สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 3846เข้าชม
  • 17ตอบกลับ

เอาเรื่องสั้นมาฝากครับ

โพสต์
644
เงิน
16847
ความดี
14761
เครดิต
14339
จิตพิสัย
20875
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

ลองอ่านกันดูนะครับ อ่านกันเล่นๆก็ได้

ท้องฟ้าคืนนี้ดูมืดหม่น เมฆสีคล้ำๆลอยต่ำบดบังดวงดาวที่อยู่เบื้องบนจนมิด ไม่เห็นกระทั่งแสงรำไร แต่เมื่อมองลงมาเบื้องล่างเรากลับเห็นแสงสว่างระยิบระยับของไฟจากตึกยามค่ำคืนในกรุงเทพมหานคร แทนแสงของดวงดาวยามค่ำคืน ต่างตรงที่แสงเหล่านี้ไม่ได้เคลื่อนหมุนไปตามฤดูกาลเหมือนดวงดาวที่อยู่ด้านบน ราวกับว่าเมืองนี้หยุดเวลาเอาไว้  หยุดไว้ที่เวลาที่เรียกว่าปัจจุบัน

...กระแสเวลาเคลื่อนไปอย่างมีกฏเกณฑ์  แต่ทว่า หลายคนก็พยายามจะทำลายกฏเกณฑ์นั้น หลายคนที่พยายามย้อนอดีตกลับไป ไม่รู้ว่าทำไมคนจึงขวนขวายที่จะเอาชนะกฏเกณฑ์ที่สร้างเราขึ้นมา  เหมือนกับชายคนนี้ ที่ตลอดเวลาเกือบหกปีที่ผ่านมา เขามุ่งมั่นกับการเอาชนะกระแสของเวลาอยู่เช่นเดียวกัน

เขาชื่อว่า ...เสรี

เสรี ชายไทยอายุราวๆ 32 ปี เขาเรียนจบทางด้านวิทยาศาสตร์มาโดยตรง เพื่อนร่วมรุ่นของเขาตอนนี้ต่างไปเป็นอาจารย์ หรือไม่ก็ไปเป็นที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์บริษัทใหญ่ๆ กันหมด เหลือเพียงแต่เขาคนเดียวที่ทุกวันเอาแต่นั่งอยู่ในคอนโด ง่วนอยู่กับอุปกรณ์ที่เขากำลังสร้าง อุปกรณ์ที่จะทำลายกฏเกณฑ์อีกหลายร้อยข้อของมนุษย์  และแน่นอนนั่นคือ เครื่องย้อนเวลา

เขาอยู่กับอุปกรณ์หน้าตาแปลกๆ เครื่องยนต์ คอมพิวเตอร์ และห้องๆนี้ มาเป็นเวลาหกปีแล้ว หากเขาทำสำเร็จ เขาตั้งใจจะย้อนเวลากลับไปเมื่อหกปีก่อน  

หกปีที่ทำให้เขาได้แรงบันดาลใจ  

หกปีที่ทำให้เขาต้องอยู่คนเดียว

หกปีที่แล้ว ปีที่เขาลืมไม่ลง

หกปีก่อน...

เสรีเป็นเด็กหนุ่มนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยทฤษฏีแปลกๆต่างๆมากมาย เขาเป็นคนที่สงสัยในทุกสิ่ง เป็นคนที่คิดทุกอย่างนอกกรอบ นอกกฏเกณฑ์ นั่นทำให้เขามีความโดดเด่น หลายครั้งที่โครงงานของเขาส่งประกวดในเวทีต่างๆ แล้วทำให้เขามีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง

ครั้งหนึ่งเขาเคยได้ทุนเพื่อที่จะได้ไปศึกษาดูงานที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในต่างประเทศ จริงๆไม่ใช่แห่งเดียว แต่มีหลายแห่งที่สนใจเขา  แต่เขากลับไม่สนใจ  เพราะว่าทางบ้านเขาค่อนข้างมีฐานะอยู่แล้ว เรื่องค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของเขาไม่ได้มีปัญหาขัดสนเหมือนกับคนอื่นๆ  เขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องขวนขวายที่จะออกไปแสวงหาสิ่งใหม่ๆ  เขาเชื่อว่าทุกสิ่งท้าทายมันอยู่รอบตัวของเขานี่เอง  และอีกเหตุผลที่เขาไม่ไปต่างประเทศ ก็คือ... นริศรา ...หรือหนิง หญิงสาวที่เขาตั้งใจมาตลอดว่าจะให้เธอมาเป็นแม่ของลูก  

“ผมไม่ต้องการจะไปห่างจากคุณ” เสรีพูดที่โต๊ะอาหารในวันหนึ่ง ร้านนี้เป็นร้านอาหารเหนือที่อยู่ในกรุงเทพฯ เป็นร้านที่ตกแต่งออกเมืองเหนืออย่างแท้จริง เพราะว่าเจ้าของร้านก็เป็นคนเหนือโดยกำเนิด  เสียงเพลงเหนือแว่วมาตลอดเวลาของการสนทนา

“ผมไม่รู้ว่าจะต้องไปทำไม ในเมื่อชีวิตของผมอยู่ที่นี่” เสรีพูดต่อหลังจากมองหน้าหนิง
“ก็เพื่อความก้าวหน้าไงคะ เพื่ออนาคต”
“ที่รัก” ...เสรียิ้ม
“อนาคตของผมก็คือคุณไง ผมไม่ได้เป็นคนฟุ้งเฟ้อ งานเขียนวิจัยของผมก็ทำให้เรามีเงินเก็บเพิ่มขึ้น เงินทางบ้านของผมก็ไม่ได้ขาด  ...ผมไม่รู้ว่าผมจะไปแสวงหาอนาคตเหล่านั้นทำไม” เสรีกระดกน้ำเข้าปากทีนึง หนิงมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ
“คุณนี่เป็นคนแปลกนะ... มันเป็นอนาคตด้านหน้าที่การงาน ผู้ชายส่วนใหญ่ก็ต้องการความมั่นคงทางอาชีพไม่ใช่เหรอคะ”
“ไม่รู้สิ” นทียักไหล่ “ผมอาจจะเป็นคนส่วนน้อยล่ะมั๊ง เป็นคนส่วนน้อยที่ไม่เคยรู้สึกว่าเราต้องไปหาความมั่นคงจากชนชาติอื่น ดูรอบๆตัวสิหนิง”
หนิงหันไปมองรอบตัว
“บางทีผมว่าที่นี่ก็มีเรื่องมากมายที่เราต้องค้นคว้า เพื่อที่จะแก้ปัญหา มองไปบนถนน ผมก็สงสัยว่าเราจะทำอย่างไรให้รถยนต์วิ่งได้โดยไม่เกิดมลภาวะ ประหยัด” หนิงยิ้ม
“เขาคิดกันไปแล้วจ้า... ทั้งการใช้แก๊ส ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ คุณช้าไปหลายก้าวเลยนะ”
เสรีมองออกไปที่รถ “ถูกของคุณ ...มีคนทำมาแล้วทั้งนั้น ...แต่ทำยังไงให้คนได้ใช้กันทุกคน นั่นคือปัญหา ถ้ามีรถที่ขับได้ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์จริง คนที่มีโอกาสใช้จะเป็นใคร ก็พวกคนรวยๆ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้รถด้วยซ้ำ อยากเจอใครก็เรียกให้เขาเข้ามาหาถึงที่” หนิงเริ่มขยับตัวตั้งใจฟัง “แต่กับคนทั่วไป หรือคนจน ที่ต้องใช้รถในการดำเนินอาชีพ ชาวสวน ชาวไร่ ที่ต้องเอาวัตถุดิบไปขาย ที่ต้องใช้การขนส่ง คุณคิดว่าคนพวกนี้จะได้ใช้ในเร็ววันนี้เหรอ” เสรีหยุดพูด “นั่นแหละความคิดผม ...ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เพื่อคนที่อยู่ใกล้ตัว เพื่อพี่น้องของเราเอง ไม่ได้ใช้ไปเพื่อ ชื่อเสียง และความมั่นคง”

หนิงยิ้มกว้างเธอมองใบหน้าของเสรี ที่ตอนนี้ต้องกับแสงไฟสีเหลืองดูอบอุ่นและทำให้แววตาของเขาดูอ่อนโยน

“คุณมีตัวตนอยู่จริงๆเหรอเนี่ย ...” หนิงพูดขึ้นเหมือนพูดขึ้นลอยๆ “คนประหลาด นี่แหละคือเหตุผลที่ฉันรักคุณล่ะ”
เสรียิ้ม แล้วก้มลงทานอาหารตรงหน้าแก้เขิน  

นั่นเป็นครั้งหนึ่งของการสนทนาของเสรี ที่ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความแปลกในตัวของผู้ชายคนนี้  เขายังคงทำงานวิจัยของเขาต่อไปเรื่อยๆ โดยหวังว่าซักวันเขาจะสร้างคุณภาพชีวิตดีดีให้กับคนไทย  ผลงานของเขาในช่วงนั้นก็เป็นผลงานที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรซะส่วนมาก ไม่ว่าจะเป็นการกำจัดศัตรูพืชโดยใช้สิ่งมีชีวิตด้วยกัน  การสกัดน้ำมันจากพืชต่างๆ โดยการคิดค้นวิธีทำอุปกรณ์ราคาถูก จนกระทั่งวันหนึ่ง วันที่เขาเปลี่ยนวิถีชีวิตไปตลอดกาล
วันนั้นเป็นวันที่ฟ้าครึ้มเหมือนกับวันนี้  เวลาช่วงเย็นแสงสีในเมืองหม่นๆ แสงสีจากตึกรามบ้านช่องก็ดูหม่นไปด้วยเหมือนเป็นลางบอกเหตุอะไรบางอย่าง ตอนนั้นเสรีกำลังนั่งง่วนอยู่หน้าคอมพิวเตอร์  อีกสองชั่วโมงเขากำลังจะมีนัดกับหนิง  เป็นนัดที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา

กล่องกำมะหยี่สีแดงสดขนาดกระทัดรัดวางอยู่ข้างมือของเขาที่กำลังจับเมาส์อยู่ มองปราดเดียวก็รู้ว่ามันคือกล่องใส่เครื่องประดับ  แหวนเพชรราคาไม่ต่ำกว่าแสนนอนนิ่งอยู่ในกล่อง รอเวลาที่คนเปิดออกและสะท้อนแสงน้ำงามเข้าสู่สายตาของผู้ที่ได้รับ

เสรีจินตนาการถึงหนิง เวลาเธอเปิดกล่องใบนี้ออกมา เขาไม่แน่ใจว่าเธอจะทำหน้าอย่างไร  เธอรอวันนี้เหมือนเขารึเปล่า เธอจะตื้นตัน ดีใจ หรือจะเป็นคำตอบว่าเธอยังไม่พร้อม อีกหนึ่งชั่วโมงเขาจะได้รับคำตอบ เขารู้สึกว่ามันตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนที่เขาทดลองทางวิทยาศาสตร์สำเร็จซะอีก ...

แต่ในขณะที่เขาคิดเรื่องนี้อยู่เพลินๆ โปรแกรมที่เขาเปิดให้คำนวนหลักการลดอัตราการใช้น้ำมันบนยานพาหนะ กลับส่งเสียงออกมาเสียงนั้นเป็นเสียงเตือนว่าผลการคำนวนเสร็จสิ้นแล้ว เขาละสายตาจากกล่องแหวนมาที่จอคอม  สิ่งที่ปรากฏทำให้เขาต้องตาโต สิ่งที่เขาค้นหามานานมีคำตอบ คำตอบนั้นอยู่ตรงหน้า คำตอบที่จะทำให้ยานพาหนะทั้งโลกวิ่งได้โดยไม่ต้องอาศัยเชื้อเพลิง น่าจะเป็นคำตอบของการปฏิวัติโดยแท้จริง.... เขาเริ่มทำงาน  ทำงาน และทำงาน เพราะว่าสิ่งที่เขาค้นพบ มันทำให้เขาตื่นเต้น มันทำให้เขามีไฟ และมันทำให้เขาลืมเวลา ลืมเวลาที่เขาตั้งใจมาก่อนหน้า... เพราะตอนนี้ เวลาทั้งหมดของเขา กลายเป็นของโครงการตรงหน้าไปเสียแล้ว....

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง

ผ่านไปสองชั่วโมง ...โดยที่เขายังไม่รู้สึกตัว

สองชั่วโมงครึ่ง...

เขาสะดุ้งจากจอตรงหน้าด้วยเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมา  เขาใจหายหันไปมองที่กล่องใส่แหวนที่เขาเตรียมเอาไว้  ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย พร้อมๆไปกับการปิดคอมพิวเตอร์

“ฮัลโหล...” เขาพูดอย่างเร่งร้อน
“อยู่ไหนแล้วเนี่ย หนิงมารอนานแล้วนะ”
“ขอโทษทีจ้ะ กำลังจะไป”
“นี่ยังไม่ออกมาอีกเหรอ โห ใจร้ายนะเนี่ย”
“ขอโทษๆ พอดีทำงานเพลินไปหน่อย...กำลังจะออกแล้วเนี่ย”
“ไม่ต้องมาแล้ว อยู่ที่ร้านนี่เบื่อแล้ว ...”
“เฮ้ย ..อย่าเพิ่งงอนสิ กำลังออกจากบ้านแล้ว” เขาพูดพร้อมกับหยิบกุญแจรถ
“ไม่ใช่ไม่ได้งอน อยู่ร้านเบื่อแล้ว เดี๋ยวหนิงไปหาเสรีเอง รออยู่บ้านนั่นแหละ ...แล้วถ้าไปแล้วไม่คุ้มนะ มีเรื่อง”
“โห ...งั้นเลย” เขามองดูกล่องใส่แหวนที่อยู่ในมือ “ คุ้มแน่นอนจ้ะ  ...เดี๋ยวเจอกันนะ”
เขากดวางสาย  ในใจคิดว่า เพราะว่าหนิงเป็นอย่างนี้ เธอเข้าใจเขาเสมอ นั่นทำให้เขาไม่อาจจะปันใจให้กับคนอื่นได้ และเลือกเธอที่จะมาสวมแหวนวงที่นอนนิ่งอยู่ในกล่องกำมะหยี่สีแดง  
เขากลับมาเปิดคอมพิวเตอร์อีกครั้ง และเริ่มง่วนกับงานเพื่อสังคมตรงหน้าอีกครั้ง เขาคิดว่ามันดีกว่าที่จะรอโดยการปล่อยเวลาอันมีค่าให้เสียเปล่า  เขาคิดเสมอว่า เวลาคือของที่ได้มาฟรี สิ่งเดียวที่ต้องแลกกับมันคืออายุไขของคน  เราใช้มันโดยที่ไม่รู้ว่ามันเหลืออยู่เท่าไหร่ด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจึงไม่เคยปล่อยเวลาให้เสียเปล่า ทุกเศษเสี้ยววินาทีของเขามีค่าเสมอ...  

แต่ทว่า ...เขาหารู้ไม่ว่า เวลาที่หนิงเป็นเจ้าของ มันมีน้อยกว่าที่เขาคิดนัก

...............................................................

เมื่อซักสองชั่วโมงก่อนหน้านี้ ที่ร้านอาหารเหนือร้านเดิม  หนิงก้าวเท้าเข้ามาในร้าน เสียงดนตรีเหนือดังจังหวะอ้อยอิ่งยังคงลอยล่องสร้างบรรยากาศแบบเมืองเหนือเหมือนกับทุกครั้งที่เธอไป

ลูกค้ายังน้อยอยู่  ...เธอเดินไปนั่งโต๊ะเดิมโดยอัตโนมัติ  มันเป็นโต๊ะฝั่งด้านนอกร้าน ที่รับลมเย็นสบาย มีร่มเขียนลายอ่อนช้อยกางไว้เหนือโต๊ะป้องกันแดดกันฝน อันที่จริงด้วยขนาดของมัน มันคงเป็นได้เพียงเครื่องประดับที่มีไว้สร้างบรรยากาศ

เด็กเสิร์ฟคนหนึ่งเดินเข้ามา เธอเป็นเด็กผิวขาวเหมือนหยวกกล้วย แต่พูดไทยไม่ชัด เธอคงเป็นแรงงานจากพม่าที่มาหาอนาคตในกรุงเทพ เธอยิ้มกว้างให้หนิงอย่างคุ้นเคย  หนิงสั่งแค่น้ำปั่นแล้วพลิกนาฬิกามาดู  อีกห้านาทีถึงจะถึงเวลานัด  เธอละสายตาจากนาฬิกา แล้วมองไปรอบๆตัว  แต่ใจเธอไม่ได้สนในสิ่งรอบข้าง มันกลับย้อนกลับไปในอดีตราวกับเธอได้นั่งเครื่องย้อนเวลากลับไป...เธอมองเห็นตัวเองเดินผ่านประตูร้านเข้ามา

ตอนนั้นเธอเดินเข้ามาพร้อมกับเพื่อนๆที่ทำงานอยู่บริษัทเดียวกัน เธอมานั่งโต๊ะตัวฝั่งตรงข้ามโต๊ะตัวนี้ เธอลองหันไปข้างตัวเธอ ก็พบว่า เสรีนั่งอยู่ข้างๆตัวเธอ แต่ในเวลาที่เธอมองย้อนกลับไปนั้น เขานั่งอยู่ที่โต๊ะตัวนี้คนเดียว เขาอยู่กับกองกระดาษมากมาย และคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คตัวเล็กๆอีกหนึ่งเครื่อง สายตาเขาจ้องเข้าไปในโน๊ตบุ๊คบ้าง พิมพ์อะไรไม่รู้เยอะแยะมากมายบ้าง  จับเมาส์แล้วกดมันอย่างรวดเร็วบ้าง เขาทำทุกอย่างบนโต๊ะนั้นยกเว้นเพียงอย่างเดียวคือทานอาหาร เธอมองเขาแล้วรู้สึกว่าภาพข้างหน้ามันช่างดูหน้าขบขันเสียเหลือเกิน ...มันดูไม่เข้ากับบรรยากาศร้านอาหารเหนือแบบนี้เลย

และเธอกับเขาก็ได้คุยกัน  เธอเดินออกมาจากห้องน้ำ เข้ากำลังล้างมืออยู่ที่อ่างล้างหน้า เธอมองหน้าเขาแล้วยิ้ม  แต่ไม่คาดคิดว่าเขาจะเป็นคนเปิดฉากการสนทนาขึ้นมาก่อน...

“มีอะไรกับผมรึเปล่าครับ...” นั่นคือประโยคแรกจากเสรี เป็นประโยคที่ดูน่างุงงนสำหรับคนที่เพิ่งเคยเจอกันเป็นครั้งแรก แต่ถ้าเทียบกับบุคลิกแปลกๆของเขา นั่นมันก็ดูเป็นการทักทายที่น่าจะธรรมดาไปเลย
“อะไรนะคะ”
“ผมเห็นคุณมองผมอยู่ ตั้งแต่ที่โต๊ะนั่นแล้ว เลยแปลกใจ แล้วคิดว่าคุณมีอะไรกับผมหรือเปล่า” จากที่เขาเป็นคนแปลก เขากลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นคนผิดขึ้นมาแทน  เธอเริ่มคิดว่าการที่เธอจ้องมองเขามันเป็นการผิด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ด้วยความเคารพ
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
194
เงิน
5686
ความดี
4848
เครดิต
5119
จิตพิสัย
7004
จังหวัด
ปทุมธานี

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 17#  โพสต์เมื่อ: 2010-06-27
จะทำเป็นหนังไหมครับ ถ้าทำจะรอฉากเลิฟซีนเออะๆๆๆ
ระดับ : สมาชิก II
โพสต์
16
เงิน
1357
ความดี
373
เครดิต
314
จิตพิสัย
575
จังหวัด
อุดรธานี
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 16#  โพสต์เมื่อ: 2010-06-16
สั้น มากๆ 55+
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
247
เงิน
6975
ความดี
5060
เครดิต
4983
จิตพิสัย
8525
จังหวัด
ปัตตานี

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 15#  โพสต์เมื่อ: 2010-06-04
ผมว่าไม่สั้นนะ ยาวเลยนั่น หน่ะ 555+
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
221
เงิน
7782
ความดี
5272
เครดิต
5353
จิตพิสัย
6291
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 14#  โพสต์เมื่อ: 2010-05-13
ชอบมากคับ ผมก็อ่านแบบลืม เวลาไปเลยเหมือนกัน....
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
221
เงิน
7782
ความดี
5272
เครดิต
5353
จิตพิสัย
6291
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 13#  โพสต์เมื่อ: 2010-05-13
สุขสันต์วันเกิด คับ ท่าน อาจารย์
ake
โพสต์
4768
เงิน
34014
ความดี
117475
เครดิต
125435
จิตพิสัย
118050
จังหวัด
เชียงใหม่

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 12#  โพสต์เมื่อ: 2010-05-03
ตื่นเต้น รออ่านต่อครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
242
เงิน
11567
ความดี
10080
เครดิต
10506
จิตพิสัย
10093
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 11#  โพสต์เมื่อ: 2010-05-02
    
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
450
เงิน
8827
ความดี
16294
เครดิต
19162
จิตพิสัย
13771
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 10#  โพสต์เมื่อ: 2010-04-29
สุขสันต์วันเกิดด้วยคนครับ ช้าหน่อยไม่ว่ากันนะ
ake
โพสต์
4768
เงิน
34014
ความดี
117475
เครดิต
125435
จิตพิสัย
118050
จังหวัด
เชียงใหม่

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 9#  โพสต์เมื่อ: 2010-04-29
แอบมี erotic เล็กๆ อ่านแล้วได้ข้อคิดครับ ขอบคุณครับ
โพสต์
659
เงิน
24612
ความดี
22220
เครดิต
22966
จิตพิสัย
22999
จังหวัด
เชียงใหม่

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 8#  โพสต์เมื่อ: 2010-04-29
Happy Birthdya ด้วยคนนะครับ
ake
โพสต์
4768
เงิน
34014
ความดี
117475
เครดิต
125435
จิตพิสัย
118050
จังหวัด
เชียงใหม่

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 7#  โพสต์เมื่อ: 2010-04-29
สุขสันต์วันเกิดครับคุณ foolmoon ขอให้มีงานเยอะๆ ร่ำรวยตามที่หวังครับ
โพสต์
1858
เงิน
56103
ความดี
46498
เครดิต
51231
จิตพิสัย
52476
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 6#  โพสต์เมื่อ: 2010-04-29
เยี่ยมครับ...ชอบอ่านข้อเขียนของคุณ foolmoon ครับ...
โพสต์
1215
เงิน
27382
ความดี
25465
เครดิต
27374
จิตพิสัย
30396
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 5#  โพสต์เมื่อ: 2010-04-29
โอ้ เนียนครับ
โลกใบนี้ไม่มีโดเรมอนเราจึงไม่ควรทำตัวเหมือนโนบิตะ
โพสต์
644
เงิน
16847
ความดี
14761
เครดิต
14339
จิตพิสัย
20875
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 4#  โพสต์เมื่อ: 2010-04-29
อุ่ย ขอบคุณครับ
ด้วยความเคารพ
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้