คอยดูผมจะใช้ NOKIA  Lumia 1020 แทน 60D  ถ่ายหนังใหญ่  &  2-7-56 +บท TAXI Meเธอ

คันนี้แหละ TAXI  Meเธอ

Guide Line Movie Project  ( new mail   diewmusic@gmail.com   081-375-2626 )

1 ในผลงานหนังเล็กๆความยาว 1 ชม. 3 เรื่อง ถ่ายทำติดต่อกัน 6 วัน 6 คืน ค่าย The Sun ในครือ ทิวลิป แนวคอมมาดี้ทริลเลอร์ ( one man )

อึกผลงานหนังเล็กความยาว 1.30 ชม. ถ่ายทำ 4 วัน 4 คืน ค่าย  J-BICS  แนว  Drama Thriller  ( one man )

หนังสั้นแนวคอมมาดี้ 18 เรื่อง ถ่ายทำ 2 วัน 2 คืน ของ ไทยแมส ( one man )

และอีกผลงาน  ฯลฯ ( คนไฟบินต่างประเทศใช้ดนตรีต้นฉบับ )

ผมเจอบางส่วนจากหนังที่พี่บอกแล้วครับ สปา อิน เลิฟ
ดูได้จากคลิปนี้ http://www.youtube.com/watch?v=5fEZdjQlTOE
ผมไม่เคยเจองานแนวนี้มาก่อนเลยครับ มันเป็นงานที่ต้องตีความจริงๆ

ขอบคุณมาก ที่ศึกษางานของพี่ ที่จริงหนังเรื่องนี้ถ้่าได้คิวถ่ายอีกสักวันก็จะชัดเจนกว่านี้ในการเล่าเรื่อง (สำหรับหนังเล็กที่บทมันลึกลับ ) และ ต่อไปจะพัฒนาเป็นหนังใหญ่ด้วยครับ

ปล. คนที่ถือ Boom พี่เอง ( นานมาแล้ว )

สุดยอดดดดด

มันคือเรื่องจริงๆครับ  ผู้กำกับฯระดับสุพรรณหงส์ เรื่องคนไฟ... ยังต้องรออีก 3 ปีถึงได้ทำหนังเรื่อง อีเห็ด....และผู้กำกับฯท่านอื่นๆก็ไม่แตกต่างกัน

หมายเหตุ  ฉะนั้นโปรเจ็คต์ของผม พึ่งครบ 2 ปีเศษยังไม่สร้างก็ถือว่าไม่ผิด  ( ที่ยังไม่เปิดกล้อง....อีกนิดเดียว   รอเงินอยู่ครับ )

เอิ่ม คือว่าโปสเตอร์หนังของพี่น่าดูทุกเรื่องเลยครับ จะรอติดตามนะครับ

ปล. อยากเห็น60Dถ่ายหนังใหญ่ไวๆ

  ไหนๆก็มาถึงสิบสามหน้า เวลาก็ผ่านมานานแสนนาน เอางี้ล่ะครับ ผมเลือกที่จะเป็นกำลังใจให้ละกันครับ มีผลงานเมื่อไหร่เอามาอวดกันนะ

พี่อาจจะมีกลุ่มนายทุนที่คอยสนับสนุนตัวพี่
พี่อาจจะมีลูกค้าที่คอยซื้อหนังพี่
ไม่งั้นคงไม่มุ่งมั่นขนาดนี้
เอาใจช่วยครับ

พี่อาจจะมีกลุ่มนายทุนที่คอยสนับสนุนตัวพี่

ตอบ....ถูกต้องครับ
                       1.จากบริษัทที่ผลิตภาพยนตร์โดยตรง...ผมกำลังทดลองแย่ๆอยู่หลายค่าย...รู้จักแทบทุกค่ายครับ
                       2.จากนายทุนนอกวงการที่ชอบด้านบันเทิง...มีหลายเจ้าที่กล้าๆ กลัวๆ จะลงหรือไม่ลง ( ปล่อยให้คิดไปก่อน )เหมือนขายประกัน  คุย 10 คน ได้ 1 คนก็แฮปปี้แล้วครับ
                       3.จากส่วนตัวที่ได้มาจากผู้ประสานงาน ( นายหน้า )

ไม่ว่าข้อไหนมาก่อนก็แอ๊คชั่นได้ครับ ( ผมชอบข้อ 3 เพราะเราเป็นนายตัวเองครับ )

พี่อาจจะมีลูกค้าที่คอยซื้อหนังพี่

ตอบ....ถูกต้องครับ...ผมมีบริษัทที่จัดจำหน่ายทั้งในและนอกและเป็นพักพวกกันโดยหักค่าจัดจำหน่ายเป็นเปอร์เซ็นต์ ( 5-7 )
                              ยกตัวอย่าง  หนังเรื่อง รจน. ขายมาเลได้ 40000 เหรียญ เขมร 10000 เหรียญ ขายสปอนด์เซอร์ ทปก. 1.5 ล้าน  กล้องวงจรปิด  ที่มีนางเอก พล. 1.3 ล้าน

ทำหนังใหญ่มันมีเสน่ห์ตรงที่รู้ว่ารายได้กลับมาร่วงหน้า 4 หนทาง
   1. ขายสปอนด์เซอร์ ( บทTAXI Meมีเธอ ดึงเอาสปอนด์เซอร์มาเป็นตัวผูกและเดินเรืองอยู่หลายตัวจะได้ขอเยอะๆ )
   2. ขายสาย
   3. ขายลิขสิทธิ์ ดีวีดี วีซีดี / ฟรึทีวี / เคเบิ้ล
   4. ขายต่างประเทศ

มีข้อแม้อย่างเดียวครับ  คือ  ต้นทุนต้องต่ำ รับรองว่าไม่ขาดทุน  ( หนังต้องดูสนุกขอย้ำ..ต้องดูสนุก ) ส่วนจะขายสปอนด์เซอร์ ขายสาย ขายลิขสิทธิ์ได้เท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับดาราเป็นหลัก  เรื่องเป็นรอง  ส่วนต่างประเทศ  ขายได้แน่ๆเพื่อนบ้านเราใกล้ๆนี้ ส่วนจะไปไกล หรือไกลๆ ถ้าหนังมันดัง ( ได้ตังค์ ) มันจะไปเองโดยอัตโนมัติหรือพ่อค้าต่างประเทศจะมาตื้อถึงหน้าบ้านครับ

บางคนบ่นว่ามันนานจังไม่เห็นสร้างสักที  ผมยกตัวอย่างตามข้างบนแล้วครับขนาดผู้กำกับฯระดับสุพรรณหงส์ พี่ ป. พี่ ฉล ยังต้องรอทุนเป็นปีๆกว่าจะได้ทำสักเรื่อง ( ยกเว้นพ่อรวย หรือตัวเองมีตังค์ครับ ) แต่ในระหว่างที่รอเราต้องเตรียมพร้อม

1.ปรับปรุงบทให้ลงตัวที่สุด ( บทTAXI Meมีเธอ ปรับปรุงแทบทุกวัน )
2.หาหรือคัดนักแสดงให้เหมาะสมที่สุด
3.โลเกชั่นไปด้อมๆมองๆไว้ ไม่เสียหาย เผื่ออาจจะมีไอเดียรีบมาแก้ไขบท
4.ศึกษาและวางแผนทุกอย่างที่เกี่ยวกับหนังของเรา....ครับ

รอดูหนังอยู่ครับ