สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 4822เข้าชม
  • 6ตอบกลับ

เจอปันหาคอมพิวเตอร์ บลูสกรีน ช่วยหน่อยครับ

ระดับ : สมาชิก IIII
โพสต์
76
เงิน
1293
ความดี
1436
เครดิต
1338
จิตพิสัย
1888
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
stop: 0x0000004E (0x00000099,0x00001349,0x00000000,0x00000000)
แก้ยังไงใครพอรู้บ้างครับ มันเกิดจากอะไรครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
615
เงิน
2147483647
ความดี
12342
เครดิต
14162
จิตพิสัย
11252
จังหวัด
จันทบุรี
ram ครับ ลองลง windown ใหม่ ดู แต่ถ้าไม่หาย ก็ ดูที่ ram ถ้า แรมแก้ไม่หาย ก็ HDD ครับ
ใน กรณีของ RAM ให้ ลอง ออกมาแล้วเอา ยางลบๆๆๆๆๆๆๆ ถ้ามี แรม 2ตัว หรือ มากกว่า ให้ลองใส่ที่ละตัว ลองดู ว่าตัวไหนเสีย ครับ แต่ถ้ามีตัวเดียวก็ไปหามาลอง ใช้แรม DDR อะไรครับ 2 หรือ 3 เดียวนี้ 2GB DDR 3 700 กว่าแล้วครับ
แล้วถ้ามันยังไม่หาย ไปดูที่ HDD ว่าบางที BAD บางที ก็มึน เพราะ ร้อนๆใช้งานหนัก ในกรณี HDD ให้ลองลง Windown ใหม่ ครับถ้าไม่หาย ก็ลองหา HDD ตัวอืนมาลง windown ครับ หรือไม่ก็ลอง ดู สายต่อ บางทีอาจ (อาจ)โดน ตัวอะไรมากัด ไปนิดๆหน่อยๆ ลองดู
มีอีกอย่าง คือ Mainboord ทำงานผิดพลาด เข้าไป คืนค่าไป ออส 2 ถ้ามันเป็นหนัก ควรให้ช่างที่เก่งจริงดูแล เพราะอาจะต้อง flash boosieใหม่ครับ นี้คือการสันนิษฐาน ครับ ที่กล่าวไว้สามารถแก้ไขด้วยตอนเองได้ ยกเว้น  flash boosie ถ้าพลาด คอมเจ้งทันทีสู้ๆนะครับ
ระดับ : สมาชิก IIII
โพสต์
76
เงิน
1293
ความดี
1436
เครดิต
1338
จิตพิสัย
1888
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
ขอบคุณมากครับ
ตอนนี้ลองเปรียน ช่องใส่แรมดูก่อน ถ้ายังไม่หายก็ จะลอง ลงวินโด้ใหม่ดูขอบคุณมากครับพี่ๆๆ
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
615
เงิน
2147483647
ความดี
12342
เครดิต
14162
จิตพิสัย
11252
จังหวัด
จันทบุรี
ครับ ลองดูครับ เวลาทำ จะใส่แรม ถอดแรม ปิดเครืองให้สนิดด้วยนะครับ
ระดับ : สมาชิก IIII
โพสต์
89
เงิน
1758
ความดี
1526
เครดิต
1434
จิตพิสัย
1434
จังหวัด
เชียงใหม่
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 4#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-04
แรมตัวใดตัวนึงน่าจะเสียครับ เจอมาเหมือนกัน เป็นๆหายโดยไม่รู้สาเหตุ ไปให้ร้านดูถอดแรมตัวที่เสียออก หายสนิทเลย ลองดูครับ
โพสต์
1036
เงิน
21774
ความดี
14792
เครดิต
14177
จิตพิสัย
24522
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 5#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-04
ผมแนะนำให้ใช้โปรแกรม เทสแรม เช่น memtest และเช็คbad ด้วย HD Tune ก่อนครับ จากนั้นหากเช็คแล้วไม่มีปัญหา ให้ลองลงวินโดว์ใหม่ครับแต่ใช้คนละแผ่นกับวินโดว์ที่มีอยุ่ในเครื่องนะ คือการจอฟ้า อันดับแรกมองไปที่วินโดว์ก่อนครับ แต่ลองเทส hardware ก่อนก็ไม่เสียหาย เพียงแต่ว่าเวลาลงวินโดว์ใหม่ให้ใช้คนละแผ่นกับตัวเดิมครับ ประสบการณ์ตรง เช่น ของผมเทส hardware แล้ว ปรากฎว่า แรมเสีย 1 แถว ไปเคลมเสร็จกลับมา จอฟ้าอีกอยู่ดี เลยลองเปลี่ยนแผ่นลงโปรแกรมที่ใช้ (CS5) ผ่านไปสองวัน จอฟ้าอยู่ดี ณ ตอนนี้เลยลองเปลี่ยนแผ่นลงวินโดว์ใหม่ ผ่านมาสี่ห้าวัน ยังไม่ฟ้าเลยครับ ลองดูนะครับ ซึ่งเคยถามช่างแล้ว ช่างซ่อมคอมบอกว่า จอฟ้ามองไปที่วินโดว์ก่อนครับ  
โพสต์
3280
เงิน
49028
ความดี
67852
เครดิต
78389
จิตพิสัย
62308
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 6#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-04
ยาวหน่อยนะ อ่านจบอัพเป็นเซียนกันไปเลย ...

อ้างอิง
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ XP คาดว่าคงจะมีหลายคนที่เคยได้พบเห็นหน้าจอของเครื่องขึ้นเป็นสีฟ้า ซึ่งหน้าจอที่ว่าจะปรากฏเมื่อเครื่องของคุณเกิดปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่ง บางครั้งการแก้ไขโดยการกดปุ่ม Esc หรือปุ่มใดๆ ก็สามารถกลับมายังการทำงานที่ยังค้างอยู่ได้ แต่หากอาการหนักหน่อย ก็คงต้องแก้โดยการรีสตาร์ทเครื่อง (ท่าไม้ตาย Ctrl+Alt+Del) สร้างความเบื่อหน่ายและเข็ดขยาดให้กับคนที่พบกับปัญหานี้

ทางไมโครซอฟท์ได้สร้างหน้าจอสีฟ้าที่เรียกว่า Blue Screen Of Dead (ขอเรียกสั้นๆ ว่า BSOD) เพื่อแจ้งให้ผู้ใช้ทราบถึงสาเหตุของปัญหา หากเราเสียเวลาทำความเข้าใจกับมันสักเล็กน้อย การต้องพบกับ BSOD ในคราวหน้า คุณก็จะสามารถคาดเดาวิธีแก้ไขปัญหาที่จะเกิด และสามารถป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้อีกได้

ส่วนประกอบภายใน Blue Screen Of Dead

ในหนึ่งหน้าจอของ BSOD จะมีการแบ่งรายละเอียดที่แสดงออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน

ส่วนที่ 1

เป็นส่วนที่แสดงหมายเลขข้อผิดพลาดออกมาเป็นเลขฐาน 16 อยู่ที่ด้านบนสุด รองลงมาจะเป็นคำอธิบายเพื่อบอกให้เราทราบว่ามีปัญหาเกิดขึ้น และท้ายสุดก็คือสาเหตุที่เกิดปัญหาโดยแสดงเป็นตัวอักษรที่เราอ่านออกได้ ในที่นี้ก็คือ ไดรเวอร์_IRQL_MOT_LESS_OR_ EQUAL

ส่วนที่ 2

ในส่วนนี้เป็นส่วนที่ให้คำแนะนำสำหรับการแก้ไขปัญหา ซึ่งไม่ว่าปัญหาจะเกิดจากอะไรก็ตาม คุณก็จะเห็นรายละเอียดในส่วนที่สองนี้เหมือนกันทุกครั้งไป วิธีที่ถูกแนะนำให้เป็นการแก้ปัญหาวิธีแรกที่ BSOD แจ้งให้คุณทราบ และเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดก็คือ การรีสตาร์ทเครื่อง

ส่วนที่ 3

หากไดรเวอร์ของฮาร์ดแวร์ภายในเครื่องของคุณมีส่วนที่ทำให้เครื่องมีปัญหาก็จะถูกแสดงให้เห็นในส่วนนี้

ส่วนที่ 4

ส่วนสุดท้ายที่ปรากฏบน BSOD เป็นรายละเอียดของการที่ OS พยายามที่จะบันทึกรายละเอียดที่อยู่ภายใน Memory ขณะที่เกิดปัญหาไปเก็บไว้เป็นไฟล์ที่มีนามสกุล .TMP คุณจะพบเห็นไฟล์พวกนี้ได้ในโฟลเดอร์ WINDOWS

สาเหตุที่ทำให้เกิด Blue Screen Of Dead

สาเหตุที่ทำให้เกิด BSOD ไล่จากเล็กน้อยจนถึงขั้นสาหัสได้ 5 สาเหตุใหญ่ๆ

1. สาเหตุจากโปรแกรม (Software Errors) โปรแกรมบางอย่างที่นำมาติดตั้งบน เครื่องอาจจะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะโปรแกรมจำพวก Spy ware, virus หรือไม่ก็โปรแกรมที่เป็น BETA TEST ที่ให้ ดาวน์โหลดฟรีทั้งหลาย นั่นแหละตัวดี

2. สาเหตุมาจากฮาร์ดแวร์ (Hardware Errors) ฮาร์ดแวร์เป็นปัจจัยที่ทำให้เครื่องเกิดปัญหาได้ หากฮาร์ดแวร์ตัวนั้นไม่สามารถทำงานร่วมกับวินโดวส์ XP ได้อย่างสมบูรณ์

3. สาเหตุจากการติดตั้งโปรแกรม (In- stallation Errors) หากกำลังติดตั้งโปรแกรม เพื่อใช้ดูหนัง แต่เกิดไฟดับก่อนที่จะติดตั้งเสร็จ แถมเครื่องคุณยังไม่ได้ติด UPS ซะด้วย ในการติดตั้งนั้นย่อมมีไฟล์ของโปรแกรมบางส่วนถูกก๊อปปี้ลงบนฮาร์ดดิสก์ของ เราแล้ว ไฟล์เหล่านี้ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เครื่องของคุณเกิดปัญหาได้

4. สาเหตุจากการบูตเครื่อง (Startup Errors) เมื่อกดปุ่ม power เพื่อเปิดเครื่อง ระบบจะมีลำดับขั้นตอนในการ Detect อุปกรณ์สามอย่างก่อนก็คือ การ์ดจอ จากนั้นก็มาที่ แรม แล้วก็ ฮาร์ดดิสก์ ตามลำดับ และโหลดไฟล์จากฮาร์ดดิสก์ไปเก็บไว้ที่แรม หากขั้นตอนใดมีการผิด พลาด ก็จะทำให้เกิด BSOD ได้เช่นกัน

5. สาเหตุที่นอกเหนือจากที่กล่าวมา (Intermittent Errors) เป็นปัญหาที่ยากลำบากที่สุดในการแก้ไข เพราะอาจจะเกิดจากสาเหตุอะไรก็ได้ เช่น ความร้อนของซีพียู หรือปัญหาเกี่ยวกับแรม

ทำยังไงดี เมื่อเกิด Blue Screen Of Dead

ในกรณีที่เกิด BSOD ได้สักพัก แล้วเครื่องรีสตาร์ทโดยอัตโนมัตินั้น เป็นเพราะมีการตั้งค่าในวินโดวส์ XP เราสามารถแก้ไขไม่ให้เครื่องรีสตาร์ทด้วยตัวเองได้โดย

1. คลิกขวาที่ My Computer&gtProper-ties> เลือก ที่ Advance Tab
2. คลิกที่ปุ่ม Settings ในกลุ่ม Startup and Recovery จะปรากฏหน้าต่าง Startup and Recovery ขึ้นมา
3. ในกลุ่มของ System Failure หากที่หัวข้อ Automatically restart ถูกเลือกไว้ ให้คลิก เพื่อนำเครื่องหมายถูกออก
จากหัวข้อนี้ เพียงเท่านี้ เมื่อเกิด BSOD ในครั้งหน้าเครื่อง ของคุณก็จะไม่รีสตาร์ทด้วยตัวเองอีกแล้ว

ทางเลือกในการแก้ปัญหาเมื่อเกิด Blue Screen Of Dead

หากเกิด BSOD และไม่สามารถใช้งานวินโดวส์ในโหมดปกติได้ ให้รีสตาร์ทเครื่อง จากนั้นกด F8 (หากกลัวพลาดกดรีสตาร์ท แล้วให้กด F8 ซ้ำๆ) เครื่องของคุณจะเข้ามาใน Safe Mode ซึ่งเป็นการทำงานในอีกระบบที่วินโดวส์สร้างไว้เผื่อกรณีที่ทำงานในระบบปกติ ไม่ได้

สิ่งแรกที่ควรทำเมื่อเข้ามาใน Safe Mode แล้ว ก็คือ การค้นหาโปรแกรมที่ชื่อแปลกๆ หรือไม่คุ้นเคยซึ่งโปรแกรมเหล่านั้นอาจเป็นโปรแกรมจำพวก Spy ware ให้คุณ Uninstall ออกไป จากนั้นสแกนไวรัสที่อาจอยู่ในเครื่องของคุณ ถ้าโชคดี การทำเพียงแค่นี้จะทำให้สาเหตุของ BSOD ที่เกิดขึ้นถูกแก้ไข และก็สามารถใช้งานวินโดวส์ในการทำงานปกติได้

แต่ถ้ายังมีอาการอยู่ ให้กลับมาที่ Safe Mode อีกครั้ง ไมโครซอฟท์ได้สร้าง Utilities ตัวหนึ่งที่ทำหน้าที่คล้ายๆ กับ Time machine สำหรับการย้อนเวลากลับไปยังจุดที่เครื่องสามารถทำงานได้อย่างไม่มีปัญหาได้

โดยการเลือกที่ Start&gtall program&gtaccessories> system tools&gtsystem restore จะปรากฏหน้าต่าง System Restore ขึ้นมา

ให้เลือกที่ restore my computer to an earlier time และคลิกปุ่ม Next จะปรากฏหน้า ที่เรียกว่า Select a Restore Point เพื่อให้เลือกจุดที่จะย้อนกลับไป วิธีการที่จะ Restore นั้นง่ายมาก เพียงแค่คลิกที่เลือกวันในปฏิทินที่ปรากฏที่หน้าต่างด้านซ้าย โดยวันที่สามารถเลือกได้นั้นจะต้องเป็นตัวอักษรที่มีลักษณะเข้มเท่านั้น จากนั้นตอบ Next ไปเรื่อยๆ เครื่องก็จะรีสตาร์ท และ Restore ระบบให้กับคุณ

ไม่ต้องกลัวนะครับว่าเมื่อ Restore เสร็จแล้ว จะทำให้ไฟล์ใหม่ๆ ที่มีการสร้างขึ้นหลังจากวันที่ที่คุณเลือกในการ Restore หายไป รับรองไฟล์ไม่หายไปไหนแน่นอน มันก็ยังรอคุณอยู่ที่เดิม

การแก้ไขแบบปัญหาแบบเจาะจง

1. ในกรณีที่เกิดจากไดรเวอร์ของฮาร์ดแวร์

หากคุณคาดเดาได้ว่า BSOD ที่เกิดน่าจะมีสาเหตุมาจากไดรเวอร์ของอุปกรณ์ที่คุณติดตั้งเข้าไป การแก้ไขสามารถทำได้สองวิธีก็คือการ Roll Back ไดรเวอร์ก็คือการกลับไปใช้ไดรเวอร์ตัวเก่าของอุปกรณ์ และการยกเลิกการใช้งานอุปกรณ์ตัวนั้นไปเลย

วิธีแรก การ Roll Back

ที่หน้าจอ Desktop ให้คลิกขวาที่ my computer เลือกที่ properties&gthardware
จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Device Manager จะปรากฏหน้าต่าง Device Manager ขึ้นมา
ที่หน้าจอนี้จะแสดงรายละเอียดว่าเครื่องของคุณมีการติดตั้งอุปกรณ์ อะไรบ้าง หากคุณทราบว่าอุปกรณ์ตัวใดที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา ให้คลิกที่เครื่องหมายบวกข้างหน้าประเภทของอุปกรณ์ เครื่องจะแสดงรายการอุปกรณ์ชนิดนั้นออกมา คลิกขวาที่ชื่ออุปกรณ์ตัวนั้น และเลือก properties หน้าต่างที่แสดงรายละเอียดต่างๆ ของอุปกรณ์ตัวนั้นจะปรากฏขึ้นมา ให้คุณเลือกที่แท็บไดรเวอร์

คลิกที่ปุ่ม Roll Back ไดรเวอร์ เพื่อ Roll back หรือกดปุ่ม Uninstall เพื่อลบไฟล์ไดรเวอร์ที่ติดตั้งออกไป คุณควรเริ่มจากการ Roll Back ก่อน แล้วทดลองใช้งาน หากยังมีปัญหาให้ Uninstall แล้วค่อยติดตั้งไดรเวอร์ให้กับฮาร์ดแวร์ตัวนั้นใหม่ (มีอุปกรณ์สองอย่างที่คุณไม่สามารถ Uninstall ไดรเวอร์ได้ ก็คือ Display card กับ mainboard)

วิธีที่สอง การ Disable

เป็นวิธีที่คล้ายๆ กับการฆ่าตัดตอน คือ เลิกการใช้งานอุปกรณ์ตัวนั้นไปเลย คุณสามารถ Disable อุปกรณ์ที่คุณต้องการได้โดยคลิกขวาที่ชื่อของอุปกรณ์บนหน้าจอของ Device Manager จะปรากฏ Context Menu ออกมาเลือกที่ Disable และก็ตอบ OK

2. ในกรณีที่เกิดจากซอฟต์แวร์

เมื่อบูตเครื่องจะมีโปรแกรมบางโปรแกรมที่ทำงานเองโดยอัตโนมัติ นั่นก็อาจเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิด BSOD ได้ เราสามารถตรวจสอบได้ว่ามีโปรแกรมใดบ้างที่มีการทำงานแบบนั้น โดยใช้โปรแกรมที่ชื่อว่า autorun สามารถดาวน์โหลดได้ที่ www.sysinternals.com

โปรแกรมนี้จะแสดงรายละเอียดให้คุณได้ทราบว่าเมื่อเปิดเครื่องแล้วมีโปรแกรม อะไรบ้างที่ทำงานให้โดยอัตโนมัติ หากคุณไม่ต้องการให้โปรแกรมใดทำงานเอง ให้คลิกเครื่องหมายถูกที่อยู่ข้างหน้าโปรแกรมนั้นออก (ระวัง! มีโปรแกรมอยู่สองตัวที่ต้องไม่คลิกออก คือ Userinit.exe และ EXPlorer.exe)

แต่ถ้าคุณไม่มีเวลาและแบนด์วิธเพียงพอสำหรับการ ดาวน์โหลดโปรแกรมข้างต้น วินโดวส์ XP ได้เตรียม Utilities ที่สามารถตรวจสอบได้เช่นกัน โดยเลือกที่ Start&gtRun… และพิมพ์ msconfig กด Enter จะปรากฏหน้าจอ System Configuration Utility เลือกที่ Tab Startup

msconfig จะแสดงโปรแกรมที่มีการทำ งานแบบอัตโนมัติให้คุณทราบ จากนั้นให้คุณเลือกว่าไม่ต้องการให้โปรแกรมใดทำงานแบบอัตโนมัติ โดยคลิกนำเครื่องหมายถูกหน้าโปรแกรมที่ต้องการออก แต่ข้อเสียของการใช้ msconfig คือ ไม่สามารถแสดงรายละเอียด ของโปรแกรมที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหา เช่น โปรแกรมจำพวก Spy ware ที่แอบซ่อนอยู่ได้ เหมือนกับ โปรแกรม Autorun

3. กรณีที่เกิดจากความผิดพลาดของระบบปฏิบัติการ

หากมีความผิดพลาดของไฟล์ที่ใช้งาน เช่น ไฟล์ตระกูล .DLL เกิดหายไป หรือการเปลี่ยนเมนบอร์ด ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ XP จะ Interrupt การทำงาน ในกรณีของความผิดพลาดจากโอเอส คุณจำเป็นต้อง Repair Install ให้กับระบบปฏิบัติการของคุณ โดยมีขั้นตอนดังนี้

1. ให้บูตด้วยแผ่นซีดีที่มีระบบปฏิบัติการ วินโดวส์ XP อยู่ในนั้น และเลือก press enter to set up Windows XP now และกด Enter

2. จากนั้นกด F8 เพื่อข้ามหน้าจอสอบถามรายละเอียด

3. จากนั้นกดตัว R เพื่อสั่งให้เครื่อง Reinstall Windows XP ให้กับเครื่องของคุณ

การทำแบบนี้ข้อมูลที่อยู่ในเครื่องของคุณจะไม่สูญหาย เพราะเป็นเหมือนกับการก๊อปปี้ไฟล์ต่างๆ ของวินโดวส์ XP ในซีดีรอมไปสู่ฮาร์ดดิสก์นั่นเอง

4. กรณีที่เกิดจากฮาร์ดแวร์

ปัญหาที่รุนแรงขึ้นมาเหนือจากปัญหาจากโปรแกรม ก็คือ ปัญหาจากฮาร์ดแวร์ ซึ่งนอกจากจะเสียแรงกับการหาสาเหตุว่าเกิดจากอุปกรณ์ใดแล้ว อาจจะต้องเสียสตางค์ เพื่อซื้ออุปกรณ์ใหม่อีกต่างหาก

หนึ่งในอาการที่บ่งบอกได้ว่าการเกิด BSOD นั้น มีสาเหตุจากฮาร์ดแวร์ก็คือ ขณะเข้าสู่ Safe Mode กลับปรากฏหน้าจอ BSOD ให้เห็นเป็นระยะๆ หรือแม้กระทั่งคุณใช้ System Restore แล้วก็ยังปรากฏ BSOD ให้เห็นอีก

ข้อแนะนำในการแก้ปัญหาที่เกิดจากฮาร์ดแวร์ก็คือ ถอด ครับ หากใช้งานมานานแล้ว แต่ไม่เคยปรากฏ BSOD ให้เห็นเลย แต่จู่ๆ หลังจากติดตั้งอุปกรณ์บางตัวเพิ่มเข้าไปใหม่แล้ว ทำให้คุณต้องมาเจอกับหน้าจอ BSOD แล้วล่ะก็ ผู้ต้องสงสัยรายแรกที่ควรจัดการก็คือ อุปกรณ์ตัวใหม่ ที่ว่านั่น ให้ปิดเครื่อง และถอดออกจากสล็อต แล้วเปิดเครื่องใหม่ หากยังมีหน้าจอ BSOD ปรากฏออกมาอีก คราวนี้ต้องถอดกันเยอะเลยครับ โดยควรให้เหลือ เพียงอุปกรณ์ดังต่อไปนี้ที่ต่ออยู่กับเครื่อง

เมาส์และคีย์บอร์ด
ฮาร์ดดิสก์
ซีดีรอม
การ์ดแสดงผล
แรม

จากนั้นเปิดเครื่อง และทดลองใช้งาน หากไม่ปรากฏหน้าจอ BSOD เลย แสดงว่าหนึ่งในอุปกรณ์ที่ถอดออกนั้น เป็นสาเหตุที่ทำ ให้เกิดความผิดพลาดอย่างแน่นอน จากนั้นเริ่มทดลองกับอุปกรณ์ที่ถอดออก โดยให้ใส่อุปกรณ์ที่ถอดออก และเริ่มใช้งานทีละชิ้น การทำเช่นนี้ทำให้สามารถจำกัดวงของอุปกรณ์ที่น่าจะเป็นสาเหตุปัญหาให้น้อยลง ได้อย่างเป็นระบบ

5. กรณีที่นอกเหนือจากหัวข้อที่กล่าวมา

หากคุณไล่แก้ไขตามขั้นตอนที่แนะนำ มาเรื่อยๆ แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เครื่องของคุณยังมีหน้าจอ BSOD ปรากฏอยู่ เรื่อยๆ รายละเอียดที่ต้องพิจารณาในลำดับต่อไปก็คือ แรม ให้ลองถอดแรมออกจากสล็อต และทำความสะอาด หรืออีกวิธีที่ง่ายๆ ที่จะทำให้ทราบได้ว่าแรมของคุณมีปัญหาหรือไม่ คือ นำแรมจากเครื่องคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งที่ทำงานได้ตามปกติ และต้องเป็นแรมชนิดเดียวกันมาใส่ เปิดเครื่อง จากนั้นทำงาน ตามปกติ หากลองเปลี่ยนแรมแล้วยังไม่หายอีก อุปกรณ์ที่ต้องพิจารณาต่อมาก็คือ ฮาร์ดดิสก์ การเกิด Bad Sector ก็อาจเป็นอีกสาเหตุ และอันดับสุดท้ายก็คือ ซีพียู ปัญหาความร้อนที่มากไปทำให้ เกิด overheat หรือพัดลมไม่หมุนก็เป็นปัจจัยหนึ่งของการเกิด BSOD ได้

ถึงแม้ระบบปฏิบัติการคู่แข่งอย่างลีนุกซ์ได้รับความนิยมขนาดไหนก็ตาม แต่ในองค์กรขนาดใหญ่ ก็ยังเทความเชื่อมั่นให้กับฝ่ายไมโครซอฟท์อยู่ดี เพราะว่าก่อนที่จะปล่อยผลิตภัณฑ์ออกมาให้เราเสียเงินกัน ต้องผ่านการทดสอบนับพันนับหมื่นครั้ง ถึงอย่างนั้นก็ยังมิวายมีปัญหาเกิดขึ้น คิดว่าไม่มีใครอยากให้เกิดปัญหา แต่เมื่อเกิดแล้วก็ต้องหาทางแก้ไข แต่ก่อนจะแก้ไข เสียเวลาศึกษารายละเอียดของปัญหาซักนิดจะเป็นไร เพื่อจะได้แก้ไขได้อย่างถูกจุด… คุณว่าจริงไหม...


อ้างอิง
ปัญหา Blue Screen นั้นส่วนมากนั้นจะเกิดจากการผิดพลาดของดีไวซ์ไดรเวอร์ หรือการทำงานผิดพลาดอันเนื่องจากมาจากไวรัส เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา Blue Screen ควรหมั่นแบ็กอัพค่าคอนฟิกและค่ารีจิสทรีของวินโดวส์อยู่เสมอ เครื่องมือที่ดีที่สุดก็คือ System Restore ดังนั้นถ้าคุณไม่แน่ใจเรื่องของระบบก่อนลงโปรแกรมหรือไดรเวอร์ใดๆ ก็ตามให้คุณสั่ง System Restore เสียก่อน เผื่อว่าเกิดปัญหา Blue Screen คุณยังสามารถเข้าเซฟโหมดแล้วสั่งให้โรลแบ็กระบบกลับมาได้
หรือในกรณีสุดท้ายที่หนักสุดคือ เกิดจากความผิดพลาดของฮาร์ดแวร์ เช่น แรมเสื่อมสภาพ เพาเวอร์ซัพพลายหมดอายุ ฯลฯ ซึ่งอันนี้คงต้องอาศัยการเปลี่ยนอุปกรณ์เพียงอย่างเดียว แนะนำว่าควรลองถอดเปลี่ยนอุปกรณ์ต้องสงสัยกับเครื่องข้างเคียงก่อน เพื่อสืบหาต้นตอของปัญหาที่แท้จริงครับ


ที่มา : http://www.bcoms.net/webboard/detail.asp?id=16004
เพิ่มเติม : http://www.bcoms.net/bluescreen/index.asp

ตามหาชุดโปรแกรมสามัญประจำบ้านที่ชื่อ Hiren's Boot CD มาติดตัวไว้ ช่วยได้ดีนักแล ...
[ แก้ไขล่าสุดโดย vfspostwork เมื่อ 2011-05-04 16:02 ]
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้