สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 3722เข้าชม
  • 23ตอบกลับ

ความคิดเห็นในการทำงาน

ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
734
เงิน
20336
ความดี
17622
เครดิต
19309
จิตพิสัย
17084
จังหวัด
สงขลา

อุปกรณ์เสริมทำให้เราทำงานสะดวกขึ้นไม่ใช่ทำให้งานราคางานแพงขึ้น.......ราคางานขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ถ้าความคิดแบบนี้ของลูกค้ากับคนทำงานคิดแบบนี้ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมผมว่าไม่ถูกต้อง  ลองคิดดูถ้าอีกคนผลิตงานด้วยอุปกรณ์ราคาถูกผลิตผลงานออกมาดีเทากับคนใช้อุปกรรณ์ราคาแพงมีตัวช่วยเยาะ  ผลงานเหมือนกันดีเท่ากันอย่างนี้งานของคนใ้ช้อุปกรณ์ถูกๆราคาจะต้องถูกกว่าคนที่ใช้อุกกรณ์แพงหรือครับ  ........ถ้าอย่างนั้นเขาไม่ได้วัดราคากับคุณภาพดัวยตัวงานซิครับ.....เพราะผลิตงานออกมาดีเหมือนกัน......ผมว่าอยู่ที่ไอเดียกับฝีมือนะ....อุปกรรณ์เป็นแค่เครื่องมือในการผลิตงานออกมาซึ่งก็มีหลากหลายแล้วแต่เลือกและเงินของเราแต่มันไม่สามารถทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์และฝีมือเพิ่มขึ้น.....แต่มันทำให้เราทำงานเร็วขึ้นและเพิ่มศักยภาพในการทำงานมากขี้น
.....มันเป็นเพียงเครื่องมือมันไม่ใช่สมองของเราแล้วมันจะเหนือกว่าตัวเราได้อย่าไร........
.............คนที่มีเงินน้อยต้องติดอาวุธทางปัญาเท่านั้น.............
และในเว็บนี้มีอาวุธทางปัญามากมาย....
....ขอให้คนที่มีเงินมากเอื้อเฟื่อกับคนมีเงินน้อยและมีช่องทางให้เขาเดิน  เขาก็สามารถเดินอยู่ได้บน
โลกแห่งวัตถุนิยม.....(ก็จะไม่มีคำว่าสองมาตรฐาน ตอนนี้คำนี้กำลังฮิต)..
 ๑.ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ....อตฺตา  หิ  อตฺตโน  นาโถ
๒.ปัญญาย่อมประเสริฐกว่าทรัพย์....ปญฺญาว   ธเนน  เสยฺโย

[ แก้ไขล่าสุดโดย kai35 เมื่อ 2011-04-23 05:40 ]
  • รูปภาพ:IDEAA5.jpg
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
zeedmanz ความดี +1 2011-04-23 -

บทความที่เกี่ยวข้อง

โพสต์
2233
เงิน
39418
ความดี
31452
เครดิต
30299
จิตพิสัย
73899
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

สาธุ ครับ
โพสต์
787
เงิน
5355
ความดี
14867
เครดิต
11447
จิตพิสัย
37005
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

..เข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของคุณ kai35 ดี แต่อย่างไรคุณก็หลีกเลี่ยงหนีปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ และต่อๆไปก็จะยิ่งรุนแรงขึ้น ..

.จริงๆความรู้สึกนี้เกิดมานานจนชาชินแล้ว....ผมขอยกตัวอย่างให้เข้าใจสัก 2-3 แบบ

- มีน้องคนนึง ใช้เพรีเมียตัดไม่มีงาน โทรมาของานรุ่นพี่ พี่ก็เล่ยส่งไปให้( แต่พี่ใช้แมคไฟนัล ) หายไปประมาณ 2 ชม. ลูกค้าโทรมาบอก

  เขาไม่ตัดแล้วนะ เพราะเครื่องช้ามาก ขนาดแมคมีกราฟฟิคเพียบยังใช้เวลานานมากในการสรรค์ แต่พอมาเจออาฟเตอร์ของพรีเมีย

  ลูกค้าเดินหนีเลย ..( ถามใครผิด )...( อาจเป็นตัวลูกค้าที่เขาชินกับการทำงานของแมคก็เป็นได้ )

- มีดาราคนนึง บอกเลย กบ ปภัสรา ไปแต่งงานกับเศรษฐี แล้วก้าวตัวเองขึ้นเป็นผู้จัดจ้างดารามาเล่น ( แต่ก่อนเป็นแค่ดารารับเล่น )

ในบทละครบ้านเศรษฐี 100 ล้าน สบายมาก เพราะเพื่อนเศรษฐีเยอะแยะใครๆก็สนับสนุน ละครออกมาดูดีเหมือนจริง สถานที่สวย

ช่อง3ก็ป้อนงานให้ตลอด กลับกัน ผู้จัดคนอื่นงานก็น้อยลงเพราะส่วนแบ่งหายไป กลับกัน ถ้าให้คุณหาบ้าน 100ล้าน มาถ่ายละครทำได้ไหม.

คุณจะมีศักยภาพพอขอบ้านเศรษฐีมาถ่ายละครได้ไม๊ เศรษฐีที่ไหนจะให้ถ้าไม่ใช่เครือญาติ ..( ใครถูกผิดอีกล่ะ )

- ช่างภาพช่องฟรีทีวี 3-5-7-9  เวลาไปถ่ายข่่าวย่อมสนิทสนมกับเจ้าของธุรกิจ แล้วตั้งทีมรับงานขึ้นมาแข่งกับพวกคุณ อยากได้ดาราในช่องก็ได้

ถามถ้าคุณเป็นลูกค้าจะจ้างใคร ระหว่างพวกคุณโนเนมกับช่างภาพฟรีทีวี..( ไม่ถามแล้วใครผิดถูก)

- คณะตลกไม่มีปริญญา หาเช้ากินคำ่ตามสถานบันเทิง ชีวิตก็ว่าแย่แล้ว วันนึ่ง มีคณะสถาปัตย์จุฬาตั้งคณะตลกแบบมีคุณภาพเข้ามาแย่งส่วนแบ่ง

ซึ่งพวกเขาก็มีช่องทางน้อยอยู่แล้ว จนคณะตลกคนนึงพูดว่า "..ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมในเมื่อพวกน้องๆมีปริญญาไม่ทำในสิ่งที่คุณเรียนมา แต่มาทำ

งานแข่งกับพวกเขา แล้วอย่างนี้พวกเขาจะเอาอะไรกิน "...

-ตัวอย่างสุดท้ายน่าจะเข้าประเด็นคุณ kai35 มากที่สุด น้องเขาถ่ายภาพนิ่งตกแต่งทำอัลบั้ม ใช้พีซีเครื่องก็ช้า เจอไวรัสก็ทำงานไม่ได้ ต้องยกไปให้

ช่างแก้  กลับมาทำได้หน่อยเจอไวรัสชนิดใหม่อีก ( มาจากคนอื่นเอาภาพมาโหลด ) งานลูกค้าก็ส่งไม่ทันตามกำหนด หลายงานค้างจนตัวเขาก็

คิดไม่ตก เห็นน้องนั่งหน้าเศร้าอยู่คนเดียวเลยเรียกมาคุยถึงรู้ปัญหา บอกน้องต้องซื้อแมคใช้แล้วล่ะ เพราะแมคไม่มีไวรัส และยิ่งตัวน้องผู้หญิง

ไม่มีความรู้เรื่องคอมเลย ทำงานไม่ได้หรอก และปัญหาใหญ่คือเรื่องเงิน ไอแมคถูกสุด 5 หมื่นรวมอัพแรมและอื่นๆอีก ในที่สุดก็ขวนขวายหามา

ใช้ได้ ( แต่อย่าถามว่าหาเงินมาได้ยังไง ) จากเดิมทำงานอาทิตย์ละ 2 งาน ตอนนี้วันละ 2 งาน ...  ( ยังมีตัวอย่างอีกเยอะ )...

..มาถึงคำตอบที่อยากบอกมากๆๆว่า อาชีพของเราเหมือนมีเรืออยู่1ลำ ( ทุกอาชีพมีแต่ละลำ ) มีคนอ้วนคนผอมนั่งไปในเรือ เมื่อคราวใดที่คนอ้วน

ขยับตัวเพราะเมื่อย เมื่อนั้นเรือจะโคลงเคลงตามทันที และนี่ก็คือคำตอบว่า เมื่อใดก็ตามที่คนมีศักยภาพในสังคมเคลื่อนไหว สิ่งอื่นจะถูกกระทบ

ตามทันที อย่างที่คุณหลีกเลี่ยงไม่ได้ ( เหมือนในตอนนี้ ) ไม่อยากให้ไปโทษกับสิ่งรอบข้าง เพราะยังไงก็แก้ไขมันไม่ได้ ....

...จริงๆแล้วตลาดรายการโทรทัศน์ทุกวันนี้ ถ้าคุณสังเกตุจะมี 2 แบบ ( หาตลาดให้เจอกับสิ่งที่เรามี )

--แบบ 1 ( ไม่คิดเยอะ )เทคโนโลยีลำ้สมัย พวก mv รายการวัยรุ่นฮิบฮอบ เน้นอารมณ์แรงๆ เน้นกราฟฟิคเยอะๆ การใช้เทคโนมาช่วยข้อดีก็คือ

               สามารถกลบ ลบข้อด้อยต่างๆได้ เช่น บทอ่อน , ถ่ายภาพมาไม่ดี , อารมณ์ภาพไม่สวย ฯลฯ

--กับแบบ 2 ( คิดเยอะ )ไม่เน้นเทคโน ไม่เน้นกราฟฟิค เช่น รายการสารคดีท่องเที่ยว , รายการในหลวง , รายการเกมโชว์ , ละคร , งามสัมมนา

               ฉนั้น คนที่จะทำรายการแบบนี้ได้ ต้องเป็นคนที่มีความรู้เฉพาะจริงๆ ..บทต้องแน่น, ..ภาพต้องสวย, ..อารมณ์ของเนื้อเรื่องตัดต่อดี

               เพราะไม่สามารถใช้กราฟฟิคมากลบ ลบ ข้อเสียของตัวรายการได้ ฯลฯ      

... มีน้องหลายคนที่ยังใช้เครื่องมือรุ่นเก่า เขาก็รับงานแบบ 2  ซึ่งทำโดยใช้สมองส่วนใหญ่ ภาพสวย เรียบเรียงเรื่องดี กราฟฟิคนิดๆพอ

รับเพียง รายการเดียว เดือนละ 4 เทป รับน้อยแต่ให้มีคุณภาพเต็มๆ หรือรับสารคดีเฉพาะงาน เพียงแต่ข้อเสียของแบบ 2 คือ

คุณจะข้ามไปรับงานแบบ 1 ไม่ได้ แต่แบบ 1 สามารถลงมารับงานแบบ 2 ได้ ( แม้ความรู้อาจมีไม่มากหรือไม่เท่ากับแบบ 2 โดยตรง

แต่ก็สามารถใช้กราฟฟิคกลบเกลื่อน บดบังในส่วนที่ตัวเองอ่อนก็ได้ )..ขึ้นอยู่กับลูกค้าเป็นผู้เลือก

...อยากบอกคุณ kai35 ว่า ..ไม่ว่าตลาดจะเป็นอย่างไร ( มันก็เป็นของมันแบบนี้แหละ อีก 100 ปีก็ยังอยู่ ).. สิ่งสำคัญที่สุดคืออยู่ที่ตัวคุณ..

คุณจะเลือกอยู่ในตลาดแบบไหน พูดง่ายๆ ก็คือ ดูตลาดในตอนนั้นอะไรกำลังฮิต ก็ปรับตัวให้อยู่ในตลาดนั้นให้ได้ ถ้าจำเป็นต้องมีเทคโนมาช่วยงาน

เหมือนที่คนอื่นมีคุณก็ต้องมี ( เป็นผู้ตามตลาด )..ถามกลับว่า..ทำไมคุณไม่กำหนดตลาดขึ้นมาเองเลยละ คือแบบ 3 ( แบบของคุณ kai 35 เอง )

แบบมีความรู้และแบบมีเทคโนโลยี .เมื่อนั้นคุณจะมาร้องบอก "....ลูกค้าทั้งหลาย กรุณาไปหาเจ้าอื่นทำบ้างเถอะ ผมทำไม่ไหวแล้วคับ....."
























บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
rotcerid ความดี +1 2011-04-23 We r number 3
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
361
เงิน
11859
ความดี
9359
เครดิต
9848
จิตพิสัย
9986
จังหวัด
จันทบุรี

ผมว่าประเด็นมันอยู่ที่มุมมองของลูกค้าที่มาจ้างคุณมากกว่า

ถ้าเค้าถามเรื่องอุปกรณ์ แน่นอนว่าลูกค้าอาจซีเรียสเรื่องนี้(โดยเฉพาะต่างชาติ ส่วนมากจะระบุรุ่นอุปกรณ์กันเลยทีเดียว)
แต่ถ้าเค้าดูผลงานแล้วชอบ ไม่ว่าคุณจะใช้อะไรทำ เค้าก็ไม่มาสนใจหรอกครับ


นึกเอาง่ายๆ หนังบางเรื่องรางวัลเพียบ อุปกรณ์ชั้นเลิศ ทีมงานระดับเทพ
ลูกค้า(หมายถึงคนดู)ไม่ชอบ ไม่มีคนดู งานคุณก็กลายเป็นงานที่ไม่มีคุณภาพแล้วครับ

อย่าลืมว่า งานด้านนี้ ไม่ได้ขึ้นกับเราคนเดียว
ผลสุดท้ายคนที่จะตัดสินว่าดีหรือไม่ดีคือ....ลูกค้า....
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
460
เงิน
8806
ความดี
8911
เครดิต
9316
จิตพิสัย
8973
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 4#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-23
อุปกรณ์ดี ผมว่าก็ทำให้เราตัดปัญหาต่างๆระหว่างการทำงานไปได้มากนะครับ เพียงแต่ "อย่าบ้าอุปกรณ์ จนลืมว่าเราขายเน้ืองาน" เพราะจะได้ไม่ต้องมาแอบคิดในใจว่า "เอ๊ะ! กรูซื้อมาทำไม?" 555+

ด้วยความเคารพ
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
734
เงิน
20336
ความดี
17622
เครดิต
19309
จิตพิสัย
17084
จังหวัด
สงขลา

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 5#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-23
ที่คุณ p0p-itพูด  ผมเข้าใจทุกอย่างและผมก็ทำอยู่แบบนั้น ผมเลยจุดนั้นไปแล้วกลายเป็นสุกๆดิบ ทนได้ทุกสภาวะ ตัวผมไม่มีปัญหาทนได้ทุกอย่าง  แต่ เจนตนารมย์ของผมเพื่อ...ให้คนที่ไม่พร้อมเขาเกิดมีพลังและยืนบนความฝันของเขา และให้ตระหนักถึงความคิดสร้างสรรค์มีมูลค่ามากที่สุดซึ่งอยู่ในตัวเราไม่ใช่ของภายนอก และสร้างเป็นมูลค่าเพื่อนำไปต่อยอดที่ตั้งใจใว้  ไม่ใช่ไม่พร้อมแล้วยอมแพ้แล้วเมื่อไรจะได้ในสิ่งที่ต้องการ
...ทุกสิ่งที่มนุษย์สร้างเกิดจากจินตนาการ...และอะไรละที่ทำให้มันมีมูลค่าเพื่อสนองการตลาด....และมนุษย์ก็เป็นผู้ซื้อ



โพสต์
695
เงิน
13583
ความดี
11808
เครดิต
12362
จิตพิสัย
17399
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 6#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-23
ถ้าในมุมมองของผม
มีฝีมือในการทำงานอย่างเดียวไม่พอ ควรจะต้องมีฝีมือในการสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าได้ด้วย
โดยทำยังไงให้ลูกค้าให้น้ำหนักความมั่นใจไปที่ฝีมือของเรามากกว่าอุปกรณ์
มีวิธีในระยะสั้น ระยะยาวอย่างไร ที่จะทำให้ลูกค้าเพ่งความสนใจไปที่ตัวงานหลังจากเสร็จแล้วมากกว่า
เบื้องต้นก็คงหนีไม่พ้นลูกค้าที่ดูไม่เป็น หรือไม่ก็เห็นเจ้าอื่นโชว์ของเทพมาเยอะ หรืออาจจะถูกบิ้วท์มาให้เชื่อในเรื่องอุปกรณ์เป็นหลัก
ก็คงโน้มน้าวยากหน่อย

และถ้าเป็นลูกค้าที่ตั้งโจทย์ไว้ที่ภาพพจน์ของอุปกรณ์และการทำงานหน้างาน ก็ต้องดูกันอีกแบบ
เพราะบางงานเค้าต้องการเรื่องภาพพจน์เพื่อใหผู้ใหญ่หรือลูกค้าของลูกค้าอีกทีเห็นและมั่นใจ อันนี้ก็ไม่ผิด แต่ติดที่อาจไม่ใช่แนวทางของเรา
แต่เอาเข้าจริงๆถ้าเจอแนวนี้ก็เช่าอุกฃปกรณ์เพิ่มเอาก็ได้ แล้วบวกราคาไป ซึ่งผมมองว่าไม่ผิดที่จะเพิ่มราคางาน เพราะโจทย์ไม่เหมือนกัน
เค้าต้องการภาพลักษณ์ เราก็จัดให้ได้อยู่แล้ว แต่ราคาก็ต้องเพิ่มไปด้วย เพราะความต้องการของลูกค้ามากกว่าตัวงานที่เสร็จแล้วในขั้นสุดท้าย

ถ้าหาที่ยืนได้ถูก และมีกลวิธีที่ดีพอ ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่

แต่ทั้งหมดที่ผมพูดมาเนี่ย ยากสสสสส์ใช่ย่อยอยู่
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
322
เงิน
12785
ความดี
11703
เครดิต
12773
จิตพิสัย
10795
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 7#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-23
ทำงานขึ้นยูทูปก็มีทางออก แต่ได้เงินหรือไม่อีกเรื่อง ทำเอาอะไร
หากคำตอบคือทำเอาเงิน ขายก๊วยเต๊๋ยว ก็ได้เงิน เยอะด้วย

ผมอยากบอกว่าทุกอย่างมีทางออก ไม่ว่าพวกบ้าอุปกรณ์ก็มีทางออก มีกลุ่มของเค้า
พวกทำงานใช้สมองเยอะก็มีทางออก มีกลุ่มของเค้า

คำถามคือเราทำไปทำไม
เราทำเพื่อให้จิตเรากินอารมณ์ใหม่ๆ จากเรื่องเดิมๆ ที่น่าเบื่อ
ทุกอย่างที่ทุกคนทำก็เพื่อจุดนี้

เรากินอารมณ์ใหม่ๆแบบถูกๆ ทำไง เล่มเกมขับรถฟรีๆ ก็เสียวได้
ดูหนังโป้ ก็เสียวได้

เรากินอารมณ์ใหม่ๆ แพงๆ ทำไง หาเงินชื้อ บูกัสตี้มาขับกดให้ถึง 300 กลางกรุง เสียว และอาจตายไปเลย
หากิ๊กมาเอา ก็เสียวได้ อาจติดโรค ติดลูก

เห็นมั้ย ทุกกลุ่มมีทางออก ผมเลือกทางที่สนุกในแบบของผม หากผมทำงาน คิดเงินลูกค้าได้แพง ทั้งที่ผมใช้อุปกรณ์ไม่แพง นั่นหละผมได้กินอารมณ์สะใจ อารมณ์นี้จะทำให้สบายใจ ไปอีกหลายวัน

ไม่ใช่ไม่เคยใช้ของแพง แต่ใช้แล้วทำกำไรช้า ใช้ทำไม ในเมื่อของถูกก็ทำกำไรได้เร็วกว่า
[ แก้ไขล่าสุดโดย puntisak เมื่อ 2011-04-23 15:46 ]
โพสต์
2938
เงิน
58400
ความดี
38732
เครดิต
38299
จิตพิสัย
54804
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 8#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-23
คติดในการทำงานของผม ได้มาจากท่านพุทธทาสครับ

"จงทำงานทุกชนิดด้วยจิตว่าง
ยกผลงานให้ความว่างทุกอย่างสิ้น
กินอาหารของความว่างอย่างพระกิน
ตายเสร็จสิ้นแล้วในตัวแต่หัวที"

โพสต์
1036
เงิน
21774
ความดี
14792
เครดิต
14177
จิตพิสัย
24522
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 9#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-23
ผมว่าประเด็นมันอยู่ที่ มีคนบางจำพวกขึ้นราคาเพราะอุปกรณ์แพง จึงทำให้ลูกค้าติดว่าต้องมองว่าอุปกรณ์ต้องใช้ของแพงจึงจะได้งานที่ดีมากกว่ามองที่ตัวงานจริงๆถูกไหมครับ ประเด็นนี้ผมสนับสนุนนะครับและเห็นด้วยว่าอุปกรณ์แพงมีส่วนช่วยครับ แต่ไม่น่าจะเกี่ยวกับราคาของตัวงาน อันนี้ไม่ได้รวมถึงการถ่ายทำนะผมหมายถึงทางด้านตัดต่ออย่างเดียวครับ

มีน้องคนนึง ใช้พรีเมียตัดไม่มีงาน โทรมาของานรุ่นพี่ พี่ก็เล่ยส่งไปให้( แต่พี่ใช้แมคไฟนัล ) หายไปประมาณ 2 ชม. ลูกค้าโทรมาบอก เขาไม่ตัดแล้วนะ เพราะเครื่องช้ามาก ขนาดแมคมีกราฟฟิคเพียบยังใช้เวลานานมากในการสรรค์ แต่พอมาเจออาฟเตอร์ของพรีเมีย ลูกค้าเดินหนีเลย ..( ถามใครผิด )...( อาจเป็นตัวลูกค้าที่เขาชินกับการทำงานของแมคก็เป็นได้ )

ผมถามในแง่กลับกันครับ เหตุใดผมถึงเคยเจอลูกค้าที่ใช้คนตัดเก่าเป็นคนตัด FCP และทำไมเปลี่ยนมาถึงผมที่ใช้ PPRO ได้ละครับถ้าพูดกันที่ประเด็นนี้ ผมไม่อยากให้มองว่าโปรแกรมนี้ดีกว่าโปรแกรมนั้น ยอมรับครับว่า os mac ดีกว่า แต่ผมว่าสุดท้ายมันอยู่ที่คนตัดคนนั้นมีความสามารถและมีปัญญาจับลูกค้าคนนั้นอยู่รึเปล่าด้วยมากกว่านะครับ ไม่น่าเกี่ยวกับโปรแกรมที่ใช้ครับ

น้องเขาถ่ายภาพนิ่งตกแต่งทำอัลบั้ม ใช้พีซีเครื่องก็ช้า เจอไวรัสก็ทำงานไม่ได้ ต้องยกไปให้
ช่างแก้ กลับมาทำได้หน่อยเจอไวรัสชนิดใหม่อีก ( มาจากคนอื่นเอาภาพมาโหลด ) งานลูกค้าก็ส่งไม่ทันตามกำหนด หลายงานค้างจนตัวเขาก็
คิดไม่ตก เห็นน้องนั่งหน้าเศร้าอยู่คนเดียวเลยเรียกมาคุยถึงรู้ปัญหา บอกน้องต้องซื้อแมคใช้แล้วล่ะ เพราะแมคไม่มีไวรัส และยิ่งตัวน้องผู้หญิง
ไม่มีความรู้เรื่องคอมเลย ทำงานไม่ได้หรอก

ใช่ครับแมคไม่มีไวรัสครับ แต่ก็ทราบกันอยู่ว่ามันแพงครับ ดังนั้นประเด็นนี้ผมถึงมองว่าความผิดไม่ใช่ pc หรือ mac ครับ ประเด็นมันอยู่ที่ตัวน้องผู้หญิงที่ไม่มีความรู้เรื่องคอมเลยมากกว่าครับ ทำงานกับคอมอย่างน้อยก็ควรรู้บ้างถูกไหมครับ อย่างผมถึงจะรู้เรื่องคอมน้อยก็จริงครับแต่ก็ยังรู้ว่าทำอย่างไรให้โอกาสโดนไวรัสน้อยที่สุดครับ

แบบ 2 ( คิดเยอะ )ไม่เน้นเทคโน ไม่เน้นกราฟฟิค ข้อเสียของแบบ 2 คือ
คุณจะข้ามไปรับงานแบบ 1 ไม่ได้ แต่แบบ 1 สามารถลงมารับงานแบบ 2 ได้ ( แม้ความรู้อาจมีไม่มากหรือไม่เท่ากับแบบ 2 โดยตรง
แต่ก็สามารถใช้กราฟฟิคกลบเกลื่อน บดบังในส่วนที่ตัวเองอ่อนก็ได้ )..ขึ้นอยู่กับลูกค้าเป็นผู้เลือก

ข้อนี้ผมเห็นด้วยครับ เพราะผมเป็นแบบที่ 2 ครับ

ผมมองว่าการกำหนดราคาจากตัวอุปกรณ์ไม่ควรเกิดขึ้นครับ(ด้านตัดต่อ) เพราะหากคุณบอกลูกค้าว่าผมแพงเพราะผมใช้ mac นะมันเป้นเหตุผลที่ผมว่ามันไร้สาระมากครับ เพราะคนที่ใช้ pc ตัดก็มีหลายคนที่ทำให้ลูกค้าไม่ไปหาเจ้าอื่นได้ครับแถมราคาตัดก็แพงกว่าคนใช้แมคตัดหลายคนด้วยครับ อยากให้มองหลายๆมุมครับ แต่ถ้าถามว่าควรอัพอุปกรณ์ที่มีเพื่อความรวดเร็วในการทำงานหรือไม่ ผมตอบว่าควรครับเพราะมันเพื่อตัวคุณเอง เพื่อสุขภาพคุณเองด้วย ยกตัวอย่างเช่น ในการ export ไฟล์ HD 1 นาทีเครื่องเก่าผมใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงในขณะที่เครื่องใหม่ผมไม่เกิน 10 นาที ถ้าในแง่นี้ผมมองว่าคุ้มครับ ไม่ต้องเปิดคอมค้าง ได้พรูพงานเร็วขึ้น และได้หลับพักผ่อนเพราะการประมวลผลในการตัดเร็วขึ้น ลากไฟล์หาคลิปไม่หน่วงเท่าเดิมเป็นต้นครับ แต่ผมเคยเห็นคนตัดบางประเภทรับงานตัด HD กับงานตัด SD ไม่เท่ากัน เหตุเพราะเขาบอกว่า HD ตัดยากกว่า จริงเหรอครับ? ผมมองแค่ว่าไฟล์มันหนักกว่าและต่าง format กันแค่นั้นเอง เพียงแต่ลูกค้าไม่รู้น่ะครับ พวกอย่างนี้คงจะถูกระบบกรองด้วยตัวของมันเองล่ะครับ มันเหมือนคนขายข้าวที่ขึ้นราคาของเมื่อสินค้าราคาเพิ่มและไม่ยอมลดลงเมื่อสินค้าราคาถูกลงน่ะครับ แต่ถ้าในสายกล้องคงแยกเป็นประเด็นไปมากกว่ามั้งครับ แต่คงไม่ใช่ขายงานลูกค้าว่า อ๋อราคาผมต้องแพงขึ้นเพราะผมใช้เลนส์แพงมั้งครับ? สุดท้ายนี้ผมยังมองว่าราคามันถูกวัดจากตัวงานครับไม่ใช้ mac หรือ pc / FCP หรือ PPRO ต่อให้ใช้ของดีแต่งานออกมาห่วยลูกค้าก็ไม่เอาครับ
[ แก้ไขล่าสุดโดย job4922 เมื่อ 2011-04-23 15:05 ]
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
361
เงิน
11859
ความดี
9359
เครดิต
9848
จิตพิสัย
9986
จังหวัด
จันทบุรี

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 10#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-23
รับงานตัด HD กับงานตัด SD ไม่เท่ากัน

ผมก็รับไม่เท่ากันครับ ด้วยเหตุผลที่ว่า อุปกรณ์ที่ใช้ต่างกัน
ระยะเวลาการทำงาน HD มากกว่าอยู่แล้ว ยิ่งทำกราฟฟิคด้วยยิ่งนาน
ที่สำคัญ ชัดกว่า อันนี้กลุ่มลูกค้าที่สั่งงานระบบ HD จะเข้าใจอยู่แล้ว
(D ของผมหมายถึง Full HD)ส่งงานก็ต่างกัน SD ส่งไฟล์ ดีวีดี
                                                         HD ส่งแผ่น บลูเรย์
โพสต์
1276
เงิน
25178
ความดี
37915
เครดิต
40757
จิตพิสัย
37283
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 11#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-23
ผมเชื่อว่าทุกอย่างย่อมไหลลื่น แปรผันได้

ความไม่แน่นอนคือความแน่นอน

สายกลางดีที่สุด

เรียนรู้ลูกค้า ว่าเขาต้องการ ภาพลักษณ์ หรือ คุณภาพ หรือทั้ง 2 อย่าง

เราเข้าใจ เราก็จะขายได้แน่ๆ

สบายเลยทีนี้
โพสต์
3280
เงิน
49028
ความดี
67852
เครดิต
78389
จิตพิสัย
62308
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 12#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-23
ก็ต้องเลือกใช้อุปกรณ์ให้พอกับงานก่อนเป็นเบื้องต้น ...
ที่นี้อุปกรณ์มันก็เป็นต้นทุนอย่างนึง ...
มันจึงเป็นตัวแปรที่ส่งผลถึงราคางานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ...
งานแบบนี้ ต้องอุปกรณ์แบบนี้ มันจึงกลายมาเป็นราคาแบบนี้ ...
มันมีมีที่มาที่ไป สัมพันธ์สอดคล้องกันตามเหตุผล ...

ส่วนฝีมือ มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ...
ฝีมือดี แต่อุปกรณ์ไม่ถึงมันก็แย่ ...
ฝีมือดี อุปกรณ์เหมาะสม มันก็ราบรื่น ...
ฝืมือดี อุปกรณ์เวอร์ งานมันก็สวยเวอร์ แต่ต้นทุนมันก็เวอร์ตาม ...

แต่ถ้าอุปกรณ์เวอร์ ฝีมือห่วย ... เสียดายของครับ

บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 2 คะแนน ซ่อน
katang ความดี +1 2011-04-23 เห็นด้วย อย่างแรง.....
motion-a ความดี +1 2011-04-23 ใช่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โพสต์
1036
เงิน
21774
ความดี
14792
เครดิต
14177
จิตพิสัย
24522
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 13#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-23
อ้างอิง
อ้างอิงโพส 10 ต้นฉบับโพสโดย kookkam007 เมื่อ 2011-04-23 16:22  :
รับงานตัด HD กับงานตัด SD ไม่เท่ากัน

ผมก็รับไม่เท่ากันครับ ด้วยเหตุผลที่ว่า อุปกรณ์ที่ใช้ต่างกัน
ระยะเวลาการทำงาน HD มากกว่าอยู่แล้ว ยิ่งทำกราฟฟิคด้วยยิ่งนาน
ที่สำคัญ ชัดกว่า อันนี้กลุ่มลูกค้าที่สั่งงานระบบ HD จะเข้าใจอยู่แล้ว
.......

ถ้างั้นคงแปลกที่ผมและหลายคนที่ผมรู้จักเองล่ะที่รับเท่าเดิมเพราะอุปกรณ์ที่ผมใช้ก็คือคอมพิวเตอร์ที่ตัดงาน SD ด้วยเหมือนกัน พอดีไม่ได้ทำกราฟฟิคน่ะครับ แล้วลูกค้าผมส่วนใหญ่ก็คือลูกค้าที่ถ่าย SD มาก่อนแล้ว ณ ตอนนี้หันมาถ่าย HD ครับแบบนี้คงต้องบอกลูกค้าซะแล้วว่าถ้าฟุตมา SD ราคาเท่านี้ ถ้ามา HD ราคาเท่านี้สินะ แต่สุดท้ายผมยังคิดว่ามันเป็นเรื่องของความพึงพอใจของทั้งสองฝ่ายมากกว่าครับ ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ให้ฟังครับ

ลืมบอกพอดีผมทำพวกงานรายการน่ะครับ ไม่ได้ส่งงานเป็น Blu ray แต่ส่งเป็นไฟล์ลงใน external ครับ แล้วลูกค้ารายการคงไม่เพิ่มเงินให้เพียงเหตุผลที่ว่า ฟุตพี่เป็น HD
[ แก้ไขล่าสุดโดย job4922 เมื่อ 2011-04-23 17:27 ]
โพสต์
3280
เงิน
49028
ความดี
67852
เครดิต
78389
จิตพิสัย
62308
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 14#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-23
ตัวแปรเรื่อง SD / HD กับราคา ... มันมีผลจริงแต่เฉพาะในช่วงแรก ๆ ของการโอนถ่ายเทคโนโลยี เพราะต้องลงอุปกรณ์อะไรใหม่ ๆ ... แต่พออิ่มตัวแล้ว และ เทคโนโลยีลงตัวหมดแล้ว เรื่องของ SD/HD คงน้อยลง จนอาจไม่ใช่ปัจจัยในการคิดราคาอีกต่อไป ...
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
job4922 ความดี +1 2011-04-23 ถูกต้องครับมันเป็นแค่ช่วงแรก
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้