*** สถิติทุกอย่างมาจาก Google ครับ ***
ผมมักถูกถามว่าใช้โปรแกรมตัดต่ออะไร?
ตัวไหนยอดนิยม?
วันนี้ขอเสนอ รางวัลโปรแกรมตัดต่อยอดนิยม ในไทยและทั่วโลกครับ
เริ่มด้วยรางวัลยอดนิยมระดับโลกครับ
การค้นหาใน Google ในปี 2014
การค้นหาใน Youtube ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่มี youtube
อันดับที่ 1 : Sony Vegasเป็นโปรแกรมที่ผมชอบใช้มากที่สุด 55+ ด้วยความที่ใช้งานง่าย ตรงไปตรงมา
สามารถผลิตงานได้โดยใช้เวลาเรียนรู้น้อย แต่ plugins เสริมค่อนข้าจำกัด ไม่เหมือนทางฝั่ง adobe
ที่สำคัญ มีเฉพาะ PC เท่านั้น
อันดับ 2 : Adobe Premiereโปรแกรมค่ายนี้ครองใจผู้ใช้มาอย่างยาวนาน ด้วยการทำงาน work flow ที่จบในค่าย
ทั้งการตัดต่อ ทำ effect และ grading สีด้วย speed grade โยนงานไปมาอย่างไร้รอยต่อ
ซึ่งจากการออก version CC ทำให้มีการผูกขาดเรื่องการใช้โปรแกรมมากขึ้น
การค้นหาเรื่องการใช้งานก็เลยเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ถึงแม้ interface จะดูเยอะ แต่ก็ถือว่าใช้งานแบบมืออาชีพเลยทีเดียวทั้งฝั่ง PC และ MAC
อันดับ 3 : Final Cut ProFinal Cut ดังมากที่สุดในช่วงกลางปี 2011 กระตุ้นให้มีผู้ใช้งานเยอะขึ้น
ซึ่งต้องแย่งผู้ใช้จาก Premiere และก็ทำได้ ถึงแม้จะไม่มากก็ตาม
ตัวโปรแกรมมีการทำงานครอบคลุม สามารถ grading สีด้วยโปรแกรม Color และทำ effect ด้วย Motion
แต่ตัว motion ก็ดังไม่เท่ากับ Adobe After Effect ที่มี plugins ร่วมแบบว่าใช้กันไม่หมด
ก็เลยทำให้ work flow ของค่าย MAC ไม่ปะติดปะต่อ แบบว่าต้องโยนไปทำงานกับโปรแกรมค่ายอื่นต่อ
จากที่ผมเคยใช้งาน FCPX จัดรูปแบบโปรแกรมดูเรียบร้อยมาก บวกกับการใช้งานที่ง่าย สามารถจบงานได้อย่างดี
ผู้ที่ใช้ MAC ก็เลยเทใจให้กับ FCPX
อันดับ 4 : AVIDจริงๆแล้วคะแนนใกล้เคียงกับอันดับ 2 แต่ด้วยความไม่หวือหวาในการค้นหาใน google ทำให้ผมจัดเป็นอันดับรองจาก PR
และคนค้นข้อมูลจาก youtube น้อยมากๆจึงให้แพ้ FCP ทำให้หล่นมาอยู่อันดับ 4
โดยส่วนตัวไม่ได้ใช้ AVID แบบจริงจัง ก็เลยบอกไม่ได้ว่าเป็นอย่างไร
แต่จากข้อมูลจาก google บอกได้แค่เพียงว่า คนใช้งานและความดัง คงที่ในตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาหลายๆปี
อันดับ 5 : Davinci Resolveโปรแกรมน้องใหม่ เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่มีมานาน ซึ่ง Blackmagic จับมาปัดฝุ่น
โปรโมทให้ Download มาใช้กันฟรีๆ ใช้ได้ทั้ง MAC และ PC (มันยอดเยี่ยมมาก)
แต่ถ้าจะตัดงาน 4K ก็ต้องซื้อ หรือถ้าซื้อกล้อง Blackmagic 2.5K ขึ้นไปก็มีแถมมาให้ใช้ฟรีๆเลย
โดยลักษณะของ Davinci เองเป็นโปรแกรม Grading สี ที่ใช้ในระดับ Hollywood จึงทำให้ดูซับซ้อน
ซึ่ง version ใหม่ก็อัดระบบการตัดต่อเข้ามาให้ใช้งานด้วย
ส่วนตัวผมชอบจบงานด้วย davinci เพราะการจัดการเรื่องสีของเค้าดีจริงๆ
แล้วอันดับอื่นๆ โปรแกรมอื่นๆล่ะ?
ผมต้องขอบอกว่ามีอีกหลายโปรแกรมที่ผมไม่ได้พูดถึง เช่น Edius ตัวนี้ค่อนข้างเงียบเหงาพอๆกับ AVID
Corel VideoStudio Pro , Lightwork , iMovie , movie maker ก็ไม่ได้พูดถึงครับเพราะไม่ได้อยู่ในกระแสหลักที่ใช้งานทางสายนี้
มาถึงกระแสของโลกตอนนี้
จากกราฟจะเห็นว่า Premiere กับ AVID มี Trend สาละวันเตี้ยลง
อาจจะเป็นเพราะว่าผู้ใช้เริ่มมีความรู้กัน และติดการใช้งานแล้ว
AVID ลดลงอย่างน่ากลัวมากกว่า PR ครับ แต่เค้าก็น่าจะอยู่ได้เพราะเค้าก็มีตลาดกลุ่มของเค้าอยู่
ส่วน Sony Vegas ผ่านจุด peak มาแล้วในช่วงปี 2012 ซึ่งตอนนี้ก็มีคนใช้งานมาก
ต้องคอยดูกันต่อไปว่าจะพัฒนาไปทางไหน แน่นกลุ่มตลาดไหน
ที่แน่ๆ เค้าต้องทำ software เพื่อรองรับกล้องของ sony เองด้วย
Final Cut Pro จุดพลุเมื่อปี 2011 ทำให้มีกลุ่มผู้ใช้ทางฝั่ง Mac เหนียวแน่น น่าจะใช้กันยาวๆครับ
Davinci resolve กำลังเป็นที่จับตามอง ด้วยความที่ไม่ใช้โปรแกรมตัดต่อมาโดยกำเนิด แต่เป็นโปรแกรมทำสี
แถมมาให้ใช้ฟรีกับกล้องของ Blackmagic
ผมคิดว่าคงมีหลายเหตุผลที่ทำให้โปรแกรมเป็นที่นิยมมากขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
หลักๆเลย คิดว่าเป็น การทำสีที่มีเอกลักษณ์ สำหรับคนที่ต้องการให้งาน VDO หรือ Cinema ของตัวเองมีเอกลักษณ์
เพราะโปรแกรมตัดต่อ ก็คือโปรแกรมตัดต่อ ฝั่ง user ต้องการความแตกต่าง และของเล่นใหม่เพื่อให้งานมีคุณค่ามากขึ้น
ซึ่งตัว Davinci Resolve ตอบโจทย์ตรงนี้ แถมยังเป็นมิตรกับทุกโปรแกรมตัดต่อ
นั่นหมายความว่าไม่ว่าคุณจะใช้โปรแกรมตัดต่ออะไร ก็สามารถเชื่อมต่อไปหา Davinci ได้ด้วย XML
ผมมองอย่างไรในอนาคตของโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ?คนเคยชินกับโปรแกรมที่ตัวเองเคยใช้ การย้ายค่าย ย้ายโปรแกรมที่คุ้นเคยอาจไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ Trend การทำงานที่ละเอียดจะมีมากขึ้นกำลังมา
การใช้งานโปรแกรมตัดต่อจะถูกแบ่งแยกโดยงาน และ user ไปเรื่อยๆ
(รายละเอียดผมไม่ขอพูดถึงนะครับ อีกยาวไกล)
แล้วจะเลือกโปรแกรมตัดต่ออย่างไรดี?1. เป้าหมายของงานที่คุณต้องการ
ถ้าโปรแกรมที่ใช้อยู่ในปัจจุบันตอบโจทย์ได้ดีอยู่แล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปทำความคุ้นเคยกับโปรแกรมใหม่
แต่ถ้าความต้องการสูงกว่าโปรแกรมในปัจจุบันจะรองรับได้ ก็ลองมองหาโปรแกรมที่ตอบโจทย์ของเราได้
2. workflow ของคุณเป็นอย่างไร
ผมไม่เถียงครับว่าโปรแกรมอะไรก็ตัดต่อได้ แต่ flow การทำงานที่ต้องทำงานกับคนอื่นก็มีความสำคัญ ส่วนนี้ต้องทำความเข้าใจกับทีมงาน ซึ่งหลักๆก็มีแค่ 2 โปรแกรมที่ใช้งานคือ premiere กับ final cut ที่ตัดแล้วโยนงานต่อ
แต่ถ้าถ่ายเอง จบงานเอง ให้ดูจากกล้องว่าโปรแกรมไหนรองรับ หากเป็น DSLR ก็สามารถเลือกได้ทุกตัวเลยครับ กลับไปดูข้อ 1
3. เพื่อนๆของคุณใช้โปรแกรมอะไร
เหมือนจะไม่เกี่ยว แต่สำคัญนะครับ ในกรณีที่เรามีปัญหาการใช้งาน การใช้โปรแกรมที่แปลกประหลาด อาจหาคำตอบได้ยากกว่า
สุดท้ายก็ต้องมาเริ่มนับ 1 กับโปรแกรมใหม่ คงเป็นอะไรที่เสียเวลาน่าดู
หากอ่านมาถึงตรงนี้ยังไม่รู้จะเลือกอะไร... ผมแนะนำ...
ฝั่ง PC
อันดับที่หนึ่ง Adobe Premiere เป็นอันดับแรกสำหรับทำงานร่วมกับผู้อื่น
อันดับที่สองเลือก Sony Vegas ในกรณีอยากใช้งานง่ายๆ จบงานคนเดียว
ฝั่ง MAC
เลือก Final Cut Pro หรือ Adobe Premiere ตามสบายครับ