สอบถามเรื่องการตั้งค่า sequence ของ FCP ครับ

ขอสอบถามท่านๆ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ นะครับ


ถ้าเราถ่ายมาจาก 5D Mark II เป็น 1080P / 30fps


กับ 7D เป็น 720P / 60fps  ต้องการเอามา Slow


ควรตั้งค่า sequence ใน Final cut pro อย่างไรดีคร้าบบบบบบบ

ทำไมถ่ายมากันคนละขนาดล่ะครับท่าน

ขออนุญาตแบ่งปันจากประสบการณ์นะครับ อาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องที่สุด แต่ก็เป็น workflow ที่ผมทำมาตลอด แล้วผมว่าก็โอเคนะ ทำงานได้ ก็ลองนำไปศึกษาดูเป็นตัวอย่างดู แล้วก็สามารถปรับใช้ให้เหมาะสมกับวิธีการทำงานของคุณ pushzegg เองละกันนะครับ

ผมมีทั้ง 5d 7d เหมือนคุณ pushzegg แล้วก็ใช้งานลักษณะเดียวกัน คือ ใช้ 7D เพื่อทำ slow มาสลับ กับตัวหลักคือ 5D อยู่บ่อยๆ ผมก็ตัดงานที่ขนาดไม่เท่ากันนี้แหละครับ เด๋วจะอฺธิบายให้ฟัง ขอเล่าตั้งแต่เริ่มต้นเลยนะครับ เผื่อท่านอื่นๆที่เข้ามาอ่านและยังไม่ทราบขั้นตอน หรือคำจำกัดความเชิงเทคนิค เหล่านี้จะได้อ่านๆไปด้วยกันได้ ไม่งง         

แล้วก็ขออนุญาตหยิบงานเก่ามาเป็นตัวอย่างในการอธิบายนะครับ

http://www.thaidfilm.com/read.php?tid=903&fpage=4

จริงๆแล้วงานนี้ใช้ 7D ตัวเดียวครับ แต่ตั้งค่าต่างกัน 2 แบบ แล้วแต่ช๊อต  คือ  1080p 24fps  (fps ย่อมาจาก frame per second หรือจำนวนภาพต่อ 1 วินาที มาตาราฐานบ้านเราคือ 25/50 ภาพต่อวินาที ครับ) สำหรับภาพทั่วไป และ 720p 60fps สำหรับภาพที่จะนำมา slow ครับ

พอถึงบ้าน ก็จัดการแยกไฟล์ที่ถ่ายที่ 60fps (ของคุณคือ 50fps) มาเพื่อ conform โดยใช้โปรแกรม cinema tool ที่มากับ final cut studio อยู่แล้ว ผมแนะนำให้ copy  ไฟล์นะครับ เราจะได้มีแบบเดิม back up เก็บไว้อยู่ เพราะ ถ้า conform  ไปแล้วจะเปลี่ยนกลับมาเป็นแบบ 50/60 fps  ไม่ได้อีกแล้วนะครับ เตือนไว้ก่อน


โปรแกรมจะมี fps ให้เลือกหลายๆแบบ เช่น 30 fps, 29.97 fps, 24 fps หรือ 23.98 fps เป็นต้น  ผมเลือกให้แปลงไฟล์เหล่านี้เป็น 23.98 fps เพื่อให้ตรงกับคลิบตัวหลัก  (24p จริงๆแล้วคือ 23.97 เค้าเขียน 24p เพื่อให้มันสั้นๆง่ายๆ เหมือน DVD 5 แต่จริงๆแล้วมันคือ  DVD 4.7  ครับ)  ในกรณีของคุณ pushzegg คือ 29.97 หรือ 30p นั่นเองครับ

ขั้นตอนนี้ว่าไปแล้วเป็นขั้นตอนที่หลายๆคนลืมเหมือนกัน บ้างก็เข้าใจว่า ถ่ายที่ 60 fps มาแล้ว มา change speed ใน final cut ก็จะได้ภาพ slow ที่ชัดๆ ดูนุ่มนวล เป็นความเข้าใจที่ผิดนะครับ จริงๆแล้ว ต้องทำให้เสร็จก่อนนำไปตัดต่อใน final cut ครับ  ถ้าทำใน final cut เลยตัวโปรแกรมจะสร้าง frame ขึ้นมาใหม่  แทนช่วงที่ถูกยืดไปจากการขยายเวลาโดยอัตโนมัติ (ถ้าไม่สร้าง frame ขึ้นมา ภาพจะกระตุกๆ เหมือนงาน stop motion พอเข้าใจมั้ยครับ) ผลที่ได้คือ ภาพ slow ดูมัวๆ ไงครับ

โอเคครับ เมื่อตอนนี้  fps ของคลิบทั้ง 2 แบบเท่ากันแล้ว ก็นำไฟล์ทั้งหมดไปแปลง codec จาก h.264 เป็น apple prores 422 เป็นขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อให้ตัดงานได้ลื่นๆ (h.264 codec ที่เหมาะสำหรับการดู แต่ไม่เหมาะสำหรับการตัด จะให้อธิบายเรื่องนี้มันยาว ขอข้ามไปก่อน ) ผมใช้ MPEG Stream Clip เป็นตัวแปลง อย่าใช้ compressor ที่มากับ FCS นะครับ คุณจะพบแต่ความล้มเหลวในนี้โปรแกรมนี้ เราสามารถเลือกได้ทั้งการเแปลง fps และขนาดของภาพ  (จริงๆคำว่าขนาดภาพมีความหมายทางเทคนิคในการถ่ายภาพอีกอย่างหนึ่ง แต่ในที่นี้ขอใช้ในความหมายของ frame size ไปก่อน เพื่อความสะดวกในการอธิบายนะครับ ) ในส่วนของ fps ก็ให้เลือก current ไปเลยสำหรับทุกคลิบ เพราะเราได้ทำการ conform ให้เท่ากันแล้วนั่นก็คือ 23.97 fps เช่นเดียวกันกับขนาดของภาพ  แม้โปรแกรมจะมีให้เลือก เช่น 1080p, 720p , 720X576 (PAL) โดยส่วนตัวแล้วผมอยากเปลี่ยนขนาดไฟล์ของงาน ถ่ายมาเท่าไหร่ก็จะตัดเท่านั้น ผมก็จะไม่เปลี่ยนแปลงขนาดไฟล์ ตั้งไว้ที่ unscale เหมือนเดิม ทั้งคลิบที่ถ่ายมา 1080p และ 720p มายังไงมาหยั่งงั้น

ผมแนะนำว่าถ้าคุณ pushegg อยากจะตั้งขนาดภาพให้เท่ากันไปเลยในขั้นตอนนี้ เช่นแปลงเป็น 720p กันทั้งหมด หรือ ขยาย 720P ให้เป็น 1080p ก็ทำได้ทั้งนั้นครับ ไม่จำเป็นต้องทำแบบผมหรอก มันเป็นรสนิยมส่วนตัวของแต่ละคนอ่ะนะ

พอแปลงไฟล์เสร็จแล้ว ก็เอาเข้า final cut  ขั้นตอนต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณ pushzegg ถามมานั่นเอง

ตอนนี้ไฟล์เรามา 2 ขนาดคือ 1080p กับ 720p ผมถือว่าผมต้องการตัดงานนี้ให้ออกมาเป็น FULL HD ผมจึงยึดถือเอาคลิบที่เป็นภาพ 1080p มาเป็นตัวหลักของงาน ผมจะตั้ง sequence setting  ตามค่าของคลิบนี้ วิธีทำนั้นง่าย แสนง่าย เพียงเลือก คลิบที่เราต้องการนำมาเป็นต้นแบบ 1 คลิบ อันไหนก็แล้ว ลากลงมาบน timeline พอวางเสร็จปุ๊ป final cut ก็จะถามว่าต้องการ ให้ตั้งค่า sequence setting ตามค่าของคลิบหรือไม่ เรากก็ตอบ yes แค่นี้ โปรแกรมก็จะตั้งค่าไว้ให้ โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย เสร็จแล้วจริงๆ         

เนื่องจาก ไฟล์ของเราทั้งสองแบบ เป็น codec เดียวกันอยู่แล้ว นั่นก็คือ apple prores 422  เมื่อเรานำคลิบแบบที่เป็น 720P มาวาง โปรแกรมก็จะขยายขนาดภาพให้เป็น 1080p โดยอัตโนมัติ  สังเกตุได้จาก scale ในแถบ motion จะเป็น 133.33% พร้อมมีแถบเขียวขึ้นแสดงสถานะว่าคลิบ preview realtime ได้  ถ้าคุณขยายขนาดภาพมาเป็น 1080p ตั้งแต่ตอนแปลงไฟล์ใน Mpeg  stream แล้ว scale ก็จะอยู่ที่ 100% เหมือนเดิมครับ ส่วนเรื่องความละเอียดของไฟล์นั้น ถ้าดูผ่านๆก็มองไม่เห็นว่าความคมชัดไม่เท่ากัน  แต่ถ้าอยากลองดูตัวอย่างแบบเห็นภาพชัดๆ ก็เปิดคลิบตัวแรกของผมดูที่ 1080p เลยก็ได้ ถ้าคุณคิดว่าเเน็ตคุณแรงพอ อุตส่าห์อัพ Full HD ไว้แล้ว ดูไปเร้ยยย  (แต่อันที่สองเป็น 720p นะ เรื่องของเรื่องคือ คลิบมันยาว ไฟล์มันใหญ่ อัพนาน เลยย่อลงออ่ะนะ)

หวังว่าคงได้รับคำตอบที่ต้องการ และ ขออภัยหากผมสอนจรเข้ว่ายน้ำนะครับ

ได้ความรู้มากมายหลังจากที่ผมเองก็สับสนกับ workflow มานาน ขอบคุณคุณวีมากๆเลยครับ  

สุดยอดเลยคร้าบบบท่าน Victormc49

ขอบคุณมากๆ ครับบ

ได้ความรู้อีกเยอะเลยคร้าบผมมมม

คืนนี้ต้องลองๆ

ความรู้เพียบเลยครับท่าน ขอบคุณมากฮะ

ยินดีช่วยเหลือทุกท่าน ในเรื่องที่พอๆจะช่วยได้นะฮะ