เวอร์ชันเต็ม: [-- ห้องเรียนหนังตอนที่ 6 Theme --]

ThaiDFilm : ถ่าย VDO DSLR และ ตัดต่อ หนังสั้น -> ห้องเรียนหนังออนไลน์ -> ห้องเรียนหนังตอนที่ 6 Theme [สั่งพิมพ์] เข้าสู่ระบบ -> ลงทะเบียน -> ตอบกลับ -> ตั้งกระทู้

foolmoon 2012-06-04 11:00

ห้องเรียนหนังตอนที่ 6 Theme

ห้องเรียนหนังตอนที่ 6
"Theme แก่นกลาง กระดูกสันหลังของเรื่องราว"


หายไปนานเลย เพราะว่าติอภาระกิจในเรื่องการก่อตั้งออฟฟิศ และเตรียม Final หนัง การิน อยู่ครับ เวลากลายเป็นเรื่องหายากไปเลย วันนี้เคลียร์งานทั้งหมดเสร็จเร็วเลยคิดว่ามาจัดต่อดีกว่า

ตอนที่แล้วเราว่าด้วยเรื่อง แรงบันดาลใจไปแล้วนะครับ ให้เวลาทำการบ้านกันนานเลย ไม่รู้ว่าใครได้แรงบันดาลใจดีดีอะไรมาบ้าง ตอนนี้ล่ะเราจะมาเข้าเรื่องเขียนบทกันอย่างจริงจังแล้วครับ มาดูกันดีกว่าว่าเราจะเอาแรงบันดาลใจมาสร้างสรรค์เรื่องราวได้อย่างไร

ก่อนอื่นเราทดแรงบันดาลใจของเราไว้ก่อนนะครับ เรารู้แล้วว่าเราอยากจะทำอะไร

ไม่ว่าเราจะเริ่มต้นแรงบันดาลใจของเรื่องราวของเราอย่างไร ขั้นตอนถัดมาจะเป็นเหมือนกันเกือบหมดครับ


ไม่ว่าเราจะทำอะไรของเรื่องเล่า ไม่ว่าจะเป็นหนัง ละคร เอ็มวี หนังสือ การ์ตูน ละครวิทยุ คำสำคัญที่สุดของเราก็คือคคำว่า Theme ครับ

แล้วไอ้ Theme ที่ว่ามันคืออะไร...

Theme ในงานเรื่องเล่าหรือภาพยนตร์ ก็คือ "ประเด็น" "หรือแนวคิด" ของหนังเรื่องนั้นๆ ว่าหนังเรื่องนั้นต้องการนำเสนออะไร หรือว่า เรามีอะไรจะบอกชาวโลกนั่นเอง Theme ที่ดีจะทำให้หนังของเรามีคุณค่ามากกว่าหนังเรื่องอื่นที่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ครับ

เราต้องเด่นชัดว่าข้อความหลักที่หนังเราจะนำเสนอนั้นคืออะไร  อะไรที่เราต้องการสื่อสาร เพราะว่ามันจะเป็นหัวใจของหนังทั้งเรื่อง มันจะเป็นแกนกลางที่ทำให้เราพุ่้งเป้าในการนำเสนอเรื่องราวได้อย่างชัดเจน

ถ้ายังงงกับคำนี้อยู่ลองแบบง่ายๆก่อนครับ ให้นึกถึงคำว่า "นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า......" นั่นล่ะครับคือ Theme หรือว่าแก่นของเรื่อง

ผมมีอีกสูตรนึงที่เป็นสูตรแบบไม่เป็นทางการ แบบว่าคิดเองเออเอง ไม่ได้เป็นทฤษฏีที่ส่งต่อกันมาแต่อย่างใดครับ แค่รู้สึกว่าตัวเองใช้แล้วได้ผล เลยอยากจะเอามาแบ่งปันกันดู เผื่อเวลาใครตันๆช่วงค้นหา Theme จะได้ลองเอาไปใช้กันบ้าง

นั่นคือ

T = ip+vi

มาซะเป็นสูตรแบบวิทยาศาสตร์เลยทีเดียวเชียว จริงๆแล้ว T ก็คือ Theme ip = inspiration Vi = vision
หากแปลเป็นไทยจะเป็น แก่นของเรื่องเท่ากับ เอ่อ ตอนนี้เอาแรงบันดาลใจที่ทดไว้กลับมาได้แล้วครับ

แก่นของเรื่องเท่ากับ แรงบันดาลใจรวมกับทัศนคติหรือมุมมองของเราที่มีต่อเหตุการณ์นั้นครับ

เช่น...

ทุกวันเรานั่งรถเมลล์ไปทำงาน แต่ละวันไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น แต่วันหนึ่ง ระหว่างนั่งรถเมลล์ เราเหลือบไปเห็นโจรวิ่งราวคนที่อยู่ข้างทาง ผู้หญิงร้องขอให้ช่วย แต่ไม่มีใครช่วย แล้วรถเมลล์ก็เลยผ่านไป ทิ้งเหตุการณ์นี้ไว้เบื้องหลัง เรานั่งมองแล้วเหตุการณ์นี้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เรารู้สึกอยากจะทำหนัง เป็นไอเดียแรกเริ่ม แต่ยังคิด Plot เรื่องไม่ออกทำยังไงดี

ลองอย่างนี้ก่อนครับ ลองใส่ทัศนคติ มุมมองหรือความคิดเห็นของเราลงไปครับ

อาจจะเป็น จากเหตุการณ์นี้ฉันรู้สึกว่าโลกเราช่างโหดร้าย สงสัยว่าค่าครองชีพมันอาจจะต่ำ ทำให้คนเราต้องกลายเป็นโจร

หรือ ไอ้โจรนี้มันเลวจริงๆ พ่อมันแม่มันคงไม่ได้สั่งสอน

หรือ เขาอาจจะต้องการเงินไปช่วยเหลือคนที่บ้านที่กำลังป่วย ที่ผิดไม่ใช่โจร แต่เป็นเศรษฐกิจต่างหาก

หรือ ผู้หญิงคนนั้นซวยแท้ สถานที่นั้นก็อันตรายแท้ โลกนี้ไม่น่าอยู่เลย


จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ จะเห็นได้ว่า เราเริ่มมีกรอบความคิดที่ชัดเจนขึ้นมาแล้วครับ จากนั้นเราอาจจะค่อยๆสร้างคำจำกัดความที่ชัดๆออกมาให้เหลือประโยคเดียว เช่น

"เพราะเศรษฐกิจแย่ ทำให้คนดีกลายเป็นต้องที่จำเป็นต้องเลว"

อะไรอย่างนี้ เราก็จะได้ Theme ขั้นต้นของเราออกมา ซึ่งในขั้นตอนต่อไปเหตุการณ์ที่เราเจอจริงๆอาจจะถูกเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่เราได้เห็นมาก็ได้ครับ อย่าลืมว่ามันเป็นแรงบันดาลใจเริ่มต้น ไม่จำเป็นที่จะต้องยึดติด

และเมื่อได้ Theme มาแล้ว เราก็จะค่อยๆสร้างเรื่องราว สถานการณ์ตัวละครมาห่อมัน โดยที่ต้องถามตัวเองตลอดเวลาว่า ทั้งหมดที่เราสร้างสรรค์ออกมาสอดคล้องกับ Theme ที่เราวางไว้หรือไม่ เพื่อไม่ให้เรื่องเป๋ไปเป๋มาและเดินหน้าได้อย่างมีพลังครับ

แต่ทั้งหมดนี้อย่าลืมว่า คนดูไม่ได้รู้ขั้นตอนไปกับเรา บางครั้งการคิด Theme นั้น ไม่จำเป็นจะต้องถูกคิดก่อนการคิดเรื่องเสมอไป บางครั้งเราได้เรื่องมาก่อน คิดเรื่องออกก่อน แต่ Theme มาทีหลังแล้วก็มี

แต่ถ้าเป็นกรณีเนื้อเรื่องมาก่อนนี้ เราก็จะคิด Theme ให้สอดคล้องกับเรื่อง จากนั้นเราก็เพิ่มฉากที่ทำให้ Theme เด่นชัดขึ้นเข้าไป ตัดฉากที่ไม่เกี่ยวข้องและไม่สอดคล้องออกไป  วิธีนี้ก็เป็นไปได้ครับแล้วแต่วิธี

แต่เมื่อมี Theme แล้ว สิ่งที่เดียวที่เราต้องคิดก็คือ ทุกอย่างในหนังเรื่องนี้ เมื่อดูจบแล้วมันต้องบอกได้ว่า นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่าอะไร และเรามีหน้าที่ค่อยๆเผยมัน ผ่านเรื่องราว ตัวละคร สถานการณ์ ให้คนดูรับรู้เองผ่านความสนุกและความบันเทิงที่เรามอบให้ ไม่ใช่ว่าจับ Theme ไปใส่ปากตัวละคร ให้ตัวละครพูดขึ้นมาซะงั้น อันนี้เรียกไร้ชั้นเชิงครับ


---------------------------------------------

พอหอมปากหอมคอกันไป ได้เวลาของการบ้านที่อยากจะให้ไปลองทำกันครับ วันนี้มีสองข้อครับ

1. ให้ไปดูหนังเรื่องอะไร แนวใดมาก็ได้หนึ่งเรื่อง แล้วหา Theme ของเขาให้เจอครับ เขียนแชร์กันมา อย่าลืมแปะลิงค์หนังตัวอย่างด้วยนะครับเผื่อเพื่อนๆสนใจไปหามาดูบ้าง

2. ให้เอาแรงบันดาลใจของตัวเองที่หาได้ มาสร้าง แก่นเรื่องที่น่าสนใจ แล้วเอามาแบ่งปันกันครับ



คราวหน้าเราคงมาคุยเรื่อง Plot กันครับ ว่าเวลาเราเขียน Plot เราควรจะต้องทำอย่างไรบ้าง...

sm89 2012-06-04 11:54
การให้ความรู้เป็นทานอันยิ่งใหญ่
ขอบคุณคร้าบ

rak 2012-06-04 13:18
ขอบคุณมากๆ นะครับผม

supernat 2012-06-05 00:55

buchanyon 2012-06-05 19:12

io-hope 2012-06-29 12:41
เจ๋งครับ

tabb 2012-07-12 09:46
ซึ้งเลยครับพี่ ดีมากครับผม เหมาะสมที่จะจดจำครับ

babyju 2012-07-12 15:28
ขอบคุณครับ ความรู้ดีดีทั้งนั้นเลย
จะลองเอาไปใช้ดูครับผม


เวอร์ชันเต็ม: [-- ห้องเรียนหนังตอนที่ 6 Theme --] [-- top --]


Powered by phpwind v8.3 Code ©2003-2010 phpwind
Time 0.013799 second(s),query:2 Gzip enabled