สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 3577เข้าชม
  • 19ตอบกลับ

อยากทราบเรื่องภาพยนตืฟิม

โพสต์
3280
เงิน
49028
ความดี
67852
เครดิต
78389
จิตพิสัย
62308
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 15#  โพสต์เมื่อ: 2013-02-07
ตอบกลับโพสต์ 13 โพสต์ของ (krerk)
คงไม่นิยมเอาฟิล์มทั้งหมดมาสแกนนะครับ เพราะจะเสียค่าใช้จ่ายสูง แต่จะใช้อีกเทคนิคนึงที่เรียกว่า telecine คือยิงฟิล์มเข้า CCD ได้ออกมาเป็นวีดีโอธรรมดา ๆ แล้วนำไปตัดต่อ พอเสร็จแล้วก็จะส่งออกเป็นไฟล์ EDL เพื่อไปเลือกเอาเฉพาะส่วนที่ต้องการใช้งานจริง ๆ มาสแกนอีกครั้งครับ จากนั้นก็ทำ CG อะไรต่อไป ...







ปล. ปกติเครื่อง scan ฟิล์ม ก็ทำ telecine ได้ในตัวอยู่แล้ว ...
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ความดี +1 ซ่อน
krerk ความดี +1 2013-02-07 -
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
414
เงิน
10307
ความดี
9193
เครดิต
9018
จิตพิสัย
11251
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 16#  โพสต์เมื่อ: 2013-02-07
"telecine คือยิงฟิล์มเข้า CCD " มันจะเป็นเครื่องใช่มั๊ยครับ หลักการทัางานประมาณอย่างไรครับ เอาเเผ่นฟิมไปวิ่งบน ccd ซึ้งจะได้เป็น Digital ประมาณนี้รึป่าวครับ            


///
ยังไงๆ มันก็ไปเป็น digital อยุ่ดี ทําไมเค้าต้องถ่ายเเบบฟิมกันยู่ครับ
โพสต์
3280
เงิน
49028
ความดี
67852
เครดิต
78389
จิตพิสัย
62308
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 17#  โพสต์เมื่อ: 2013-02-08
ตอบกลับโพสต์ 16 โพสต์ของ (krerk)
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
544
เงิน
9933
ความดี
7297
เครดิต
6890
จิตพิสัย
8542
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 18#  โพสต์เมื่อ: 2013-02-08
ค่า dynamic rang ของฟิล์มมันจะอยู่ราวๆ 15-18 stop ครับ ซึ่งดิจิตอลทำได้สูงสุดตกราวๆ 13 stop
แล้วก็เรื่อง rolling shutter ที่ดิจิตอลมีกันหมดทุกตัว ไม่ว่าจะกล้องตัวละ 5 ล้าน อย่าง Red Epic หรือ 8 ล้านอย่าง  Alexa ไหนจะเรื่องสีอีก ดิจิตอลยังเลียนแบบได้ไม่ 100% และ film มันไม่มี resolution ครับ อีก 10 ปีเก็บไว้ แล้วสแกนให้ใหญ่กว่าเดิมก็ได้

การสแกนฟิล์มมาเป็น digital นั้นเพราะเค้าสามารถไปตัดต่อ เกรดสี ทำเสียง ทำ CG ได้ครับ แล้วก็เอาไปปริ้นท์กลับอีกที    

ส่วนที่ว่าทำไมเค้าถ่ายฟิล์ม ทั้งๆ ที่เดี๋ยวน้มีดิจิตอล..... อันนั้นเป็นความชอบส่วนตัวของคนทำหนังครับ ผู้กำกับ บางคนเค้า conservative มากๆ ไม่ยอมใช้ดิจิตอลอย่าง เควนติน ทาแรนทิโน, โนแลน กับตากล้อง วอเรน พิฟฟี, สปีลเบิร์กกับตากล้องจานุซ คามินสกี้  พวกนี้เกลียดิจิตอล ไม่ยอมจับครับ

ขณะที่มาร์ติน สกอเซซี หันไปจับดิจิตอล ใช้ alexa เค้าก็ชอบครับ (จริงๆ กล้องตัวนี้ผู้กำกับภาพหลายคนที่ถ่ายฟิล์มชอบมากกว่าดิจิตอลตัวอื่นๆ เยอะ)  ซึ่งเค้าจะใฃ้อะไร ก็อยู่ที่งบประมาณกับรสนิยม เมืองนอกการทำ digital ถูกกว่าตรงไม่ต้องแสกนฟิล์ม แต่หนังทุนสูงเค้าก้นิยมดิจิตอล ซึ่งแล้วแต่ผู้กำกับ แต่บ้านเราเนี่ยเอาจริงๆ ราคาเท่ากันครับ ฟิล์มหรือ digital (แบบกล้อง red หรือ alexa)

ถ้าคุณลองเล่นกล้องพวก RED หรือ Alexa มันจะมี RAW ครับซึ่งตรงนี้เค้าชอบกัน เพราะมันเหมือนฟิล์มที่ปรับแก้ในโพสต์ได้เยอะ (สีแน่นกว่า รายละเอียดภาพดีกว่า)  ถ้าจับแต่พวกกล้อง DSLR จะไม่ค่อยเห้นภาพว่าทำไมเค้าถึงนิยมถ่ายฟิล์ม เพราะมันสแกนแล้วเอาไปแก้ไขได้เยอะไงครับ

ปัญหามันไม่ได้อยู่อะไรดีกว่าอะไรครับ  เพราะไม่ว่ายังไงข้อดีของฟิล์มมันก็แทนด้วยดิจิตอลไม่ได้ ณ ปัจจุบัน
....แต่อีก 10 ปีก็ไม่แน่หรอกครับ เพราะดิจิตอลมันไปเร็วมากๆ แถมตอนนี้ประเทศเมกา ญี่ปุ่น ยุโรป เค้ากำลังจะก้าวสู่ ยุค 4k เป็นมาตรฐานแล้ว
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 2 คะแนน ความดี +2 ซ่อน
fooding ความดี +1 2013-02-09 ขอบคุณครับได้ความรู็เยอะเลย
vfspostwork ความดี +1 2013-02-08 -
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
544
เงิน
9933
ความดี
7297
เครดิต
6890
จิตพิสัย
8542
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 19#  โพสต์เมื่อ: 2013-02-08
ก่อนหน้า Computer Generated Image หรือ CGI จะเข้ามา เมื่อก่อนเค้าใช้ฟิล์มถ่ายพวกโมเดลจำลอง แล้วขยับทีละเฟรม หรือวาดลงแผ่นฟิล์มทันบนฟุตเตจ

Optical Printer มีหน้าที่ปรินท์ภาพพวกนั้นลงบนแผ่นฟิล์มทละเฟรมครับ

ส่วน cg ยุคนี้ เค้าสแกนฟิล์ม แล้วมาทำในคอมพิวเตอร์  เรนเดอร์ภาพออกมาเป็นภาพท่สมบูรณ์แล้วส่งเข้าห้้องตัด ทำเสียง เกรดสี  (ด้วยดิจิตอล)

เสร็จแล้วเค้าจะเาอค่าต่างๆ กลับมาเทยบ เวลาปริ้นท์ลงฟิล์มอีกทีครับ
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้