เกี่ยวกับ Frame Rate

การเลือกทำงาน VDO

จะแยก Frame Rate มากมาย

เช่น 23.967    24    25    29.97    30

ซึ่งหมายถึงใน 1second จะมีการแยกเป็นช่วงเล็กๆอีกตามจำนวน Frame ที่ตั้ง

ทำไมต้องแยกเป็นหลายระดับ เพื่ออะไร

มีผลอะไร  และส่วนใหญ่งานทั่วๆไปใช้ FPS ขนาดไหน

เรียนผู้รู้ตอบทีครับ

เอาง่ายๆ เว้ากันสื่อๆ เลยก็คือ งานของคุณ เอาท์พุต เป็น ฝั่ง PAL หรือ NTSC
ซึ่ง มันมีเฟรมเรต ไม่เหมือนกัน คือ 25 กับ 29.97 หรือ 30
แล้วทีนี้ ฟุตเทจ ของคุณ ที่ถ่ายมาจากกล้อง ก็ควรจะเซ็ตให้ตรงกับงานที่จะเอาพุต
เพื่อป้องกันปัญหาเฟรมเหลื่อม เฟรมกระตุก สโตป ฟิล ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้
อย่าง PAL ก็ มี 25 50 NTSC ก็ 30 60
แต่ถ้าทำงาน กราฟิค เราก็ตั้งค่าเอาได้เลยจากในโปรแกรม
ซึ่งก็ควรจะตั้งค่าให้เหมือนกัน เพื่อป้องกันปัญหาอย่างที่บอกไว้

อ้างอิง

อ้างอิงโพส 1 ต้นฉบับโพสโดย icestylecg เมื่อ 2011-01-15 23:33  :
เอาง่ายๆ เว้ากันสื่อๆ เลยก็คือ งานของคุณ เอาท์พุต เป็น ฝั่ง PAL หรือ NTSC
ซึ่ง มันมีเฟรมเรต ไม่เหมือนกัน คือ 25 กับ 29.97 หรือ 30
แล้วทีนี้ ฟุตเทจ ของคุณ ที่ถ่ายมาจากกล้อง ก็ควรจะเซ็ตให้ตรงกับงานที่จะเอาพุต
เพื่อป้องกันปัญหาเฟรมเหลื่อม เฟรมกระตุก สโตป ฟิล ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้
อย่าง PAL ก็ มี 25 50 NTSC ก็ 30 60
.......

อ้อออ

เข้าใจละครับ

แล้วยิ่ง FPS มากมันเกี่ยวกับรายละเอียดที่มากกว่าด้วยรึป่าวครับ

24 : เฟรม/วินาที เป็นมาตรฐานในระบบฟิล์ม คิดมาจากอัตราเร็วต่ำที่สุดที่พอนำภาพนิ่งมาเลื่อนต่อกันแล้วสายตาคนจับไม่ทันแล้วเห็นเป็นภาพเคลื่อนไหวแทน ...

25 เฟรม/วินาที : เป็นมาตรฐานของระบบ Pal วีดีโอ ใช้ในในยุโรปและไทย+ คิดต่อจากฟิล์มโดยอิงจากความถี่ของระบบไฟที่บ้านเมืองนั้นใช้กันอยู่ที่ 50Hz เป็นหลัก ...
30 เฟรม/วินาที : เป็นมาตรฐานของระบบวีดีโอ NTSC ใช้ในอเมริการและญี่ปุ่น+ คิดต่อจากฟิล์มโดยอิงจาความถี่ของระบบไฟที่ใช้บ้านเมืองนั้นใช้กันอยู่ที่ 60Hz เป็นหลัก ...

non-drop frame : เป็นการนับเวลาปกติ ของระบบวีดีโอ NTSC (30 f/s drop frame) ...
drop frame : เป็นการนับเวลาที่ไม่ปกติ ของระบบวีดีโอ NTSC (30 f/s drop frame) ...

drop / non-drop คือ ผมลืมไม่ชัวร์ คิดว่า มันเป็นคำต่อท้ายวีดีโอเฟรมเรทปกติ เพื่อเป็นการเตือนให้รู้ว่ามีวิธีการนับเวลาต่างไปจากปกติ เช่น งาน 10 นาที ของ 30 non-drop กับ 30 drop จำนวนเฟรมมันจะไม่เท่ากัน โดยถ้าเป็น drop มันจะมีการชักเฟรมออกทุก ๆ ระยะเวลานึง (จำไม่ได้) ด้วยเหตุผลทำไม จำไม่ได้อีกแหล่ะ (นานแล้ว) ... แต่การนำไปใช้คือ หากเป็นงานสำหรับออกอากาศ จะตั้งโปรเจคต์เป็น drop, จะใช้ non-drop ไม่ได้ เพราะเวลามันจะยาวกว่าที่เราได้เวลามา แล้วมันจะไปกินเวลาในส่วนโฆษณา ซึ่งแม้มันจะไม่กี่วินาที แต่เวลาสำหรับงานออกอากาศมันเป็นเงินเป็นทองทั้งนั้น ... พูดอีกแบบนึงคือ ถ้าเป็นงานออกอากาศ ต้องใช้ หรือ ต้องตั้งโปรเจคต์ให้เป็นแบบ drop frame เช่น 30 f/s drop frame ...

อันนี้ไม่ค่อยชัวร์ (อีกแล้ว) ... NTSC 30 f/s drop-frame มันจะเ่ท่ากับ 29.976 f/s ... 23.976 f/s มันจะเป็นวีดีโอที่ได้จากการ telecine ฟิล์ม 24 f/s ...

ถ้าข้อมูลผิดพลาดขออภัยด้วยครับ ...

อ้างอิง

เช่น 23.967    24    25    29.97    30

23.976 นะ ไม่ใช่ 23.967 ...

เฟรมเรทสูงๆ ก็เอามาทำสโลว์ได้เยอะๆ ไงครับ
ยิ่งพวกกล้อง ถ่ายหัวกระสุน ในสารคดี
หรือของพวกทหารเอาไว้ถ่ายทดสอบเสืือเกราะ อันนั้น เฟรมเรตสูงมาก
จำไม่ได้แล้วเท่าไหร่

23.967    24 อันนี้น่าจะเป็นเปรมเรทเดียวกันนะครับมันเป็นของหนังที่ฉายตามโรง

25 อันนี้เป็นเฟรมเรทของระบบ PAL ครับ(บ้านเราก็ใช้อันนี้)

29.97    30 อันนี้เป็นของเฟรมเรทของ NTSC ครับ

คือเท่าที่่รู้มาเนี่ย
พอมันมีระบบทีวีเกิดขึ้นในโลกเนี่ยมันต้องฉายผ่านเครื่องรับโทรทัศน์ซึ่งใช้กระแสไฟฟ้าเป็นพลังงาน
ซึ่งกระแสไฟตามบ้านเราเนี่ยมันเป็นกระแสสลับ มันจะมีเรื่อง Hertz เข้ามาเกี่ยวบ้านเราใช้ 50 Hertz
ซึ่งก็หมายถึงการสลับของไฟ 50 ครั้งต่อวินาที
นี่คือเหตุผลที่บ้านเราก็เลยต้องใช้เฟรมเรทที่ 25 fps เพราะการฉายภาพของหลอดภาพโทรทัศน์นั้น
ใน 1 เฟรมจะแบ่งออกเป็น 2 ฟิลด์ เท่ากัย 50 ฟิลด์พอดี จะได้เท่ากับกระแสไฟ 50 Hz ของเราเพื่อไม่ให้เกิดการกระพริบของภาพ
ลองนึกถึงภาพ 1 ภาพเอามาวางบนเขียงแล้วซอยเป็นเส้นๆซัก 600 เส้นนะครับ
โทรทัศน์ก็แบ่งอย่างนั้นแหละครับแล้วมันจะยิงแสงออกมา 2 ครั้งเพื่อสร้างภาพขึ้นมา 1 เฟรม
ครั้งละ 300 เส้นโดยแบ่งเป็นเส้นคู่ 1 ครั้งเส้นคี่ 1 ครั้งแล้วเพื่อรวมเป็น 1 ภาพหรือ 1 เฟรมนั่นเอง
(ไม่เหมือนฟิล์มหนังนะครับ 1 ภาพก็คือ 1 ภาพ)

ส่วนประเทศที่ใช้กระแสไฟ 60 Hz ก็จะใช้ระบบ NTSC ครับจากเหตุผลเดียวกันนั่นเอง

อันนี้เป็นการเขียนจากความเข้าใจนะครับ ไม่ชัวร์
ถ้าผิดพลาดก็ขออภัยด้วยครับ

ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านที่มาแถลงไขให้กระจ่าง

เข้าใจแล้วครับ  

อ้าว พิมพ์นานไปหน่อยมีคนมาตอบแล้ว

อ้างอิง

อ้าว พิมพ์นานไปหน่อยมีคนมาตอบแล้ว

เหมือนกันเลย ผมก็พิมพ์ไปแก้ไป เรื่องมันชวนมึน ... แต่ดีซะอีกครับ ขยายราละเอียดกันไปคนละส่วน ข้อมูลจะได้แน่น

แอบเข้ามาอ่านครับ


ความรู้ทั้งนั้นเลย ^^"

ความรู้ทั้งนั้นขอเก็บเกี่ยวด้วยคนคับ

เป็นประโยชน์กับทุกคนมากมายครับ...