สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 5590เข้าชม
  • 7ตอบกลับ

การถ่ายแบบแฮนด์เฮล ใช้ได้กับอารมณ์หนังแบบไหนได้บ้างครับ

ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
151
เงิน
2647
ความดี
3248
เครดิต
3112
จิตพิสัย
3602
จังหวัด
สุราษฎร์ธานี
การถ่ายแบบแฮนด์เฮล ใช้ได้กับอารมณ์หนังแบบไหนได้บ้างครับ
เท่าที่คิดได้ตอนนี้ ก็ใช้กับการที่เราจะเน้นให้คนดูเข้าถึงอารมณ์ในเหตุการนั้นมากๆ ให้รู้สึกว่ามีส่วนร่วมด้วย ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกต้องไหม
แต่มันเอาไว้ใช้สร้างอารมณ์แบบไหนได้อีกบ้างครับ อยากทราบไว้เป็นความรู้เพื่อจะได้ใช้ได้ถูกต้องนะครับ
ขอบคุณทุกความรู้ในที่นี้ที่ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างครับ
ขอบคุณครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
187
เงิน
289
ความดี
3224
เครดิต
3232
จิตพิสัย
3859
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
หนังแบบพวกโรคติดต่อ เหตฉุกเฉินไรพวกนี้ละครับ ฮิทอยู่พักนึง ส่วนตัวผมไม่ชอบเลย เวียนหัว
โพสต์
644
เงิน
16847
ความดี
14761
เครดิต
14339
จิตพิสัย
20875
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

ปกติการถ่ายทำแบบแฮนด์เฮลด์ มักจะใช้กับการสร้างอารมณ์ความรู้สึกที่สมจริง ไม่ใช่เพราะว่ากล้องสั่นเหมือนคนเดินนะครับ แต่เป็นการเลียนแบบจากลีลาของข่าว หรือการใช้กล้องแบบแฮนดิแคม เพราะว่าคนดูคุ้นเคยกับภาพแบบนี้กับเรื่องที่เป็น Reality มันเลยทำให้เกิดความสอดคล้องกันในด้านความรู้สึกครับ

จริงๆมันก็ไม่ได้เป็นกฏอะไร มันอยู่ที่ความรู้สึกช่วงนั้นมากกว่า จนตอนหลังก็มีการนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย แม่กระทั่งหนังจัดเฟรมเองก็เอาแบบนี้มาใช้ ช็อตปกติก็ต้องมีแอบโยคแอบคลึงกันบ้าง  เขาว่่ากันว่านะครับ การถ่ายทอดในลักษณะนี้ให้ผลในการสะท้อนความไม่มั่นคงของตัวละคร มักจะเห็นได้เยอะในหนังดราม่าอินดี้ต่างๆ

แต่ข้อแม้สำคัญของงานประเภทนี้คือ ช่างภาพ (Camera Op) ต้องเก่งครับ เพราะว่าการคอมโพสต์แฮนด์เฮลด์นั่นไม่ง่ายเลยครับที่จะทำให้ได้จังหวะและสวยงาม. และผู้กำกับภาพต้องแม่นพอตัว

แถมให้ครับ การใช้ภาพแนวนี้ถ้าตามทฤษฏีเป็นเรื่องของฟอร์มภาพครับ เป็นหนึ่งในกฏของ mise en scene (การจัดองค์ประกอบภาพเพื่อสื่ือความหมาย). ในนั้นว่ากันว่ามีการจัดการฟอร์มของภาพอยู่สองแบบนั่นคือ ภาพฟอร์มเปิด และภาพฟอร์มปิดครับ

ภาพฟอร์มปิด คือการจัดวางองค์ประกอบอย่างเนี๊ยบ แน่น คอมโพสต์เป๊ะ ตัวละครจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเฟรมภาพ มักใช้ในหนังที่มีการสื่อความทางรูปแบบทางศิลปะเยอะๆ อย่างใน Raise of the red lantern ของ จางอี้โหมว หนังทั้งเรื่องแทบเป็นอย่างนี้ครับ กล้องและตัวละครไม่ได้อิสระ เพราะว่าองค์ประกอบทั้งหมดเป็นตัวสร้างความหมายและอารมณ์

ส่วนภาพฟอร์มเปิดนั้น กล้องจะปล่อยตัวละครเล่นไป แล้วกล้องจะเข้าไปจับเหตุการณ์นั้นอย่างลื่นไหล ความเป็นอิสระสูงมาก ฟอร์มแบบนี้มีไว้สะท้อนความสมจริง กล้องจะเคลื่อนไปอย่างลื่นไหลตามตัวละคร หรือบางครั้งอาจจะไปจับอะไรอย่างอื่นที่เหนือความคาดหมายก็ได้ อันนี้หลายคนคงได้เห็นพลังของการใช้ภาพฟอร์มเปิดจากเรื่อง saving private Ryan ของสปีลเบิร์กกันมาแล้ว วา Omaha scene ในตำนานนั้นมีพลังแค่ไหน
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 4 คะแนน ซ่อน
wulongcha ความดี +10 2012-05-22 -
next13 ความดี +50 2012-05-22 ข้อมูลแน่นพร้อมของแถมจริงๆครับ
mana ความดี +1 2012-05-22 -
artery-art ความดี +1 2012-05-22 -
ด้วยความเคารพ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
284
เงิน
4782
ความดี
5756
เครดิต
6295
จิตพิสัย
7024
จังหวัด
เพชรบุรี
ผมเคยไปเม้นหนังสั้นเรื่องหนึงเค้าใช้แฮนดีแคมถ่ายโดยไม่ใช้ขาตังกล้องเกือบทั้งเรื่องเลยมุมสั่นไปสั่นมา..เป็นหนังแนววส่งเสริมการท่องเที่ยว..ผมเลยบอกว่าเนื่อเรื่องโอเคนะ..แต่ถ้าให้ดีใช้ขาตั้งกล้องทุกซอตจะดีมาก(เพราะสถาปัตยกรรมหรือสถานที่ท่องเที่ยวจะมองให้สวยมุมมันต้องนิ่ง)..เค้าเม้นกลับมาว่าเค้าตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้เอง..ผมเลยเงียบไป  


ปล.ผมเม้นในฐานคนดูนะไม่ได้เปนผู้รู้แต่ประการใด อิอิ
[ แก้ไขล่าสุดโดย mana เมื่อ 2012-05-22 13:52 ]
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
151
เงิน
2647
ความดี
3248
เครดิต
3112
จิตพิสัย
3602
จังหวัด
สุราษฎร์ธานี
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 4#  โพสต์เมื่อ: 2012-05-22
ขอบคุณคุณ foolmoon มากๆเลยครับ  ได้ความรู้ หายสงสัย แถมได้ของแถมมาอีก ไว้อันไหน เสริชไม่เจอ ขอมาตั้งถามอีกนะครับผม ขอบคุณครับ
ป.ล.ขอสารภาพผิดว่า ตั้งคำถามกว้างไปนิด ที่อยากรู้จริงๆคืออาการ สั่นหน่อยๆของภาพ คล้ายๆใส่เลนส์ 85แล้วใช้มือถ่ายหน่ะครับ แต่ท่าน foolmoon ตอบได้ครอบคลุมหมดอีกเช่นกับ ขอบคุณมากๆเลยครับผม
โพสต์
787
เงิน
5355
ความดี
14867
เครดิต
11447
จิตพิสัย
37005
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 5#  โพสต์เมื่อ: 2012-05-22
การถ่ายภาพแฮนด์เฮล ( ถ่ายแบบคนเมา ) เป็นการถ่ายภาพแบบสั่นไปมา วัตถุประสงค์ก็คือ ต้องการนำเสนอความแปลกใหม่ หรือเป็นการเน้นเฉพาะซีนนั้น
ให้เด่นขึ้น เช่น มิวสิคคนอื่นตั้งกล้องนิ่งเราก็ถ่ายแบบแฮนด์เฮล  , หรือแทนสายตาตัวละคร ( โดยถ่ายแบบกระตุกตามจังหวะที่เดิน )

ฟังอาจารย์ใหญ่พี่ฟูลมูนทางทฤษฏีไปแล้ว ผมอาจารย์เล็กภาคปฏิบัติ ก็มีคำอธิบาย โดยทั่วไปมีวัตถุประสงค์ดังนี้คับ..

1. แบบเราเป็นผู้เล่าเรื่องเอง เหมือนเรานั่งคุยกับเพื่อน แล้วเล่าเรื่อราวของบุคคลที่ 3 ให้เพื่อน บุคคลที่ 2 ฟัง โดยเราเป็นบุคคลที่ 1 เป็นผู้เล่า โดยเราจะแสดงเอง       หรือ ให้คนอื่นแสดงเป็นตัวแทนเราก็ได้ ( กล้องแฮนด์เฮลคือตัวเราบุคคลที่ 1 ผู้เล่านำเสนอเหตุการณ์ ) ที่ใช้บ่อยคือ ภาพแทนสายตาของผู้เล่า
2. แบบเราเป็นผู้สังเกตุการณ์ฟังคนอื่นเล่า เหมือนเราเข้าไปนั่งร้านกาแฟ แล้วเห็น ชายหญิงทะเลาะกัน ต่างคนต่างระบายความอัดอั้นตันใจที่มี ชายพูด หญิงพูด
      เรามีหน้าที่ฟังแล้วสังเกตุดูว่า ต่อไปจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง ( กรณีนี้ กล้องแฮนด์เฮลคือตัวเราบุคคลที่ 3 ที่นั่งฟัง ) ที่ใช้บ่อยก็พวก
      แทนสายตาผีที่เห็นเราทำอะไรทุกอย่าง

        จริงๆแล้วมีใช้อยู่ 2 กรณีนี้เท่านั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นหลายคนดูแล้วบ่น เวียนหัว หรือดูไม่รู้เรื่อง ก็เพราะเราใช้ทั้งแบบ 1 และ แบบ 2 มาปนกันมั่วไปหมด
      เดี๋ยวแทนคนเล่า เดี๋ยวแทนคนสังเกตุการณ์  หนักเข้าแทนตัวแสดงเลยก็มี โดยไม่แบ่งอารมณ์ให้คนดูเข้าใจ ยกตัวอย่างเช่น
        ชายเดินเข้าไปในบ้านร้างเห็นของภายในระเกะระกะ                     -  ภาพแฮนด์เฮล ( แทนสายตาคนเดิน ) เห็นสิ่งต่างๆภายในบ้าน
        ชายเดินขึ้นบันไดไปที่ห้องนอนเห็นคราบเลือด                           -   ภาพแฮนด์เฮล( แทนสายตาผี ) เห็นชายเดินไปมาในห้องนอน
        เห็นมือเลื่อนเข้าไปแตะตัวชายหันมาตกใจ                                -   ภาพแฮนด์เฮล ( แทนสายตาเพื่อน ) เอื้อมมือมาแตะไหล่
     เป็นไงคับ แค่3 ตัวอย่างก็เริ่มงงแล้ว ยังมีแทนสายตาคนหนึ่งมองเห็นผี แทนสายตาคน 2 มองไม่เห็น แทนสายตาผีมองที่ 2 คน แทนสายตาเพื่อนทั้งกลุ่ม
     มองมาที่ 2 คน ถ้าชอบแฮนด์เฮลและอยากรู้วิธีใช้ก็ลองไปดูหนังผีเกาหลีซิคับ ( น่ากัวสุดๆ ) จะได้รู้วิธีการใช้แฮนด์เฮลแทนตัวละคร สลับกับแทนแต่ละเหตุการณ์   
  อย่างไรไม่ให้คนดูสับสนถ้าจะทำ เรามีคำแนะนำที่นึกออกตอนนี้. -คือ การใช้แฮนด์เฮล..

1. อย่าใช้พรำ่เพรื่อ คือใช้แทนทุกตัวแสดง คนดูจะงงจับต้นชนปลายไม่ถูกว่า กล้องเป็นตัวแทนของใคร?..
   2. อย่าใช้ต่อกันทันที การใช้หลายอารมณ์ต่อเนื่องกัน คือแทนคนดู แทนคนแสดง แทนสายตา คนดูจะสับสนในอารมณ์ที่นำเสนอ?..
    3. ควรมีเอกลักษณ์เฉพาะและแตกต่างในแต่ละเหตุการณ์ที่นำเสนอ เช่น แทนสายตาผีภาพอาจเกรดสี , หรือใช้เสียงเอฟเฟคแทนสายตาตัวละครที่มอง
         เพื่อบอกคนดูรู้ว่า  กล้องกำลังเป็นตัวแทนของใคร
4. และข้อสุดท้ายสำคัญที่สุด จำเป็นต้องมีหรือไม่ ใช้แล้วไปได้กับเนื้อเรื่องที่เราวางไว้หรือไม่ ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าใช้เลยคับ ( ถ่ายแบบคนเมา )
         ทำธรรมดาคนดูก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องอยู่แล้ว  เพิ่มแทนสายตา( คนเมา )เข้าไปอีก ยิ่งเล่นเยอะยิ่งเละ ระวังนะคับ ...
         มีเร่ื่องเล่าในทีมถ่ายมิวสิค ( เคยเขียนเล่าไปแล้ว ) ผู้กำกับสั่งให้ช่างภาพถ่ายนักร้อง ถ่ายยังไงก็ไม่ชอบ ตินั่นตินี่ตลอด จนช่างภาพกับผู้กำกับเกือบ
         วางมวยกัน ขณะที่เถียงกันอยู่ พอดีช่างภาพถือกล้องแกว่งไปมา ผู้กำกับเห็นภาพจากมอนิเตอร์ก็บอก นั่นเลยใช่แล้ว ภาพที่อยากได้ ถ่ายแบบนี้ล่ะ
          ช่างภาพ มองมือที่ถือกล้องแกว่งไปมา ทำหน้างงๆ แต่ก็ถ่ายแบบที่ผู้กำกับต้องการจนจบเพลง ทุกคนแฮปปี้ จบงานช่างภาพนั่งบ่นพึมพำกับตัวเอง ...
         "  ถ้าต้องการภาพแบบนี้ เอากล้องไปผูกคอหมาให้วิ่งไปมาก็ได้ ไม่ต้องมาจ้างผมให้เสียตังค์ " .... เรื่องขำขันแต่เป็นเรื่องจริงนะคับ..
        
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 3 คะแนน ซ่อน
next13 ความดี +50 2012-05-24 ขอบคุณคร๊าบบบ
mana ความดี +1 2012-05-23 -
wulongcha ความดี +10 2012-05-22 -
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
151
เงิน
2647
ความดี
3248
เครดิต
3112
จิตพิสัย
3602
จังหวัด
สุราษฎร์ธานี
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 6#  โพสต์เมื่อ: 2012-05-24
ขอบคุณมากๆ เลยครับท่านอาจารย์ pop-it เป็นความรู้ที่ดีและมีประโยชน์มากๆครับ
ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะมีไอด่อลของผมเข้ามาช่วยตอบให้ละเอียดถึง2คนเลย
ขอบคุณมากๆครับ
โพสต์
1168
เงิน
213
ความดี
29205
เครดิต
30232
จิตพิสัย
35008
จังหวัด
ขอนแก่น

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 7#  โพสต์เมื่อ: 2012-05-26
เห็นกระทู้แล้วนึกถึงเรื่อง City of god กับ City of men แล้วก็ชาร์ลี โมพิกเลย 5555 มึนหัวแต่ได้อารมณ์ดี
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้