เวอร์ชันเต็ม: [-- การ Sync Sound ง่ายๆ โดย Pluraleyes ใน Finalcut Pro --]

ThaiDFilm : ถ่าย VDO DSLR และ ตัดต่อ หนังสั้น -> Sound -> การ Sync Sound ง่ายๆ โดย Pluraleyes ใน Finalcut Pro [สั่งพิมพ์] เข้าสู่ระบบ -> ลงทะเบียน -> ตอบกลับ -> ตั้งกระทู้

jobfilm 2010-06-05 19:12

การ Sync Sound ง่ายๆ โดย Pluraleyes ใน Finalcut Pro



การบันทึกเสียงจากกล้อง บางทีมันเอามาใช้จริงไม่ได้จึงต้องมีการบันทึกเสียงแยก
และใช้เครื่องบันทึกเสียงที่มีคุณภาพมากกว่า และนำเอาเสียงที่บันทึกนั้นมาทำการ
Sync Sound แต่จะทำยังไงให้มันอยู่ในตำแหน่งที่ตรงกับช่วงเวลาของ Footage
นั่นคือที่มาของการใช้ Slate ที่เลือกเอาช่วง Clap(การตีสเลต) ของ Slate มาเป็นจุด
เชื่อม Sync ในอดีตจนถึงปัจจุบันมีการพัฒนาจนกระทั่งการนำเอา Time Code มาใช้ประโยชน์
ในด้านนี้เพื่อให้ Time Of Day ตรงกับ Footage ที่มี Time Code เป็นที่มาของ
Slate Digital เพื่อช่วยในการจับ Sync จะได้ใช้ช่วงเวลาที่ตรงกันนั้นมาSync Sound ได้สะดวกยิ่งขึ้นอีก
จนกระทั่งเดี๋ยวนี้มี Software และ Plug-Ins ช่วยในด้าน Post Production มากมายหลายอย่าง
แม้กระทั่งการ Sync Sound by Pluraleyes ใน Finalcut Pro จะใช้วิธีการ Analyze Wave Form
ให้มีความเป็นไปได้ใกล้เคียงกับต้นฉบับในเสียงของ Footage นั้นๆ ครับ...

ปล.เหมาะมากกับการทำหนังสั้นที่มีทุนต่ำที่ไม่สามารถเช่าเครื่องบันทึกเสียงที่คุณภาพสูง
ใช้แค่ Zoom H4n ก็เหลือเฟือแล้วครับ และการบันทึกเสียงแบบ Multi Track




i-popba 2010-06-05 20:03
เป็นประโยชน์มากสำหรับคนมือใหม่อย่างผม....
ขอบคุณครับ.

victormc49 2010-06-05 21:21
ใช้อยู่ครับ ดีมากๆ แต่ก็ใช่ว่าจะ Sync ให้เราได้ทุกครั้ง บางครั้งคุณภาพเสียงจากล้องแย่ไปหน่อย มันกลายเป็น unsync ดื้อๆไปซะงั้น

ยังไงการตี slate ก็ยังจำเป็นอยู่ กันเหนียวไว้ครับ หรือไม่ก็ใช้ RODE videomic ติดตัวกล้อง ก็จะช่วยให่เสียง Dialog ชัดเจนขึ้น plural eyes  sync ง่ายขึ้น

nunaz 2010-06-05 22:17
ใช้อยู่เหมือนกันครับ....
โดยเฉพาะช่วงพิธีของงานแต่งงานที่ผมใช้กล้อง 2-3 ตัว ในการถ่าย
ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นมากเลยครับ

xay 2010-06-06 05:14
ได้ความรู้เพิ่มอีกแล้ว
ขอบคุณครับ

iamtitti 2010-06-06 10:17
ขอบคุณครับ
ลองแล้วถ้าไฟล์เยอะมากๆๆ มันก็ error เหมือนกันครับ

popgtr 2010-06-15 14:29
...ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ ...เพิ่มเติมอีกนิดครับ...
...ปกติส่วนตัวผมหากใช้ Digital ในการถ่ายไม่ว่า Resolution ระดับไหน 1 record/1 stop/1 File อยู่แล้ว ดังนั้นผมมักจะใช้อุปกรณ์ Portable Recorder ในการบันทึก ซึ่งปัจจุบันค่อนข้างมีจำหน่ายหลายยี้ห้อทีเดียว ซึ่งก็จะมีระบบการบันทึกเช่นเดียวกันเลยคับ เพียงแค่หาใครสักคนมาคอยจดบันทึกไว้เท่านั้นเอง เหมือนที่มีผู้ช่วยไว้จด Take กับ Timecode อะคับ... ซึ่งจะใช้การบันทึกครั้งละกี่ตัว เพื่อ Ambien ระดับไหน หรือทำ กี่ Ch ก็แล้วแต่
...หากมากไปกว่านั้น ก็ใช้ Audio Interface (ที่มีไฟเลี้ยง 48V) หลาย Input Mic หน่อย ต่อ แล้วลาก Condenser ออกไปเลยคับ 2-4 ตัว หรือมากกว่านั้น...
...ข้อสำคัญคือ ต้องทราบ Sampling Rate และ จำนวน Frame ของงานเสียง สำหรับ Format Video Output ของ Sequence วิดีโอนั้นๆตอนตัด อย่างชัดเจนก็พอครับ ไม่งั้นก็ต้องมา Up/Down Sampling อีก  ซึ่งหาก Sampling และ Framrate มะตรงกับ Video แล้ว อันนี้ละเวียนหัวเลยครับ...

ake 2010-06-15 15:31
ใช่ครับ พอจะทราบมาว่า Sampling Rate ของเสียงมีผลครับ
เคยเห็นอัดเสียงยาว 10 นาที แต่พอไป Sync กับภาพแล้วเสียงมาเร็วกว่าภาพประมาณ 7 frame

รบกวน อ.ป๊อป อธิบายความสัมพันธ์ของ Sampling Rate ของเสียง กับ Frame Rate ของภาพด้วยครับ
(ตั้งเป็นกระทู้ใหม่ในห้องความรู้หลักก็ได้ครับ หลายๆท่านจะได้เรียนรู้ด้วยครับ ขอบคุณครับ)

nezzis 2010-06-15 17:13
อ่า...Sampling Rate ของเสียง ต้องตรงกับหน้าโปรเจคครับ
เช่น ถ้าผมตั้งโปรเจคตัดต่อเป็น 48kHz 16Bit
แล้วบันทึกเสียงมาเป็น 44kHz 16Bit นี่วางยังไงก็เหลื่อมกันกับภาพครับ

ตามที่ผมเข้าใจคือ ทั้งFrameRateและSamplingRate มันขึ้นกับFactorตัวเดียวกันคือเวลา
FrameRate มีหน่วยเป็น frame per second คือจำนวน ภาพต่อหน่วยเวลาเป็นวินาที
SamplingRate มีหน่วยเป็นHz คือความถี่ของการQuantizeข้อมูลเสียงในระบบDigital ในหนึ่งหน่วยเวลาเป็นวินาที
ส่วนBitRate คือค่าของDynamicRange งานภาพและงานเสียงก็ทำนองเดียวกัน 
ว่าภาษาบ้านๆคือความละเอียดในการจำแนก ภาพหรือเสียงในช่วงความถี่ต่างๆ

แต่ FrameRate ของภาพที่เราถ่ายมา และ SamplingRate ของเสียงที่เราอัดแยกมา
ไม่ได้ส่งผลต่อกันโดยตรง
การSetUpตอนตัดต่อครับที่มีผล กรณีเราถ่ายงานมา ต้องดูค่าSetUpของกล้องให้เคลียร์ว่า ในขณะที่ถ่ายนี่เก็บเสียงที่SamplingRateไหน
(ส่วนFrameRateผมว่าไม่เกี่ยวนะ ดังที่ให้เหตุผล)
การบันทึกเสียงในขณะถ่ายทำก็ต้องเลือกSamplingRateที่เท่ากันด้วย จะได้ไม่วุ่นวายมาปรับกันทีหลัง แบบอาจารย์ท่านว่า...

อันนี้เท่าที่ประสบมากับตัว ทั้งการทำงานFilm และงาน เพลงน่ะครับ

ผิดพลาดประการใด ถามผู้รู้ท่านต่อไป ขอบคุณครับ

เครดิต การปะติดปะต่อข้อมูลโดยผม(ถ้าผิดพลาดขออภัย) จากข้อมูลพี่นาทSoundEn Ex-Sys Studioขอนแก่น อิ อิ



tanum 2010-06-15 19:47
ปกติ ผมใช้เสียงจากกล้องตลอด เลยไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่

ตอนนี้เจอเรื่องปวดหัวเรื่องใหม่อีกแล้ว เหอ ๆ

วงการนี้ ปวดหัวได้ตลอดเวลาจริง ๆ สู้ต่อไป ไอ้มดเขียว

nezzis 2010-06-15 21:29
อ้างอิง
อ้างอิงโพส 6 ต้นฉบับโพสโดย popgtr เมื่อ 2010-06-15 14:29  :
...ข้อสำคัญคือ ต้องทราบ Sampling Rate และ จำนวน Frame ของงานเสียง ..




จำนวนFrame ของงานเสียง คืออะไรครับอาจารย์  ไม่เคยทราบ(หรือใช้ศัพท์เทคนิคว่า?)
รบกวนไขข้อข้องใจ...ขอบคุณครับ

popgtr 2010-06-16 16:51
[attachment=650] ...ครับผม...ตอบเรื่อง Frame Rate แระกันนะคร๊าบ...(ตามที่ผมทำงานมาช่วงระยะสั้นๆและเข้าใจนะครับ)
...สำหรับโปรแกรมด้านงานเสียงประเภท DAW แทบทุกตัวทั้งฝั่ง Mac และ PC ในหน้า Project setting จะมี menu หนึ่งให้ผู้ใช่เลือกจำนวน Frame Rate แทบทุกตัวนะครับ ส่วนมากน้อยแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับศักยภาพด้าน Media Production ของโปรแกรมตัวนั้นๆเอง ซึ่งเป็นส่วนแรกอยู่แล้วก่อนที่เราจะทำการสร้างงานเสียงใดๆ นอกจากนั้นก็จะมีค่า Sampling Rate ที่ทุกคนคงคุ้นเคยกันดีให้เราตั้งค่าได้ตามความเหมาะสม และความละเอียดของงานนั้น ทั้งนี้ จะตั้งค่าเท่าไหร่ก็แล้วแต่สำหรับ Sampling Rate อุปกรณ์ที่ใช้ทำงาน หรือ Audio Interface หรือ Digital Mixer Console ที่เราทำงานจะต้องรองรับด้วยนะครับ เช่นเดียวกับค่า Bit ในการบันทึกก็เช่นกัน...
...สำหรับในด้านการ Recording แล้ว ถึงแม้เราจะทราบว่ากระบวนการถ่ายนั้นเราถ่ายมาที่ อาทิ Sampling 48 Khz. 16 Bit แต่ขั้นตอนการบันทึกเช่นทำ Sound ประกอบ หรือบันทึกเสียงดนตรีประกอบใดๆๆ ไม่จำเป็นหรอกครับว่าต้องตั้งค่าตามนั้นเลย กล่าวคือ ผู้ Recorder ส่วนใหญ่ที่ Hardware มราสามารถรองรับค่า Sampling ที่สูงได้ มักจะตั้ง setup Project ด้วยค่า Sampling ที่สูงกว่านั้นครับ อาจถึง 96 Khz. ที่ 24 Bit ด้วยซ้ำในการบันทึก เพราะยิ่งค่า Sampling Rate ในการสร้างงานหรือบันทึกสูงเท่าใด ย่านความถี่ที่ได้ตั้งแต่ต่ำสุดจนถึงสูงสุดก็จะยิ่งละเอียดมากขึ้นด้วย บางท่าอาจบอกว่าไม่จำเป็นหรอก หูมนุษย์ได้ยินแค่ 20 Hz. - 20 Khz. เท่านั้น มีตำราหลายเล่มนะครับที่มักระบุเสมอว่า "การที่ไม่สามารถได้ยิน ไม่ได้แปลว่า ไม่มีอยู่"   จากนั้นแล้วเมื่อ Mastering เสร็จเรียบร้อยตามต้องการ จึงใช้ Dithering  เพื่อทำการ Down Sampling ลงมาตามที่เราต้องการ ซึ่งขั้นตอนนี้ก็สำคัญที่สุดนะครับ เป็นศาสตร์สุดยอดอีกศาสตร์หนึ่งเลยทีเดียว โดยเฉพาะคนที่ทำดนตรี ทำเพลง หากใครสนใจสามารถหาอ่านได้จาก Commmusic ครับ มักจะมีสัมภาษณ์ผู้ทีทำ Mastering เก่งๆอยู่แทบทุกฉบับ
  คำถามต่อมาคือว่า ถ้าเรามีเพลงในระบบ Stereo ธรรมดา 1 เพลง ที่เราทราบกันดีว่ามีค่า Sampling ที่ 44.1 Khz 16 Bit โดยเรา Import เข้ามาใช้งานใน Project ที่ถูก Setup ค่า Sampling Rate ที่ต่างออกไป เช่น 48 64 88 96 หรือ 192 Khz. ก็ตามแต่ ถามว่าทำได้มั้ย ตอบว่าได้ครับ เพราะโปรแกรมประเภท DAW ทุกตัว จะเตือนผู้ใช้ทันทีว่า Sampling ทั้ง 2 ไม่เหมาะสมต่อกัน ซึ่งเราสามารถสั่ง Convert ได้ทันทีครับ แต่ความละเอียดที่ได้ก็ตามต้นฉบับที่มีอยู่นะครับ ซึ่งถามว่า หาก Sampling Rate ไม่ตรงกันจะเกิดอะไรขึ้น คำตอบคือ Speed และ Key ของเสียงจะเปลี่ยนไปทันทีครับ นอกจากนั้นแล้ว ค่า Sampling Rate ใดๆๆก็แล้วแต่ ก็จะมีย่านความถี่ที่เหมาะสมของแต่ละค่านั้นอยู่เฉพาะตัวนะครับ กล่าวคือ หากเราต้องการชิ้นงานที่มีความถี่ตำที่ดี ก็อาจต้องใช้ค่า Sampling Rate หนึ่ง แต่หากเป็นอีกแนวคือต้องการกลางแหลมที่สดใสชัดเจน ก็อาจต้องใช้ค่า Sampling Rate อีกค่าหนึ่งครับ...
...สำหรับในส่วนของ Frame rate ดังภาพของโปรแกรมประเภท DAW ต่างๆจากบางค่ายที่เป็นที่รู้จักกันดีที่ผมแนบมา จะเห็นได้ว่ามีการตั้งค่า Frame Rate ทั้งสิ้นครับ ซึ่ง Frame Rate ดังกล่าวก็อ้างอิงตามงาน Video นั้นเอง ถามว่ามีผลกระทบมั้ยหากไม่ตรงกัน จากประสบการณ์ตรงตอบว่า "มีแน่นอน" ครับ เพราะค่าที่ค่า Sampling Rate ใดๆ ก็สามารถเลือกค่า Frame Rate ค่า Project ในทุกค่าครับ ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ในความเป็นจริงมากกว่า ไม่จำเป็นว่า หากเลือก Sampling ที่ 48 Khz. แล้ว ต้อง Frame Rate ที่ 25 fps. ในระบบ PAL ที่เรารู้จักกันดีเสมอไป เพราะในปัจจุบัน เมื่อเริ่มมี Format ต่างๆ ในงาน Video มากขึ้น ประกอบกับ Format ของ AVCHD ถูกนำเข้ามาใช้อย่างแพร่หลายแล้ว ดังนั้น ค่า Frame Rate ที่ต่างไปจาก 25 fps. ก็จะมีความสำคัญขึ้นมาทันทีครับ และส่งผลโดยตรง เช่นหาก Sequence Video ของคุณเป็น 48 Khz. ที่ 29.97 fps. ใน Project ของงานเสียงที่นำมา Mix เพื่อทำไปประกอบก็ควรจะตั้งค่าที่ตรงกันนะครับ แต่ถ้า Project นั้นเกิดเป็นการบันทึกใหม่เพื่อสร้างงานขึ้นมาเองทั้งหมด มิได้ต้องนำ Sound มีอยู่แล้วใน Library ไป Mix ใหม่ อันนี้ก็อาจสามารถตั้งค่า Sampling Rate ที่สูงขึ้นได้ครับ เพื่อประโยชน์อย่างที่อธิบายไปขั้นต้น โดยค่า Frame Rate ก็มีการตั้งไว้ตรงกับงาน Sequence Video ตอนตัดต่อ
...คำถามต่อมา คือ แล้วถ้าเราทำแค่เสียงเพลง หรือ ดนตรีปกติ ที่ใช้ฟัง มิได้นำไปประกอบกับ Video แต่อย่างใด ต้องสนใจเรื่อง Frame Rate มากน้อยแค่ไหน อันนี้ขอตอบโดยส่วนตัวนะครับ ผมว่าอาจจะไม่ต้อง คืออาจตั้งไว้ที่ 25 fps. เป็นมาตรฐานที่คุ้ยเคย เพราะโปรแกรมที่ใช้ทำดนตรีเฉพาะหลายตัว เช่น Reason Samplitude หรือ Alberton....etc. เหล่านี้ก็ดูเหมือนจะไม่มีส่วนของค่า Frame Rate ให้ตั้งตอน Setup Project มีเพียงค่า Sampling Rate และ Bit เท่านั้น ซึ่งต่างกับ โปรแกรมประเภท DAW หลายตัวที่สามารถ Import Video File มาไปวางเป็น Guide ในการผลิตงานเสียงในโปรเจ็คได้ เหล่านี้ก็จะมีค่า Frame Rate ให้ตั้งตามภาพที่แนบมาอะครับ เพราะเมื่อมีงาน Video เข้ามาเกี่ยวข้อง มันก็ต้องมีเรื่อง Frame Rate ของงาน Video ใน Format นั้นๆมาเป็นส่วนประกอบโดยธรรมชาติอยู่แล้วครับ แต่ถ้างานเสียงที่ทำไม่ต้องมี Video เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่นงานเพลงดนตรีเพื่อการรับฟัง Frame Rate ก็อาจเป็นแค่ส่วนประกอบที่รองลงมา เพราะไม่มี Video ใดๆๆในการบังคับเพื่อการ Sync ครับ

popgtr 2010-06-16 16:59
...จะเห็นว่าทางฝั่ง PC ประเภท DAW ที่ผมแนบมา มี Cubase 3 /4 /5 และ Nuendo 3 ซึ่งจะมีค่า Frame Rate ให้เลือกค่อนข้างครบถ้วนมากกว่า Cubase เพราะเป็น Media Production เต็มตัวครับ
...สำหรับทางฝั่ง MAC ก็จะมี Soundtrack Pro / Logic 9 / Protool LE ครับ

**ทั้งหมดที่เป็น DAW เพื่องานเสียงด้าน Media จะต้องมีการ Setup Frame Rate อ้างอิง ตามงาน Video ที่เราต้องนำมาใช้ประกอบกันทั้งหมดครับ**

**(ผมตอบจากความรู้และความเข้าใจส่วนตัวจากที่ทำงานมาได้ระยะหนึ่งและจากที่พยายามศึกษาเท่านั้นนะครับ..หากผิดพลาดประการต้องขอ อภัย ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ถือว่าเป็นการแบ่งปันความรู้ซึ่งกันและกันจากประสบการณ์ของแต่ละท่านแล้วกันนะครับ)...

popgtr 2010-06-16 17:03
..สำหรับคำถามที่ว่า จำนวน Frame ของงานเสียงคืออะไร..
..อันนี้เท่าที่ผมเคยเจอไม่แน่ใจว่า ในด้านศาสตร์แห่งเสียงเองก็จะมี Frame Rate เฉพาะตัวของเค้าเช่นเดียวกับ Video เช่นกันนะครับ แต่ผมจำรายละเอียดที่ถูกต้องตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้จริงๆ ต้องขออภัยด้วยครับ โอกาศหน้าผมจะไปค้นข้อมูลนี้มาแบ่งปันกันนะครับ เพราะส่วนใหญ่แล้วการ setup Frame Rate ในโปรแกรมต่างๆที่ผมแนบแสดงไปขั้นต้น จะเป็น Frame Rate โดยอ้างอิงตามศาสตร์ของงาน Video ทั้งสิ้นครับ..

nezzis 2010-06-16 17:14
โอ้...ขอบพระคุณครับ เพิ่งทราบ ต้องทำความเข้าใจใหม่ มิน่างานเดิมๆ มันเพี้ยนๆ

bodypan 2014-03-12 18:20
แล้วถ้าถ่ายมาแค่สองกล้อง(กล้องกว้างกับแคบ) แต่ไม่ได้กับเสียงแยกมาด้วย โปรแกรมนี้จะสามารถ Sync กล้องกว้างกับแคบให้ไหมคับ

ปล.เบื่อSyncกล้อง ขอบคุณคับ

jackcable 2014-03-14 15:13
ความรู้ทั้งนั้น ขอบคุณครับ

guitarx78 2014-04-09 21:47
ขอบคุณนะครับ
แต่ก็ยังงงอยู่เลย
อย่างของผม ถ่ายงานด้วย 5D MK II อยู่แล้ว ส่วน sound ผมแยกด้วย H4n คับ
อยากให้ลองแนะนำการ set up หน่อยได้มั้ยครับ งงจริง ๆ ครับ

nannaara 2015-11-16 19:36
แล้วใน sony vegas ใช้ตัวไหนแล้วคับ

dmk 2015-11-17 01:51
เนื่องจากผมยังใช้วีกัส 10 กับ XP  ตอนนี้ใช้ PluralEyes for Vegas Pro 2.0.3 7137
ก็โอเคอยู่ครับ  แต่การซิงค์ให้ได้ผลดีต้องวางแผนตั้งแต่ตอนถ่าย  
1 ให้ทุกกล้องได้บันทึกเสียงจากแหล่งเดียวกันได้ชัดเจนเพื่อให้โปรแกรมมองเห็นนรูปคลื่นได้ดี
2. ควรบันทึกยาวทุกกล้องไม่ต้องคัทจนจบการถ่ายทำ
3  ช่วงใดของเสียงที่ไม่มีการสนทนา หลายวิ ให้สับตรงนั้นแบ่งช่วง แล้วลากท่อนที่ตัด (split) ลงมาไว้อีกแทรคหนึ่งต่างหาก
  เพื่อให้โปรแกรมสามารถขยับท่อนเสียงให้แมตกับภาพได้ดียิ่งขึ้น  * หมายถึงเสียงจากเครื่องบันทึกแยก*

จากที่ใช้มา บันทึกการแสดงยาวสุดราว5 ชั่วโมงด้วย TASCAM DR 05 ซิ้งกับกล้องพานา +โซนี่ รวม 6 ตัว ก็โอเคครับ
ปัญหาการซิ้งค์ยากก็จะลดลงหากวางแผนดีแต่ต้น  แต่หากซิ้งค์ยากจริงๆก็ควรแบ่งเป็นส่วนย่อยๆไม่ต้องคราวละยาวๆครับ


เวอร์ชันเต็ม: [-- การ Sync Sound ง่ายๆ โดย Pluraleyes ใน Finalcut Pro --] [-- top --]


Powered by phpwind v8.3 Code ©2003-2010 phpwind
Time 0.019123 second(s),query:2 Gzip enabled