เข้าใจหลักการและแนวความคิดครับ ... แต่ขอให้ลืมการนำ iPhone มาควบคุมได้เลย ไม่ใช่ทำไม่ได้หรืออะไร แต่มันมีปัจจัยหลายอย่างมาเกี่ยวข้อง เรื่องนี้สามารถเข้าใจได้เองง่าย ๆ โดยไม่ต้องอธิบายมากสำหรับคนที่อยู่ในสายงานนี้อยู่แล้ว แต่ถ้าไม่เคยได้เกี่ยวข้องมาก่อน คงอธิบายกันยากสักหน่อย ความคิดคนมันค่อนข้างเตลิดเปิดเปิง จับโน่นผสมนี่ บางทีไม่อยู่บนหลักการและข้อเท็จจริง ... (นี่คือความพยายามในการอธิบาย เป็นคนละเรื่องกับการดูถูกนะครับ อย่าได้แปลเจตนาผมผิด) ...
เอาง่าย ๆ ว่าเวลาเราออกแบบผลิตภัณฑ์สักตัวหนึ่ง โจทย์อันดับต้น ๆ เลยคือ จะออกแบบยังไงให้มันทำงานได้ตรงที่สุด ซับซ้อนน้อยที่สุด ด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด ... ถ้าเอาตามนี้จริง ๆ ก็ออกแบบวงจรเฉพาะมา จบครับ ตอบโจทย์เลย ยกตัวอย่างง่าย ๆ คุมมอเตอร์ในพัดลม ทำปุ่มมา 4 ปุ่ม สวิตซ์ 0 - ตัดไฟหยุด, สวิตซ์ 1-2-3 ต่อเข้ากับ R เพื่อแบ่งกระแสไปที่มอเตอร์ จบครับตอบโจทย์แล้ว ซับซ้อนน้อยที่สุดด้วย ผลิตง่าย ต้นทุนถูก ...
โอเค ไม่อยากได้แค่นั้น อยากให้มันยืดหยุ่น โปรแกรมได้ คิดเป็น Fuzzy Logic อะไรทำนองนั้น ... เอาคอมพิวเตอร์มาคุมสิ่? ได้ ไม่มีปัญหา แต่โอ้ววว สิ้นเปลืองไปมั๊ย อ้อมจักรวาลไปมั๊ย ใหญ่ไปมั๊ย เท่อะทะไปหรือเปล่า ชิ้นส่วนเยอะแยะเสี่ยงต่อการเสียหายหรือไม่เสถียรหรือไม่ ฯลฯ นี่คือปัจจัยเกี่ยวข้องที่ว่า ... เอาไอโฟนมาคุมสิ่? ได้ ไม่มีปัญหาอีกเช่นกัน แต่ ยังไม่ได้ขี้ได้ตดอะไรเลยต้นทุนวิ่งขึ้นไปแล้วสามหมื่นแล้ว!!! (ออกกองแล้วทำไอโฟนพังเนี่ยเหงื่อตกนะ แล้วออกกองก็รู้อยู่มันมีเหตุร้อยแปดให้อุปกรณ์ฉิบหายได้ตลอดเลย อะไรต่าง ๆ มันถึงได้ออกแบบมาให้ทนถึก แล้วน้องนาง iPhone มันจะไปเหลืออะไร จะให้มาคอยประคบประหงม หรือให้ซื้อไอโฟนทุกการออกกองสองสามหนเพราะมันพังมันแตกโดนร้อนโดนฝน ผู้บริโภคก็ไม่เล่นด้วยแล้วครับ), ให้คุมจาก touch screen เนี่ยนะ!!! (เหงื่อ ร้อนเปียกชื้น ฝนตก แดดออก ฯลฯ ระบบ touch screen งอแงแล้ว) แล้วถ้านั่งจิ้ม ๆ ๆ อยู่ โทรศัพท์เข้า อ้าวเจี๊ยบหายแล้ว มันจะต้องขอผู้กำกับพักกองไปคุยโทรศัพท์ก่อนมั๊ย ฯลฯ ... มันต้องมองฟิลด์งานจริงให้ออก แค่คิดก็เหนื่อยแล้วถูกไหม นี่แหละคือปัจจัยเยอะแยะมากมายบรรยายไม่หวาดไม่ไหวที่คนออกแบบผลิตภัณฑ์ต้องคิดให้ถี่ถ้วนรอบคอบ ... ผมถึงได้บอกคนอยู่ในสายงานนี้เข้าใจได้เองไม่ต้องอธิบาย แต่ถ้าไม่ใช่บางทีอธิบายให้ตายไม่ยอมเข้าใจ ไอเดียบรรเจิดเตลิดเปิดเปิง ให้่ง่ายสุด โน่นแหล่ะ ให้ลองเอง ให้รู้เอง จบ ...
ที่นี้จะยังไง ทำวงจรเฉพาะมันก็ทำงานตายตัวไปไม่ยืดหยุ่น จะใช้คอมพิวเตอร์อะไรมาคุมมันก็สิ้นเปลืองแถมอ้อมโลก ทำยังไง ? ... ทางออกมันมีมานานแล้ว คิดมานานแล้ว ใช้กันมานานแล้ว ... มันคือ MCU - Microcontroller Unit มันคือคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก มีครบหมดตามองค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ทุกประการณ์ มี I/O สำหรับ รับข้อมูล ส่งข้อมูล กับภายนอก - มีโปรเซสเซอร์ สำหรับคำนวน - มีหน่วยความจำ ทั้งชั่วคราวและถาวร (เปรียบเทียบได้กับ RAM และ Harddisk) ทั้งหมดนี้มาในขนาดเท่ากับ IC/LSI/VLSI เล็ก ๆ เพียงตัวเดียว ... แน่นอน เขียนโปรแกรมได้ ทั้งภาษาเครื่อง ภาษาแอสแซมบลี้ ภาษาซี หรือ แม้กระทั่งเขียนบน Visual Basic แล้วแต่ว่า MCU ของเจ้าไหนจะมีการพัฒนา Complier อะไรออกมา ...
ผมถึงได้บอกว่าให้ลืม iPhone ไปได้เลย ในการนำมาใช้งานระดับจริงจังเขาใช้ MCU มาคุมกัน ทุกอย่าง พัดลม ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ไปถึงระดับเครื่องจักรกลโรงงานขนาดใหญ่ ยานพาหนะ เครื่องบิน ยานอวกาศ ฯลฯ (เอาไอโฟนคุมก็ได้ แต่จิ้มอยู่สายเข้าเครื่องบินตกทำไง หรือถ้าเผลอทำไอโฟนหล่นเครื่องบินมันจะเอียงกระเทเร่ให้ผู้โดยสารส่งความสุขไปถึงบิดรมารดากัปตันเอาหรือเปล่า) ... แล้วก็ย้อนกลับเข้ากระทู้ (หลังจากอ้อมโลกมานาน) ระบบ Follow Focus แบบไวร์เลส ก็ใช้ MCU นี่แหล่ะคุมเอา จะเขียนโปรกงโปรแกรมอะไรก็เขียนกันไป จะให้จำโฟกัสสักกี่จุดก็ไม่มีปัญหา จะให้วิ่งเข้าโฟกัสแต่ละตำแหน่งตามเวลาที่ตั้งก็ยังได้ หรือจะให้มันฉลาดอีกนิดติดเซ็นเซอร์วัดระยะวัตถุให้มันแล้วเอาค่ามาคำนวนใน MCU เพื่อไปหมุนโฟกัสคล้าย ๆ ระบบออโต้ในเลนส์ก็ทำได้ (ตัดผู้ช่วยกล้องที่คอยเอาตลับเมตรไปวัดแล้วมาหมุน follow focus ทิ้งไปได้เลย ถูกมั๊ย) จะเอาอะไรอีกล่ะ ทำได้หมดนั่นแหล่ะ แล้วแต่จะคิดสร้างสรรค์กัน ... แต่ที่สำคัญที่สุดสำหรับนักพัฒนา-นักออกแบบคือ มันตอบโจทย์ได้ตรงจุดที่สุด ซับซ้อนน้อยที่สุด ด้วยต้นทุนต่ำในระดับหลักร้อยหลักพันเท่านั้น ...
อ้อ Mechatronic เนี่ยเค้าเก่งเหมือนเป็ดนะครับ ... Mechanic ก็ได้ แต่เก่งไม่เท่าพวกสายเครื่องกลโดยตรง Electronic ก็ได้ แต่ไม่เก่งเท่าสายอิเลค์ทรอนิคส์โดยตรง ... จับองค์ความรู้ด้าน Mechanic ผสม Electronic ก็กลายมาเป็น Mechatronic พวกนี้จบมาส่งเข้าโรงงาน คุมเครื่องจักร ทำระบบควบคุม เขียน PLC อะไรประมาณนี้ ... บางที่เขาอาจจะยังไม่ค่อยเชื่อถือ แต่อนาคตรุ่ง มีงานรองรับ ...
อ้างอิง
สุดท้ายราคาเกินล้านแน่นอนครับ เพราะพี่ข้างบนบอกเค้าทดลองก็เป็นแสนแล้ว แบบนี้ครับที่ผมต้องการ DIY
มันไม่ถึงแสนถึงล้านอย่างที่ว่าหรอกครับ ถ้ามีองค์ความรู้ และ คิดอย่างนักออกแบบ-นักพัฒนา ... วงจร กับ โครงสร้าง ลิสต์รายการอุปกรณ์ออกมาหลักพันก็อยู่แล้ว ส่วนที่เหลือคือการพัฒนาด้านโปรแกรม, การปรับแต่ง, การทดสอบทดลอง เพื่อให้มันเกิดความสอดคล้องในการทำงานจริง สะดวก คล่องตัว (แล้วก็ตรงนี้แหล่ะ ที่เพื่อน thaidfilm จะช่วยได้มาก เหมือนกับที่หลายคนได้พยายามโพสต์ให้คำแนะนำติติงกันในกระทู้นี้) ...
[ แก้ไขล่าสุดโดย vfspostwork เมื่อ 2011-01-27 11:52 ]