เวอร์ชันเต็ม: [-- ขอทรานิยามของคำว่า CINEMATOGRAPHY ที่แท้จริงหน่อยครับ --]

ThaiDFilm : ถ่าย VDO DSLR และ ตัดต่อ หนังสั้น -> พูดคุยทั่วไป -> ขอทรานิยามของคำว่า CINEMATOGRAPHY ที่แท้จริงหน่อยครับ [สั่งพิมพ์] เข้าสู่ระบบ -> ลงทะเบียน -> ตอบกลับ -> ตั้งกระทู้

anantachat 2010-06-27 22:48

ขอทรานิยามของคำว่า CINEMATOGRAPHY ที่แท้จริงหน่อยครับ

ช่วงนี้ คำนี้ฮิตกันเหลือเกิน เลยอยากทราบว่า คำว่า CINEMATOGRAPHY เนี่ย มันมีความหมายเป็นนิยามว่าอย่างไรครับ

dslr 2010-06-27 23:12
เอามาจาก wiki

Cinematography (from Greek: kinema - κίνημα "movement" and graphein - γράφειν "to record"), is the making of lighting and camera choices when recording photographic images for the cinema. It is closely related to the art of still photography. Many additional issues arise when both the camera and elements of the scene may be in motion, though this also greatly increases the creative possibilities of the process.

แปลมั่วๆ คือการสร้าง การถ่ายทำภาพเคลื่อนไหว ด้วยมุมมองแบบภาพนิ่ง มีการจัดมุมกล้อง จัดแสง มีการครีเอท (ไปจนถึงการตัดต่อ) เพื่อที่จะนำมาทำเป็นภาพยนตร์

มิใช้มี steadicam มี dslr แล้วจะเป็น Cinematography ได้นะเอ้อ (บรรทัดนี้คิดเอง)

ggcinema 2010-06-27 23:14
..การถ่ายทอดภาพตามคุณลักษณ์ของภาพยนตร์..

สรุปไว้เท่านี้ ซึ่งการตีความหมายนั้นกว้างขวางมากมาย
ส่วนคนที่ฟังคำนี้จะเข้าใจนั้น ... ถ้ารู้จักภาพถ่าย   ถ้ารู้จักอารมณ์ของภาพยนตร์     ก็จะรู้จักCINEMATOGRAPHYได้ง่ายๆ

มีลูกค้าหลายคนที่ถามผมถึงคำนี้...ซึ่ง บางทีเค๊าไม่เป็นคนดูหนัง ฟังเพลง ไม่รู้จักออสก้า   ....
CINEMATOGRAPHY ในความหมายของเค๊าก็คือ ..อะไรว๊า..กระแดะชะมัด... เท่านั้น

วิธีการ CINEMATOGRAPHY ยังไม่พูดถึงกันนะครับ..

foolmoon 2010-06-27 23:54
ตามความเห็นบนๆเลยครับ

แปลแบบง่ายๆก็คือ  การถ่ายทำภาพยนตร์อย่างมีแบบแผนและมีสุทรีย์

จับต้องได้ อ้างอิงได้ โดยการใช้ความรู้ด้านการถ่ายทำภาพยนตร์ และการเล่าเรื่องโดยใช้ศาสตร์ภาพยนตร์เข้ามาเป็นตัวจับครับ

77717 2010-06-27 23:57
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ ผมจะได้ไม่เอาไปพูดมั่วๆ (เห็นศัพท์ดู Hi-so อาจเผลอหลุดปากไป)

juud 2010-06-28 00:56
ก็คือการถ่ายหนังแหละนะ
Cinema + Graphy   ศิลปะเกียวกับถ่ายหนัง
Photo + Graphy ศิลปะเกียวกับถ่ายรูป
Porno + Graphy ศิลปะเกียวกับถ่ายรูปโป้
Video +Graphy  ศิลปะเกียวกับถ่ายวิดีโอ
Phono + Graphy ศิลปะเกียวกับถ่ายเสียง (แผ่นเสียง)
ฯลฯ


ake 2010-06-28 01:26
สิ่งที่ผมยังสงสัยอยู่คือลักษณะภาพและมุมมองครับ แบบไหนจึงเรียกว่า Cinematography ครับ
ขอบคุณครับ

tanum 2010-06-28 01:43
อ้างอิง
อ้างอิงโพส 6 ต้นฉบับโพสโดย ake เมื่อ 2010-06-28 01:26  :
สิ่งที่ผมยังสงสัยอยู่คือลักษณะภาพและมุมมองครับ แบบไหนจึงเรียกว่า Cinematography ครับ
ขอบคุณครับ



อาจารย์ผมเคยถามผมว่า ละคร กับภาพยนต์ต่างกันอย่างไร

ผมตอบไม่ได้ แกเลยสอนผมว่า



ภาพยนต์ มันเล่าเรื่องด้วยภาพและเสียง

ส่วนละคร มันเล่าเรื่องด้วย ไดอะล็อก



ถ้าเราเปิดละครทิ้งไว้ แล้วไปซักผ้าไปด้วย เราสามารถเข้าใจเรื่องราวไปได้

แต่หากเราเปิดภาพยนต์ไว้ แล้วเราเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อดื่มน้ำ เราอาจจะต้องกลับมาเปิดดูใหม่ทั้งเรื่อง


ไม่รู้ว่าตรงคำถามรึเปล่านะฮะพี่ 555 แต่สำหรับผม ลองเปิดหนังดี ๆสักเรื่อง แล้วเปิดดูละครหลังข่าว เปรียบเทียบกัน จะเห็นชัดเจนถึงความต่างในเรื่องลักษณะภาพและมุมมองครับ

ggcinema 2010-06-28 01:46
จะเซ็ทอัพถ่าย หรือ บันทึกภาพตามเหตุการต่างๆ
มีไอเดีย และอยากให้ผลงานออกมาอย่างที่คิด
ซึ่งตอนนี้ใครๆ ก็ใช้คำนี้กับงานของตัวเอง
มันก็ Cinematography กันทั้งนั้นอ่ะครับ
แต่ว่าจะ ดี จะ Best Cinematography
ก็ตามความสามารถอีกทีนึง

เพียงแค่เป็นคำที่ไม่คุ้นชิน
อย่าง ตอนถ่ายรูป ยังไม่วิเคราะเรื่อง PHOTOGRAPHY แบบไหนเรียกรูปถ่าย แบบไหนเรียกแค่ภาพๆๆ อะไรยังไง ซึ่งประเภทของภาพถ่ายต่างๆ  มันจะเป็นการแยกย่อยของแนวทางอีกทีครับ แต่ทั้งหมดมันก็คือ PHOTOGRAPHY

ตอนเรียนวิชา Cinematography มันก็คือวิชาการถ่ายภาพยนตร์ น่ะแหละครับ
เรียนพื้นฐานการถ่ายหนัง เพื่อจะได้งาน Cinematography ซึ่งจากงานหลังจากนี้คือการจำแนก ว่า แนวไหนๆๆ

ทั้งนี้ แก่นแท้ของ PHOTOGRAPHY ไม่ได้เน้นที่อุปกรณ์ ....เน้นที่งาน นะครับ

anantachat 2010-06-28 02:17
ขอบคุณสำหรับคำตอบจากทุกท่านครับ ...

สรุปแล้ว ฟังๆดู ผมพอจะจับใจความได้ว่า การจำแนก ภาพยนตร์ กับ ละคร ได้ด้วยรูปแบบการดำเนินเรื่อง ด้วยภาพ และ ด้วยไดอะล๊อก ใช่ไหมครับ

แล้ว เราจะจำแนก cinema กับ video ได้ด้วยอะไรครับ ...

...

...

คงเหมือนที่คุณ ggcinema บอก มันก็ขึ้นกับคนฟังคนดู ด้วยว่ามีความเข้าใจมากน้อยเพียงใด เพราะถ้าไม่มีความเข้าใจเลย มันก็ภาพเคลื่อนไหวเหมือนกันทั้งนั้น ใช่หรือไม่?

tanum 2010-06-28 02:32
อ้างอิง
อ้างอิงโพส 10 ต้นฉบับโพสโดย anantachat เมื่อ 2010-06-28 02:17  :

มันก็ขึ้นกับคนฟังคนดู ด้วยว่ามีความเข้าใจมากน้อยเพียงใด เพราะถ้าไม่มีความเข้าใจเลย มันก็ภาพเคลื่อนไหวเหมือนกันทั้งนั้น ใช่หรือไม่?

.......


สำหรับผมแล้ว นี่คือประโยคเด็ดครับ



nate 2010-06-28 08:18
ขอบคงสำหรับความรู้ดีๆครับ

nnn 2010-06-28 09:37
นิยามแบบลูกทุ่งของผมคือ "ศิลปะการเล่าเรื่องด้วยภาพ(และเสียง)"

"ศิลปะการเล่าเรื่อง" เริ่มมาตั้งแต่สมัยมนุษย์ถ้ำแล้ว แตกแขนงมาเป็น ศิลปะการแสดงหลายสิบหลายร้อยชนิด ตั้งแต่ละครใบ้ หุ่นกระบอก หมอลำ จนถึงออเคสตร้า ฯลฯ

ถ้าว่ากันเฉพาะ CINEMATOGRAPHY กระบวนการ "เล่าเรื่อง" มันครอบคลุมหมดตั้งแต่ การจัดวาง มุมมอง
การแสดง บทสนทนา จนถึงทุกอย่างในห้องตัดต่อ

ถ้าเราเข้าใจจุุดนี้จึงจะมองออกว่าจะเคลื่อนกล้องเพื่ออะไร ใช้เลนส์ช่วงไหนเพื่ออะไร ฯลฯ
ไม่ใช่ทำเอาเท่ห์ หรือเห็นเขาทำก็ทำมั่ง  

องค์ประกอบทุกมันมีความหมาย มีบทบาทหน้าที่ในการ "เล่าเรื่อง" อย่างมีศิลปะ ด้วยกันทั้งนั้นจ้า

  



  

dslr 2010-06-28 10:44
ผมว่าถ้าคิดง่ายๆเลย เราถ่ายมาแล้ว มีคนดูบอกว่า โอ้โห เหมือนดูหนังเลย งานเราก็น่าเป็นจะ cinematography แล้วครับ

ake 2010-06-28 13:43
ยิ่งพูด... ยิ่งสงสัย...
ก็เลยหาข้อมูลครับ อ่านมาจาก Wikipedia ครับ

Video , Movie , Cinema มีภาพเคลื่อนไหว มีเสียงเหมือนกัน แต่มีความหมายต่างกันดังนี้

Video
วิดีโอ (video) หรือ วีดิทัศน์ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความบันเทิงในบ้าน ใช้ต่อพ่วงกับโทรทัศน์ มีระบบหลักๆ คือ NTSC PAL และ SECAM
[attachment=776]


Cinema
มาจากภาษากรีซ : κίνημα - kinema แปลว่า "movement" เป็นคำที่มีความหมายกว้าง
ครอบคลุมถึงคำว่า Film, motion pictures หรือ movies อันนี้ความหมายเดียวกัน

ซึ่งความหมายสามารถเป็นได้ดังนี้
    * Film, motion pictures or movies
    * Movie theater, a building in which films are shown
    * Cinematography, the art of recording visual images
    * Cinema ทาง TV (Big Cinema ช่อง 7 เป็นต้น)

คำจำกัดความก็ตามนั้นครับ (ถ้าผิดหรือมีเพิ่มเติมรบกวนบอกผมด้วยนะครับ)




ส่วนท่านไหนจะสร้างงานออกมาเป็นแบบใด ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะงาน และ ความเหมาะสมครับ
ขอให้มีความสุขกับการถ่าย... เรียกอะไรดี? เอาเป็น Motion Pictures ละกันครับเทห์ดี   

victormc49 2010-06-28 15:20
อ้างอิง
อ้างอิงโพส 5 ต้นฉบับโพสโดย juud เมื่อ 2010-06-28 00:56  :
ก็คือการถ่ายหนังแหละนะ
Cinema + Graphy   ศิลปะเกียวกับถ่ายหนัง
Photo + Graphy ศิลปะเกียวกับถ่ายรูป
Porno + Graphy ศิลปะเกียวกับถ่ายรูปโป้
Video +Graphy  ศิลปะเกียวกับถ่ายวิดีโอ
.......



แล้ว

Videography กับ
Cinema้tography  

จะต่างกันยังไงดีอ่ะ

ake 2010-06-28 17:27
อ่าว... จะฝึกงานแล้วมีงง ผมก็งงตามสิครับ
ผมคิดว่า Cinema เป็นอย่างไร ทดเอาไว้ในใจ
อันไหนที่มีภาพ มีเสียง แต่ไม่ใช่ Cinema อันนั้นล่ะ Video   
ผมลองเดาๆดูจากที่เขียนไว้ครับ http://www.thaidfilm.com/read.php?tid=859#8247     

anantachat 2010-06-28 18:12
อ้างอิง
อ้างอิงโพส 15 ต้นฉบับโพสโดย victormc49 เมื่อ 2010-06-28 15:20  :



แล้ว

.......


อิอิ ผมสงสัยแบบนี้เหมือนกันครับ

iamtitti 2010-06-28 18:45
มีลูกค้าถามผมเหมือนกัน ว่าพี่ถ่ายแบบ ซินีมาโตกราฟฟี่ใหมคะ
ผมก็บอกว่า ไม่รู้เหมือนกัน แต่ผมก็ใช้ DSLR ถ่ายนะครับ
จริงๆๆก็อยากจะถามกลับเหมือนกันว่ามันเป็นยังงัยบ้างครับ
ซินีมาโตกราฟฟี่
55555

nezzis 2010-06-28 19:10
เห็นด้วยกับคุณdslrครับ
วัดกันง่ายๆ
ถ้าคนดูงานเราส่วนมาก(โดยไม่ต้องชักจูงเค้าและเป็นคนทั่วไป ไม่ใช่ช่างเทคนิคแบบพวกเรา) บอกว่า เหมือนหนังเลย
นั่นล่ะ Cinematography
ถ้าเค้าไม่ว่าอะไร
มันอาจจะทำหน้าที่ได้เป็นVideographyเท่านั้นครับ

rotcerid 2010-06-28 20:03
รากวัฒนธรรมของบ้านเรามันเริ่มจากหลายมาตรฐานน่ะครับ เกือบทุกๆอย่างที่เป็น made in thailand  มักมีหลายมาตรฐาน เมื่อไปเอาศัพท์เมืองนอกที่ มาตรฐานเขาเสถียรกว่า ความหมายมันจึงดิ้นไปได้เรื่อย

หนังบางเรื่องถ่ายเปนละคร ละครบางเรื่องถ่ายเปนหนัง

หนังเควนตินพูดเยอะ เดินเรื่องด้วยไดอะล๊อค ละครฝรั่งภาพยั๊งกับหนัง

สรุปง่ายๆคือ รากวัฒนธรรมบ้านเรามักจะให้ความสำคัญกับการแต่งกายก่อนเสมอ น้อยคนที่มักจะใช้เวลามอง พินิจพิเคราะห์ เครื่องแต่งกายนั้นเข้าไป เพื่อเข้าถึงจิตวิญญาณของสิ่งใดสิ่งหนี่งจริงๆ

อิอิ เกี่ยวกับ cinematophary บ้างไหมเนี่ย

jobfilm 2010-06-28 21:25
หลักใหญ่ผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนี้นะครับ (นี่ความเห็นส่วนตัวบวกกับการได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับหนัง
มาแล้วบวกกับประสบการณ์ในการได้เรียนรู้แลัวรับฟังจากผู้มีประสบการณ์ในสายอาชีพนี้)

ขึ้นอยู่กับวิธีการถ่าย หลักการคิด มุมมอง การวางแผนในการถ่าย การเลือกใช้อุปกรณ์ การทำงานเเพื่อรองรับ
การเล่าเรื่อง การแก้ปัญหา บลาๆๆ (จริงๆมีอีก เอาเท่านี้ก่อน)

วิธีการถ่าย คือ การถ่ายในรูปแบบไหน เหมาะกับหนังประเภทไหน หลักการคิดในองค์ประกอบภาพ
(Mis en scene) มุมมองในการถ่าย เพราะภาพยนตร์เป็นศิลปะแบบ 2 มิติ การเลือกมุมมองภาพแบบไหน
ให้มีมิติในภาพที่เราถ่ายภาพออกมา รวมไปถึงการคิด Visual Reception ผัสสะ การรับรู้ของการมองเห็นของภาพแบบ illumination 
การเลียนแบบแสงของธรรมชาติ การจัดแสง การเลือกใช้สีภายในภาพ เพื่อบ่งบอกอารมณ์ของหนัง การเลือกใช้อุปกรณ์เพื่อให้ซัพพอร์ตของเนื้อเรื่อง เช่น การเลือกใช้เลนส์ การเลือกใช้กล้องการเลือกใช้ Film Stock (ปัจจุบันเป็น Digital ก็เลือกใช้ กล้องที่ให้รายละเอียดของภาพที่ตอบโจทย์ของเรื่อง) หนังเล่าเรื่องเป็นเรื่องราวที่นำแต่ละช็อตมาเรียงต่อกันจนเกิดเรื่องราว  (Montage) จึงต้องคิดว่าแต่ละช๊อต เมื่อตอนถ่ายแล้วนำมาตัดต่อแล้วสามารถเล่าเรื่องตามแบบที่ผู้กำกับอยากถ่ายทอดเรื่องราวให้กับคนดูได้เข้าใจ

คำว่า Cinematography เป็นแค่คำที่ใช้เรียกแทนสิ่งหนึ่งๆเท่านั้น ความหมายที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ที่เราจะบอกว่าเราบอกว่าเราทำแบบ  Cinematography แต่เป็นคนอื่นที่ยอมรับเราแล้วเห็นผลงานของเราแล้วคิดว่าเรา
ทำแบบ Cinematography ต่างหาก แม้แต่เราถ่ายหนังด้วยมือถือ ถ้าเราใส่ใจ ตั้งใจ มีมุมมองภาพที่สามารถซัพพอร์ตการเล่าเรื่องได้ ก็ยังถือว่าเป็น  Cinematography เลย ส่วน Videography ก็เป็นอีกแนวทางการถ่ายที่แตกต่างกันที่มีวิธีการทำงานที่เหมาะสำหรับประเภทงานที่ได้ทำบางทีก็ไม่สามารถคิดแบบ Cinematography เพราะงานอาจจะไม่เหมาะสำหรับการคิดแบบนี้ครับ


anantachat 2010-06-28 22:36
อ้างอิง
อ้างอิงโพส 21 ต้นฉบับโพสโดย jobfilm เมื่อ 2010-06-28 21:25  :
หลักใหญ่ผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนี้นะครับ (นี่ความเห็นส่วนตัวบวกกับการได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับหนัง
มาแล้วบวกกับประสบการณ์ในการได้เรียนรู้แลัวรับฟังจากผู้มีประสบการณ์ในสายอาชีพนี้)

ขึ้นอยู่กับวิธีการถ่าย หลักการคิด มุมมอง การวางแผนในการถ่าย การเลือกใช้อุปกรณ์ การทำงานเเพื่อรองรับ
การเล่าเรื่อง การแก้ปัญหา บลาๆๆ (จริงๆมีอีก เอาเท่านี้ก่อน)
.......


ขอบคุณทุกความเห็นครับ แต่สะดุดกับความเห็นนี้ครับ

ผมเองแอบรู้สึกลึกๆเหมือนกันว่า ถึงแม้เราจะว่ากันโดยเอาท์พุทก็ตาม แต่เราก็ยังไม่สามารถจำแนกได้เป็นรูปธรรมในรูปแบบของ คุณลักษณะ ข้อ 1/2/3/4.... ว่าหากคุณดูสื่อเคลื่อนไหวเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้วมีคุณสมับติดังต่อไปนี้ มันจะจัดอยู่ในข่าว CINEMATOGRAPHY

แต่แท้จริงแล้ว นิยามของ CINEMATOGRAPHY เหมือนการจำแนกทางนามธรรมซึ่งมีการอ้างอิงหลักทฏษฏีศิลปะเข้ามาเกี่ยวข้อง ..ถูกต้องไหมครับ

นี่ขนาดพูดเองยังงงเองเลยเนี่ยครับ

5 5 5

อย่างไรก็ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมแชร์ความคิดเห็นกันครับ


aprohd 2010-08-25 21:08
อ้างอิง
อ้างอิงโพส 7 ต้นฉบับโพสโดย tanum เมื่อ 2010-06-28 01:43  :



อาจารย์ผมเคยถามผมว่า ละคร กับภาพยนต์ต่างกันอย่างไร
.......




ขอแก้ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้่าใจผิด ระหว่างละครทางทีวี กับ ภาพยนตร์นะคับ..อีกคำศัพท์หนึ่งที่ ต้องทำความเข้าใจคือ คำว่า Motion Picture แปลว่า ภาพเคลื่อนไหว.หรือภาพยนตร์ ที่เกิดจากการนำภาพนิ่งหลายๆภาพมาฉาย จึงทำให้เห็นความต่อเนื้่องของภาพ สายตาเราจึงเห็นว่าภาพมันเคลื่อนไหวได้..รายละเอียดลึกๆไม่ขอเอ่ยถึงคับ..
แต่จะขอ แก้ไข ตรงที่ว่า คำว่าละคร กับภาพยนตร์ จริงๆ แล้ว คือสิ่งเดียวกัน..ก็คือภาพเคลื่อนไหว ที่เราเห็น แต่ต่างโดยสื่อ ที่ใช่..ละคร เราดูผ่านทีวี  ภาพยนตร์ เราดูเงาของฟิล์มที่ถกแสงจากเครื่องฉายส่องผ่าน..ปัจจุบันในระบบ digital ก็ยิงตรงจากเครื่องฉายเลย.. 
ผมจึงขอแก้ ว่า ละครทีวี กับ ภาพยนตร์ คือการถ่ายถอดด้วยภาพเคลื่อนไหว เหมือนกัน..แต่ต่างสื่อ...
แต่ที่อาจารย์ คุณยกตัวอย่างมานั้น..มันเป็นประเด็นของวิธีการเล่าเรื่องหรือรูปแบบการนำเสนอสาร ที่ผ่านสื่อครับ..วิธีการเล่าเรื่องไม่ได้ใช้มาแยกประเภทว่่านี้คือละคร หรือนี้คือภาพยนตร์..
ยกตัวอย่างให้ชัดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ละครทีวี ภาพยนตร์ สารคดี MV VDO Presentation งาน HomeVDO  พอเราเอามา เขียนเป็น แผ่น DVD มันก็อยุ่ใน Format เดียวกันหมด
และเหมือนกันหมด คือ แสดงโดยภาพเคลื่อนไหว..เพราะฉะนั้น การนำเสนอหรือการเล่าเรื่องไม่สามารถ นำมาใช้เพื่อแยก คำว่า ละครทีวี กับภาพยนตร์ได้ครับ..

โดยคำว่าละคร.. ก็ยังแตกแขนงไปได้อีก ว่า ละครเวที ละครทีวี ละครเร่..
แต่โดยส่วนใหญ่ที่คนไทย นิยมติดปากเรียกละครๆ ก็เพราะว่ามันคือภาพเคลื่อนไหวที่มีเรื่องราวยาวๆฉายในTV เราก็เรียนละครหมด..
เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น..ผมนำละครไปฉายในโรงหนัง โดยไม่บอกให้ใครรู้ว่าคือละคร.. เวลานักข่าวพูด ก็จะบอกว่า "ภาพยนตร์ เรื่องนี้ จะเข้าฉายเมื่อ....."  (ทั้งๆที่เวลาอยุ่ในทีวีเรียกละครทีวีเฉย..)

และเมื่อนำภาพยนตร์ มาฉายใน TV ไม่ยักจะเรียกว่าละคร.เริ่มงงกันแล้วช่ายไหมคับ..
เอาเป็นว่า..ให้มองหรือ Focus ไปแค่ว่า สิ่งที่เรามองเห็นด้วยตาโดยผ่านสื่อ แล้วมันเป็นภาพที่เคลื่อนไหว มันคือ ภาพยนตร์ หรือ Motion Picture 

ถ้าจะแบ่งประเภท ว่าอันไหน คือละครทีวี หรือ ภาพยนตร์หรือหนังที่ฉายกันในโรง กันจริงๆ..ให้ดูที่ความยาว และความต่อเนื่องคับ.
ถ้าถ่ายทอดเรื่องราว เป็นตอนๆ มีความยาว หลายตอน 10-30 ตอน  บ้านเราเรียกว่าละคร..ย้ำครับ..บ้านเราใช้คำว่าละคร หรือ หนัง เพื่อแยกประเภทสื่อเป็นหลักคับ..

ถ้ายังไม่เข้าใจ ลองดูซีรีย์ฝรั่งนะคับ หรือละครของเมื่องนอกนะคับ..ถ่ายแบบหนังเลย..เล่าเรื่องแบบหนังด้วย....แต่ก็ยังเรียกว่าซีรีย์หรือละคร อยู่ดี..

ความเห็นโดย
K1







nasongsan 2013-07-20 22:39
The term cinematographer is derived from cinema photographer, and means someone who photographs with moving film. Sometimes referred to as the director of photography (DP or DoP), the cinematographer is responsible for capturing the film image as required by the script, under supervision of the director.
In large productions the cinematographer does not usually operate the camera, but directs and works closely with the camera operator and other camera staff. In some cases, especially smaller productions, the cinematographer and camera operator are the same person.

Note that some people take the term cinematographer to explicitly mean a director of photography who also operates the camera, but most people have a looser interpretation.
The cinematographer may be involved with location scouting, and will assist with planning lighting, film, shot composition, etc. How much creative control is given to the cinematographer depends on the director. Sometimes the cinematographer will be given complete control over camera functions and composition, in other cases the director will make all the decisions and the cinematographer is only required to make them happen.
The cinematographer may review processed film and make adjustments if necessary.

leklek 2017-04-03 18:04
กำลังพยายามเข้าใจครับ

natcha 2017-10-13 21:10
       สาระน่ารู้



เวอร์ชันเต็ม: [-- ขอทรานิยามของคำว่า CINEMATOGRAPHY ที่แท้จริงหน่อยครับ --] [-- top --]


Powered by phpwind v8.3 Code ©2003-2010 phpwind
Time 0.010840 second(s),query:2 Gzip enabled