สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 4421เข้าชม
  • 5ตอบกลับ

production house (งานวิดีโอ) เข้ามาหน่อย สงสัยเรื่องเงินที่แต่ละฝ่ายควรได้รับครับ

ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
229
เงิน
4396
ความดี
3566
เครดิต
3424
จิตพิสัย
3315
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
ผมอยากรู้ว่า ถ้าคุณเป็นหัวหน้าทีมโปรดักชั่นเฮ้าส์ ทีมนึง

ไปได้รับการจ้างงานมา 1 โปรเจค จากบริษัท A เขาให้ทำวิดีโอพรีเซ้นต์ตัวหนึ่งความยาว 5 นาที
สมมุติ เขาบอกมีงบให้ (สมมุติว่า) 50K บาท ต่อทั้งทีม ให้ไปบริหารจัดสรรเอง
ส่วนค่าอุปกรณ์ต่างๆ ค่าเดินทาง ค่ืาพรอพต่างๆ  สามารถเบิกได้จากผู้ว่าจ้างโดยตรง

ในกรณีนี้ผมจึงสงสัยว่าปรกติแล้ว ในการทำงาน productionhouse คุณจะแบ่งเงินก้อนนี้อย่างไร
และอีกคำถาม คือ แต่ละตำแหน่ง ควรได้รับเงินเท่าๆกันไหมครับ ??

เช่น มีกันอยู่ 10 คนแล้วกัน นั่นแปลว่าโปรเจคนี้ จะได้เงิน 5 พัน ทุกคนแบบนี้หรือเปล่าครับ
(หารจาก 50K  คือ "ค่าแรง" ของโปรเจคนี้ ที่ได้จากงบการจ้างทีมเรามาทำ  )

หรือว่าจะมีวิธีการคิดเงินแบบอื่นที่ละเอียดกว่านี้หรือเปล่าครับ
เพราะผมเคยได้ยินคนที่เคยทำงานในหลายๆหน้าที่ ก็คุยว่า งานประเภทนี้ แต่ละส่วนงานมันจะได้เงินไม่เท่ากัน
คือ ต้องคิดค่าจ้างแยกเป็นรายไป ซึ่งควรแบ่งจ่ายให้ทีมงานตาม "จำนวนวันทำงาน" ของเขา (เหมือนงานประจำยังไงยังงั้น)
ยกตัวอย่าง นาย ก. ไปออกกอง 3 วัน (หลังจากนั้นก็จบไปไม่มีภาระใดๆ) ส่วน นาย ข. ต้องมาเข่าห้องตัดต่อเป็นเดือนๆ
หรือนาย ค. เป็นคนคิดบท ใช้เวลา deal งานกับลูกค้าเป็นอาทิตย์  ถ้ามองแบบนี้ ก็จะเห็นว่าคนหนักสุดคือช่างตัดต่อ
ที่ควรจะได้รับเงินมากที่สุดใช่หรือไม่ครับ ?  

แล้วคุณคิดว่า แบบไหนมันจะแฟร์ที่สุดหรอครับ ระหว่างหารไปเท่าๆกัน นั่นแหละ  หรือแบ่งตามหน้าที่/ชั่วโมงทำงาน ดี
อยากทราบเรื่องนี้มากเลย เพราะในอนาคตอาจจะลองร่วมกลุ่มเปิด production house เล็กๆดู
ขอความรู้เป็นแนวทางบริหารจัดการครับ
ขอบคุณครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

dmk
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
227
เงิน
3657
ความดี
2841
เครดิต
2816
จิตพิสัย
3651
จังหวัด
นคราชสีมา
ไม่เคยทำงานเป็นกลุ่มเป็นทีมใหญ่ๆ แต่เป็นกลุ่มย่อยๆแบบกันเอง
  ตามที่เคยทำ แต่ละคนต้องได้ตามความสามารถและภาระงานที่ทำ คนที่ถ่ายแบบช่างภาพอย่างเดียว กับคนที่ทั้งคิดงานทั้งวางแผนงาน รับงาน ตัดต่อ และรับผิดชอบ ต้องได้ตามความรับผิดชอบ ถ้าหารเท่ากันหมด ก็ไม่ยุติธรรมสำหรับคนทำงานมากและรับผิดชอบมาก ส่วนใหญ่จะรู้กันว่าคนถ่ายควรมีค่าแรงต่อวันเท่าไร ผู้ช่วยก็ลดหลั่นลงมา
  อันนี้ตามที่เคยทำครับ
ระดับ : สมาชิก II
โพสต์
17
เงิน
279
ความดี
269
เครดิต
166
จิตพิสัย
236
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
แต่ละคน แต่ละตำแหน่งย่อมได้เงินไม่เท่ากันอยู่แล้วครับ เพราะแต่ละตำแหน่งมีความรับผิดชอบไม่เท่ากัน ต้องใช้สมองคิดในการทำงานไม่เท่ากัน และแต่ละตำแหน่งในการทำงานไม่ใช่ว่านึกอยากจะเป็นก็เป็นได้ ต้องใช้ประสบการณ์ ใช้ความรู้ที่เรียนรู้มา เงินที่ได้มันคือ "ค่าฝีมือ" + "ค่ามันสมอง" ครับ

ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ผู้กำกับ Vs. เด็กยกไฟ เมื่ออยู่หน้า Set อย่างหนึ่งในหลายๆ อย่างที่ผู้กำกับต้องทำคือเป็นคนที่ต้องคิดว่าแสงในฉากนี้ต้องเป็นอย่างไรถึงจะสวยแล้วปรึกษากับกราฟเฟอร์ เมื่อคุยกันรู้เรื่อง กราฟเฟอร์ก็สั่งให้เด็กยกไฟเอาไฟไปจัดตามที่คุยกัน เห็นมั๊ยครับ แค่เรื่องแค่นี้ก็ต่างกันแล้ว

แต่ที่บอกไม่ได้บอกว่าใครเก่งกว่าใคร หรือใครเหนือกว่าใคร หรือใครสำคัญกว่าใคร การทำงาน Production ทุกคนสำคัญเท่ากันหมด แต่ทุกคนมีหน้าที่ความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน มีต้นทุนความรู้ที่ไม่เท่ากัน (หมายถึงการเรียนรู้จากประสบการณ์ไม่ใช่สถาบันนะครับ) เลยทำให้เงินที่ทุกคนพึงจะได้นั้นไม่เท่ากัน วันหนึ่งที่เด็กยกไฟคนนี้ตั้งใจ เรียนรู้ ศึกษา หาประสบการณ์ในงานที่ตัวเองชอบ วันนึงเค้าก็มีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้น ความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น เงินที่พึงจะได้ก็เพิ่มขึ้นตาม

ในด้านของงาน Post Production เมื่องานถึงมือ Editor แล้ว ต่อให้ถ่ายมาดีขนาดไหน เจอ Editor โง่ๆ เล่าเรื่องไม่เป็น ไม่เข้าใจในงาน งานก็ออกมาไม่ดีครับ แต่ในบางครั้ง(ย้ำนะครับว่าบางครั้ง) ถ่ายมาห่วยแตก แต่มาเจอ Editor เทพๆ งานก็อาจจะ(ย้ำนะครับว่าอาจจะ) ออกมาดีก็เป็นได้ เห็นมั๊ยครับแล้วถ้าคุณเป็นคนจ่ายเงินคุณจะยอมจ่ายเงินให้ Editor โง่ๆ ด้วยเงินที่เท่ากับ Editor เทพๆ มั๊ย

ความเห็นผมเป็นความเห็นส่วนตัวที่ทำงานมา หากไม่ตรงกับความเห็นของท่านอื่นๆ ก็ขออภัยด้วยนะครับ

ท่านอื่นๆ มีความเห็นอย่างไรบ้างครับ
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
150
เงิน
490
ความดี
1710
เครดิต
1548
จิตพิสัย
3085
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เอาง่ายๆแบบบ้านๆเลยนะ
อธิบายเนื้องานให้คนแต่ละตำแหน่างเข้าใจว่าต้องทำอะไร แค่ไหน อย่างไร
แล้วถามเลยครับว่าคิดค่าแรงเท่าไหร่?

ถามให้ครบทุกตำแหน่ง แล้วเอามาดูว่าเงินที่ได้มาพอหรือไม่ ถ้าไม่พอก็ค่อยไปต่อรองกันอีกที

ปล.ค่าใช้จ่ายกองถ่ายอื่นๆ ค่อยไปเบิกกับลูกค้าอีกที นี่เสี่ยงมากนะ  เพราะไม่มีใครรู้ว่าค่าใช้จ่ายก้อนนี้จะเป็นเท่าไหร่กันแน่ ถ้าลูกค้าอยากจะจ่ายเองก็ควรมีการประเมินราคาให้ลูกค้าก่อน จะได้เป็นกรอบของโปรดักชั่นด้วยว่า จะเป็นแบบเล็ก/ใหญ่แค่ไหน หลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องการเข้าใจผิดเรื่องเงินในภายหลัง
ake
โพสต์
4768
เงิน
34014
ความดี
117475
เครดิต
125435
จิตพิสัย
118050
จังหวัด
เชียงใหม่

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 4#  โพสต์เมื่อ: 2015-09-09
หน้าที่หัวหน้าในที่นี้ คือ หางาน บริหารเงิน และอาจจะทำงานด้วย
หน้าที่ของทีมงาน คือ ทำงานตาม project

แต่ละส่วนงานมีค่าแรงที่ไม่เท่ากัน
ค่าแรงขึ้นกับ
เวลาที่ใช้ทำงานใน project
ฝีมือ
ความสามารถอื่นๆ
คุณภาพงาน
ค่าแรงนี้สรุปแล้วคือ จ่ายให้ได้สูงสุดเท่าที่ผู้รับจะพอใจ โดยที่ผู้หางานยังคงได้กำไรสูงสุด
ซึ่งจะมี rate มาตรฐานการจ้างงานอยู่

มาถึงปัญหาจริงๆ
ผมคิดว่าทีมงานคงเป็นเพื่อนกัน แล้วเราเอางานมาวางตรงกลาง
คำถามคือ กลุ่มรับงานนี้ รับงานแบบ production house หรือ รวมตัว freelance มารับงาน
การแบ่งผลประโยชน์ทางโครงสร้างไม่เหมือนกันนะครับ

ถ้าตกลงใจจะทำ production house
การจ่าย ให้ลองดูแบบที่ผมพูดไว้ด้านบน
เพราะถ้าทำ production house จริงๆ
ทางหัวหน้าจะมีค่าใช้จ่ายเรื่อง office และจิปาถะ
รวมถึงเป็นคนหางานหาเงินเพื่อหล่อเลี้ยงทีมงาน
ซึ่งเป็นผู้แบกรับความเสี่ยง
และนั่นก็หมายความว่า ต้องเป็นผู้ที่ได้รับค่าตอบแทนสูงตามไปด้วย
ระดับ : สมาชิก IIII
โพสต์
61
เงิน
1935
ความดี
1273
เครดิต
1195
จิตพิสัย
922
จังหวัด
อุบลราชธานี
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 5#  โพสต์เมื่อ: 2016-02-01
1.ถ้าเอาตามความเหมาะสมนะครับ หัวหน้าก็ต้องได้เยอะกว่าเพราะคุณเป็นคนหางานมาให้ ถ้าไม่มีคุณก็ไม่มรงาน อันนี้ตามหลักนะ
ถ้าคุณแฟร์ ๆ ในส่วนนี้ก็ตัดไป
2.เราต้องดูความเหมาะสม กับ งานนั้น ๆ ถ้ามีคนได้น้อยก็จะบอก
"เห้ย!ทำงานเหนื่อยกว่าเพื่อนทำไมได้น้อย กว่าคนตัดต่อว่ะ"
ซึ้งงานมันคนละแบบกัน ลองคิด ๆ ดูครับ

ปล.เรื่องแบบนี้ประสบการ ไม่สำคัญ ถ้าทำงานหลายคนต้องมีทีมที่ดีครับ
เข้าใจกัน ถ้าไม่ไหวก็หาใหม่อย่าฝื่น
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้