหนดจุดโฟกัสไว้เรียบร้อยแล้วจึงไม่ได้ปรับไปมาให้ focus แกว่ง
ถ้ามีโอกาสที่จะหลุด focus จะใช้ f ที่สูงขึ้นเพื่อให้ dof กว้างมากขึ้นครับ

2. ถ้าใช้ แล้วท่านใดพอจะอธิบายการทำงานได้หรือไม่
ตอบ ในกรณีที่กล้องต้องเคลื่อนที่และใช้ค่า f ที่ต่ำ ก็เป็นไปได้ที่ต้อง focus ตลอดเวลา
ก็เลยมีอีก 1 คนที่ทำหน้าที่ focus คนถือกล้องจะได้ไม่ต้องพะวงกับเรื่อง focus จะได้เอาเวลาใส่ใจกับ frame ครับ

3. แล้วมันต้องใช้จอที่ต่อตั่งหากด้วยใช่หรือไม่ ถ้าใช่แล้วปกติถ้าโฟกัสเองมันช่วยให้สะดวกกว่าหรือไม่
ตอบ ต่อจอเพิ่มหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมครับ ถ้าตากล้องใส่ใจรายละเอียดใน frame เหลือสติไว้ focus ด้วยก็ focus เองได้ครับ
ส่วนใหญ่ที่ผมทำงานจะคิดไว้ก่อนว่าต้อง focus จุดไหน จากนั้นก็บิดเองครับ (หาคนช่วยไม่ได้นั่นเอง )

รอท่านอื่นมาแบ่งปันประสบการณ์ต่อครับ
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 2 คะแนน ความดี +2 ซ่อน
beer7 ความดี +1 2013-01-29 -
rak ความดี +1 2011-12-08 -
โพสต์
644
เงิน
16847
ความดี
14761
เครดิต
14339
จิตพิสัย
20875
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

ไหนๆจะคุยแล้ว แอบนอกเรื่องยาวๆเลยดีกว่า

ในสายงานภาพยนตร์นั้น (ถ้าถ่ายกล้อง film นะครับ) ใหญ่สุดคือผู้กำกับภาพครับ คนนี้ดูแลทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องภาพ มุมกล้อง ขนาดภาพ การเคลื่อนกล้อง แสง ในแง่ของแนวคิด และต้องมีความรู้เรื่องประเภทของฟิล์ม (Film type) และยังต้องมีความรู้ในกระบวนการแล็ปอีก

รองลงมาคือช่างภาพครับ มีหน้าที่ดูแลคอมโพสของภาพ และการเคลื่อนที่ของกล้อง ทั้ง แพน ทิลด์ แทรก เครน กล้องฟิล์มนี่ทั้งใหญ่ทั้งหนัก รวมเลนส์ และวีดิโอเอ็กซีสท์ไปก็หลายกิโลอยู่ ยิ่งอยู่บนจิ๊บหรือสเตดิแคมนี่ยิ่งแล้วใหญ่ครับ ประคองเฟรมอย่างเดียวก็แย่แล้ว

จึงมีผู้ช่วยโผล่มาอีกหนึ่ง เราเรียกว่าผู้ช่วยหนึ่ง มีหน้าที่ดูแลโฟกัส หรือศัพท์เท่ห์ๆก็ Fogus Puller คนนี้จะเอาสายวัดไปคอยวัดระยะระหว่างนักแสดงกับกล้องในแต่ละมาร์ค แล้วก็จะมาติ๊กที่ตัวแหวนทดโฟกัส จากนั้นเวลาถ่ายก็หมุนเอาตามนั้น ถ้าหน้ากล้องกว้างมาก เดปท์เยอะ ก็ต้องใช้ความสามารถมากหน่อยครับ บางทีผู้ช่วยคนนี้ก็จะดูแลเรื่องการเปลี่ยนเลนส์ด้วย

ต่อมาเป็นผู้ช่วยสอง มีหน้าที่จดรีพอร์ตกล้อง จดทุกอย่างครับ ไม่ว่าจะเป็นฟืต(ความยาวฟิล์มที่เราถ่ายไป) หน้ากล้อง สปีต องศาชัตเตอร์ ม้วนฟิล์ม ขนาดของเลนส์ ซีน คัท เทค ตามสเลจ เพื่อเป็นประโยชน์ในกรณีที่ต้องถ่ายซีนต่อกันในคราวหน้า หรือการถ่ายเพิ่ม หรือถ่ายซ่อม บางทีผู้ช่วยคนนี้ก็จะตีสเลจให้ซะเลย

แล้วก็ยังมีผู้ช่วยสาม คนนี้เราเรียกโหลดเดอร์  Loader มีหน้าที่เอาฟิล์มใส่แม๊กกาซีน (ม้วนเล็ก 100 ฟิต ประมาณ 3 นาที ม้วนใหญ่ 400 ฟิต ประมาณ 12 นาทีครับ ขนาดของแม็กกาซีนก็จะแตกต่างกันไป) แล้วก็มีหน้าที่เอาฟิล์มออกจากแม็กกาซีนมาใส่กล่อง เหมือนกับฟิล์มภาพนิ่งครับมันไม่สามารถโดนแสงได้เลย ดังนั้นผู้ช่วยคนนี้ก็จะมีโต๊ะส่วนตัวพร้อมกับถุงสีดำๆที่มีรูเหมือนแขนเสื้อให้เอาแขนสอดเข้าไปเพื่อถอดเปลี่ยนฟิล์ม ก่อนถ่ายเข้าไปเป็นกล่องออกมาเป็นแม็กกาซีน  หลังถ่ายเข้าไปเป็นแมกกาซีนออกมาเป็นกล่องมีกระดาษกาวพันเรียบร้อย

คนต่อมาคือ วีดิโอแมน มีหน้าที่ต่อสัญญาณภาพจากวีดิโอเอ็กซีสท์ มาที่มอนิเตอร์ของผู้กำกับ แล้วก็บันทึกวีดิโอเป็นวีเอชเอส เดี๋ยวนี้ก็คงเป็นมินิดีวี คุณภาพของภาพแค่พอดูได้ครับ ส่วนภาพจริงนั้นต้องรอส่งแล็ปล้างก่อน

คนสุดท้าย เด็กดีที่สุด หรือเบสบอย ทำทุกอย่างครับ ลากสาย ขนของ


ส่วนกล้องอย่าง Dslr ถ้าต่ออุปกรณ์สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ครบเซ็ท ผมว่าการใช้ผู้ช่วยกล้องก็คงไม่ต่างจากนี้มากครับ....

ถามเรื่องโฟกัสตอบมันไปเรื่อยเปื่อยเลยตรู....
ดูเพิ่มเติม บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 11 คะแนน ความดี +8 เงิน +4 ซ่อน
thadthum ความดี +1 2016-01-05 โอ้ววว สว่างเลย
beer7 ความดี +1 2013-01-29 -
absinthe ความดี +2 2012-06-21 โพสได้ดีเยี่ยม
mr.mas ความดี +1 2012-01-15 -
roengtaro ความดี +1 2011-12-15 -
yuyayippy ความดี +1 2011-11-05 ได้ความรู้เยอะเลยครับ
adisakfc ความดี +1 2011-03-08 เยี่ยมมากครับ
cameraboy เงิน +1 2010-11-06 เยี่ยม
gotchastudio เงิน +1 2010-10-26 -
singfirewire เงิน +1 2010-08-21 -
ด้วยความเคารพ
ake
โพสต์
4768
เงิน
34014
ความดี
117475
เครดิต
125435
จิตพิสัย
118050
จังหวัด
เชียงใหม่

โอ้ว ตอบได้กระจ่างเลยครับ ขอบคุณครับ
โพสต์
2233
เงิน
39418
ความดี
31452
เครดิต
30299
จิตพิสัย
73899
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 4#  โพสต์เมื่อ: 2010-04-19
ปกตินี่เวลาถ่ายภาพยนตร์หรือแม้กระทั่ง
หนังสั้น เราจะมีคนคอย follow focus ให้ต่างหากใช่หรือไม่ครับ (อันนีคำถามที่1)

ถ้ามีได้ก็จะดีครับ ระบบสากลเขาใช้กันมาจนเป็นมาตรฐาน สำหรับสบายๆ แบบ ไทยๆ อาจดูเป็นยุ่งยากและตลก
แต่ความยุ่งยากในขั้นตอนที่จำเป็น นำมาสู่งานที่ดีครับ แต่ต้องระวังไว้ด้วย ถ้าใช้ทีมที่ยังไม่มีความเป็นมืออาชีพพอกับระบบมาตรฐาน อาจเกิดความยุ่งยากขึ้นมาอีกแบบ แต่เป็นความยุ่งยากในเรื่องคน ทำให้มีผลเสียกับงานได้


2. ถ้าใช้ แล้วท่านใดพอจะอธิบายการทำงานได้หรือไม่

หลังจากที่ผู้กำกับภาพตั้งกล้องเลือกมุมกันแล้ว นักแสดงแทนเข้าบล๊อคเช็คโฟกัส ผู้ช่วยกล้อง 1 หรือ โฟกัส พูลเลอร์ที่ว่า ก็จะเช็คระยะโฟกัสทันทีครับ ระยะที่ ไม่เดฟมาก ไม่เทเล่มาก ตัวละครไม่เคลื่อนที่มาก บางทีก็ไม่ใช้สายวัด กะๆเอา


3. แล้วมันต้องใช้จอที่ต่อตั่งหากด้วยใช่หรือไม่ ถ้าใช่แล้วปกติถ้าโฟกัสเองมันช่วยให้สะดวกกว่าหรือไม่

ถ้ามีต่อตะหากมันก็ดีกว่าครับ แต่ปกติผมใช้กล้อง HD หรือ HDV ถ้าไม่มีจอต่อแยก ก็จะให้ผู้ช่วยดู LCD ของกล้องเต็มๆไปเลยครับ ส่วนผมดูวิวไฟน์เดอร์ เพราะถนัดตากว่าทั้ง คนถ่าย และ ผู้ช่วย โฟกัสเอง ยังไงก็ไม่สะดวกกว่าหรอกครับ ถ้าจะโฟกัสเอง แนะนำ auto ไปเลย แต่ไม่รู้ว่า HDSLR มีหรือเปล่า ยังไม่เคยใช้

ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับความถนัด ของแต่ละบุคคลเป็นหลักด้วยครับ

ประมาณนี้
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
ake เงิน +1 2010-04-19 -
ระดับ : สมาชิก I
โพสต์
9
เงิน
206
ความดี
323
เครดิต
243
จิตพิสัย
245
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 5#  โพสต์เมื่อ: 2010-04-19
^^^ ตามนั้นเเหละครับ production ไทยบางทีต้องปรับเเต่ง ให้เข้ากับงบ 555

dslr ไม่มี autofocus คับพี่ป้อม สเกลที่เลนส์ dslr หยาบกว่า เลนส์ 35 ต้องค่อยๆคลึง
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
394
เงิน
7818
ความดี
8913
เครดิต
9171
จิตพิสัย
9646
จังหวัด
นครนายก
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 6#  โพสต์เมื่อ: 2010-04-19
ขอบคุณพี่ๆทุกท่านที่มาแชร์ความรู้ดีๆแบ่งปันกันนะครับเชื่อว่าทุกๆคำตอบของพี่ๆจะเป็นความรู้ใหม่ๆสำหรับใครหลายๆคน

อย่างน้อยก็ผมคนนึงหล่ะคร้าบบบบบบ
ระดับ : สมาชิก III
โพสต์
44
เงิน
743
ความดี
751
เครดิต
772
จิตพิสัย
795
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 7#  โพสต์เมื่อ: 2010-04-19
Focus Puller เก่งๆกะระยะด้วยตาแม่นปานนักชี้เป้าเลยครับ กล้องขึ้นเครน ยังโฟกัสได้สบายๆตรงเป๊ะยังกะวัดมาแล้วก็ไม่ปาน ซึ่งจริงๆแล้วเป็นตำแหน่งที่สำคัญมาเลยนะครับ คนนี้พลาดนี่ก็ล่มกันทั้งงานเลย

เดี๋ยวนี้ผมเห็น video assist ต่อกับ dvd recorder ก็มีครับ ดูง่ายดี ไม่ต้องกรอเทปแบบ mini dv ผู้กำกับโฆษณาหลายๆคนต่อเข้าโน้ตบุ๊ค ลองตัดดูเดี๋ยวนั้นเลยก็มีครับ (ที่ผมเคยเห็นใช้ imovie อย่่างง่ายๆเลยครับ)

ส่วนฟิล์ม 35 นี่ม้วนปกติคือ 400 ฟุตอยู่แล้วนะครับ ถ่ายได้ราว 4 นาทีครับ ส่วนม้วนใหญ่คือ 1000 ฟุต ครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
284
เงิน
7731
ความดี
5980
เครดิต
6424
จิตพิสัย
6162
จังหวัด
ปทุมธานี

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 8#  โพสต์เมื่อ: 2010-08-21
ระดับ : สมาชิก II
โพสต์
13
เงิน
489
ความดี
538
เครดิต
510
จิตพิสัย
436
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 9#  โพสต์เมื่อ: 2010-11-18
ระดับ : สมาชิก II
โพสต์
13
เงิน
314
ความดี
295
เครดิต
331
จิตพิสัย
218
จังหวัด
อุบลราชธานี
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 10#  โพสต์เมื่อ: 2011-03-01
หนทางเรายังอีกยาวไกลนัก แต่สู้ๆครับ
โพสต์
695
เงิน
13583
ความดี
11808
เครดิต
12362
จิตพิสัย
17399
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 11#  โพสต์เมื่อ: 2011-03-01
ในกองถ่ายภาพยนตร์ ตำแหน่ง Focus Puller เป็นตำแหน่งที่ค่าตัวแพงใช้ได้อยู่เชียวแหละ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
224
เงิน
6463
ความดี
4642
เครดิต
4977
จิตพิสัย
5999
จังหวัด
* ต่างประเทศ *

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 12#  โพสต์เมื่อ: 2011-03-01
อ้างอิง
อ้างอิงโพส 2 ต้นฉบับโพสโดย foolmoon เมื่อ 2010-04-19 01:37  :
ไหนๆจะคุยแล้ว แอบนอกเรื่องยาวๆเลยดีกว่า

ในสายงานภาพยนตร์นั้น (ถ้าถ่ายกล้อง film นะครับ) ใหญ่สุดคือผู้กำกับภาพครับ คนนี้ดูแลทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องภาพ มุมกล้อง ขนาดภาพ การเคลื่อนกล้อง แสง ในแง่ของแนวคิด และต้องมีความรู้เรื่องประเภทของฟิล์ม (Film type) และยังต้องมีความรู้ในกระบวนการแล็ปอีก

รองลงมาคือช่างภาพครับ มีหน้าที่ดูแลคอมโพสของภาพ และการเคลื่อนที่ของกล้อง ทั้ง แพน ทิลด์ แทรก เครน กล้องฟิล์มนี่ทั้งใหญ่ทั้งหนัก รวมเลนส์ และวีดิโอเอ็กซีสท์ไปก็หลายกิโลอยู่ ยิ่งอยู่บนจิ๊บหรือสเตดิแคมนี่ยิ่งแล้วใหญ่ครับ ประคองเฟรมอย่างเดียวก็แย่แล้ว
.......


คุณ foolmoon ตอบได้ชัดเจน แต่อยากจะเพิ่มเติมว่า เวลาถ่ายพวก หนัง low budget ไม่มีเงินพอจะจ้างทุกตำแหน่ง
ดังนั้น 1stAc จึงเหมาทำหน้าที่หมด เนื่องด้วยถ่ายโดย digital เลยไม่ต้องมี loader รายละเอียดที่ 2stAC ต้องจด
ก็ไม่จำเป็นมาก เพราะเรียกดูในโปรแกรมได้ ถ้าอยากจดก็ให้พวก continuity จด

โดยส่วนตัวเวลาเป็น DP ต้องการ focus puller มากๆ ขาดไม่ได้ เพราะเมื่อเป็นหนังทุนต่ำ
DP ก็ต้อง operate เอง แล้วก็ห่วงเรื่องไฟ การเล่าเรื่องของ shot นั้นๆ แม้บางทีวางแผนมาดีแล้ว แต่ก็มีการปรับเปลี่ยนหน้ากอง
เคยทำงานไม่มี AC หรือมี แต่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ เหนื่อยมากๆๆๆๆๆๆ

การทำงานตามประสบการณ์ที่เคยทำ ถ้าเป็นกล้องฟิล์มก็ต้องทำแบบที่คุณ foolmoon บอก
แต่เวลาถ่ายด้วย Red หรือ DSLR ใช้การปุ่มเช็ค focus ที่กล้องมีมา mark หัวท้าย สรุปว่าการทำงานคล้ายกัน
แต่ฟิล์มยุ่งยากกว่า ละเอียดกว่า ทำๆไปจะรู้ทริค เช่น เวลาคนเดินเข้ากล้อง ไกลๆก็หมุนช้า ใกล้ๆก็หมุนเร็ว
ถ้ามีประสบการณ์จริงๆ ไม่ต้องใช้ monitor ก็ได้ หรือบางกรณีอยากใช้ก็ใช้ไม่ได้ เช่น stedicam shot ที่ใช้ wireless follow focus

ส่วนตัวแล้วถ้าไม่นับงาน event ต่อให้มี auto focus ก็ไม่ใช้อยู่ดี
เพราะกล้องมันไม่รู้ใจเราหรอก ว่าเราอยาก focus ตรงไหน นานเท่าไหร่ และอยาก rack focus ไปไหนต่อ

โพสต์
659
เงิน
24612
ความดี
22220
เครดิต
22966
จิตพิสัย
22999
จังหวัด
เชียงใหม่

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 13#  โพสต์เมื่อ: 2011-03-01
ขออณุญาตไหลต่อ รู้สึกกระทู้นี้กำลังมันส์ ฮ่าๆๆๆ

เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ เรื่องเลนส์กับการโฟกัสครับ เผื่อบางคนสนใจ

คือเนื่องจากความสามารถของกล้อง DSLR ในการสร้างมิติของภาพมีสูงคล้่ายกล้องฟิล์ม ปรับชัดลึกชันตื้นได้อย่างสนุกสนานเลยกันทีเดียว

แต่เลนส์ autofocus ภาพนิ่งที่เราใช้ๆกัน กลับไม่ค่อยเอื้อกับการเลี้ยงโฟกัสตาม เพราะเลนส์เหล่านี้ไม่ได้ถูกออกแบบให้ช่างภาพหรือ puller ให้ใช้งานแบบ full manual แบบการถ่ายทำภาพยนตร์ แต่มันถูกออกแบบมาให้มีรอบโฟกัสที่สั้น (short-throw)  เพื่อจะให้ระบบ autofocus โดยรวมทำงานได้ไว เหมาะสำหรับการถ่ายภาพน่ิง ปัญหาที่เกิดขึนตามมาคือ การเลี้ยงโฟกัสด้วยกล้อง DSLR จึงอยากกว่าเลนส์ที่ใช้กับกล้องฟิล์ม ทำให้มีโอกาสหลุดโฟกัสได้ง่าย ถ้าใครเคยมาร์คจุด บน follow focus ก็คงจะรู้ดี ว่ามันห่างกันน้อยมาก บิดนิดเดียวเอง ไม่ละเอียดเอาซะเลย

วิธีแก้มีหลายวิธีครับ ตามงบ

ไม่มีงบเลย
1. ยอมลด f-stop ลง สำหรับ shot ที่เคลื่อนไหวกันเยอะ
2. ถ้าไม่ยอมลด อยากได้ bokeh ฟุ้งเว่อร์ ก็ต้องฝึก skill ข้อมือและปลายนิ้ว เอาจนแบบว่าไม่มีหลุดเลย จึงจะถือว่าผ่านนะ       

มีงบบ้าง
1.ซื้อ อุปกรณ์เสริมสำหรับ follow โฟกัสเช่น speed crank หรือ whimp สิ่งหล่านี้จะช่วยให้การเลี้ยงโฟกัสง่ายขึ้นมากๆ คอนโทลง่ายขึ้นกว่าหมุน follow ปกติมาก แนะนำให้ซื้อ

มีงบเป็นก้อนระดับหนึ่ง
1. ซื้อ follow focus แพงๆ วงใหญ่ๆ จะช่วยให้โฟกัสละเอียด ขึ้นไปอีก (เอาแบบในรูป avatar ผมเป็นต้น ฮ่าๆๆ       )
2. ซื้อ จอ monitor ดีๆ อย่าง marshall เป็นต้นไป (ไม่เอาจอแบบคลองถมนะ) จอชัดๆดีๆ ทำให้ focus ได้แม่นยำยิ่งขึ้นจริงๆนะ คอนเฟริม
3.เอากล้องไปแปลงเป็น PL-mount  แล้วไปเช่าเลนส์พวก master prime มาใช้เลย เอาเลนส์หนังจริงๆมาใช้งานกันเลย ไม่ต้องห่วงเรื่อง short thow อีกแล้ว แถม puller จะได้ไม่ต้องเหงืื่อตกตลอดเวลา ฮ่าๆๆ  แต่ก็อย่างที่รู้กัน แปลงแล้วแปลงเลย ทั้งชีวิตนี้ต้องเช่าเลนส์มาใช้ตลอดไป

รวย
1.ซื้อ เลนส์อย่าง  Zeiss CP .2 ครบชุด รอบโฟกัส 300 องศา เป็นเลนส์ภาพยนตร์ชุดแรกที่ออกแบบมาให้ใช้กับ  DSLR มีทั้ง EF-mount, F-mount แล้วก็ PL-mount ไม่ต้องกังวลเรื่องแปลงเม้าส์อีกต่อไป แต่มากังวลเรื่องตังค์ลงทุนดีกว่า

ตอบตามประสบการ์ณจากที่เคยลองใช้นะครับ



[ แก้ไขล่าสุดโดย victormc49 เมื่อ 2011-03-01 14:01 ]
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
247
เงิน
6965
ความดี
5192
เครดิต
5302
จิตพิสัย
6749
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 14#  โพสต์เมื่อ: 2011-03-08
สุดยอดมากครับ อ่านจบมีความรู้ขึ้นเป็นกิโลเมตร
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้