สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 5815เข้าชม
  • 23ตอบกลับ

Raid กับงาน ตัดต่อ วีดีโอ

ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
394
เงิน
7818
ความดี
8913
เครดิต
9171
จิตพิสัย
9646
จังหวัด
นครนายก
สวัสดีเพื่อนๆพี่ๆชาวThaiDFilmทุกคนนะครับ (กระทู้สืบเนื่องจากคุณ Kiss3845)

      วันนี้มีเรื่องจะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับ Raid (อ่านว่า เรด หรือ ไรด์ เนี่ยหล่ะ)  

             เรื่องมันมีอยู่ว่าผมอยากรู้ว่าเราจะทำยังไงที่จะได้คอมที่ตัดต่อแบบลื่นไหลที่สุดก็เลยไปลองหาข้อมูลพบจากกระทู้ของพี่ ake
พี่เค้าเขียนไว้ดีมาก กระทู้ชื่อ Work Flow ของ DSLR สรุปได้ดังนี้ ว่า  สิ่งที่ต้องมีคือ คอมแรง การจัดการไฟล์ที่ดี แต่ว่ามานั่งคิดดูเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป(ไม่ใช่ว่าพี่เค้าเขียนไม่ครบนะ)
พอลองไล่ๆดูบวกกับลองไปหาข้อมูลที่นั่นที่นี่ ก็มาโป๊ะเช๊ เราให้ความสนใจกับทุกๆอย่าง ความเร็ว CPU อัด Ram มหาศาล Main Board เจ๋งโคตร แล้ว Harddisk เราหล่ะ เออหว่ะ
พอนึกได้ก็กลับมาลองหา ไอ้ที่เค้าว่า Harddisk ดีๆ นี่มันดีตรงไหนวะ หาไปหามา
                          
                       " ได้ความดังนี้ "

                               1. ฮาร์ดดิสต้องมีรอบในการหมุนสูงเพราะจะส่งผลต่อความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล เท่าที่เห็นก็มี 5400 7200 10000 ซึ่งหากมีโอกาศเลือกก็ควรเลือกให้สูงๆไว้ก่อน

                               2. ฮาร์ดดิสต้องมี ค่า Cach เยอะ แล้วเยอะไปเพื่อ... ก็เพื่อเวลา ลงหนัง ลงเพลงก๊อปไฟล์ หรือเปิดโปรแกรม มันจะได้เร็วขึ้นไงครับ แต่ถ้ามันน้อยก็ไม่เป็นไร
                                  เพราะเมื่อมันทำงานช้าตัวที่จะเข้ามารับภาระแทนก็คือแรมครับ เวลาเลือกดูฮาร์ดดิส จะมีเขียนไว้  8MB 16MB 32MB 64MB อะไรทำนองนี้ ท่านก็ลองเลือกดู

                               3.ฮาร์ดดิสน่าจะใช้เป็นแบบ SATA 3 อันนี้สำคัญ ร้านค้าชอบบอก SATA 3Gbps  จริงๆแล้ว SATA 3 คือ  6 Gbps ไอ้ ที่ว่า SATA 3(Gbps) หน่ะมันคือ SATA 2
                                  อย่าไปโดนเค้าหลอกหล่ะพอค้าก็หัวดีจริงๆ

          ทีนี้หลายๆคนอาจจะถามว่า เฮ้ย ไปดูมาละแม่งก็ 7200 รอบ 32 MB แถมยัง SATA 3 อีก ไม่เห็นจะเร็วเลย เอาละซิ อุส่าเสียเวลาอ่านกระทู้แม่งตั้งนานนึกว่าจะมีทางออกให้ตู (เพราะตูก็เป็นมาก่อน555) เอ่อทำไปทำมาผมก็ไปหาต่ออีกว่า เฮ้ยกูทำตามที่ว่าไอ้ฮาร์ดดิสดีๆเนี่ยเรียบร้อยแล้วนะทำไมแม่งไม่เร็วเลยฟะ เอ้าไปหาต่อ หาไปหามา ก็มาพบ SSD (Solid State Drives)
(มันคือฮาร์ดดิสที่อ่านเขียนข้อมูลเร็วมากๆเหมาะสำหรับงานVDO/Retouch) ฮาร์ดดิสแบบที่ทำงานโดยไม่มีจานแม่เหล็กไง ( เอ้า แม่งก็แฟลชไดร์ดีๆนี่เอง ) เออหว่ะ น่าสนใจแต่ทำไมตูไม่เห็นใครแม่งจาพูดถึงซักเท่าไหร่(หรือตูพึ่งจะฉลาด) เอาวะ เดี๊ยวพรุ่งนี้ตูจะไปถอยมาให้รู้แล้วรู้รอด ทำไมนะหรอก็เพราะว่า SSD ทำการอ่านเขียนข้อมูลได้เร็วกว่า ฮาร์ดดิสทั่วๆไปหลายขุมเลย พออ่านๆไปได้ซักพัก หาเรื่องราคาละ  แม่เจ้า (จริงๆอุทานว่าบิดาคุณสิ้นเหอะ) เพราะว่าราคามันมหาโหดมากเอื้อมไม่ถึง
แค่ 120 GB ก็ซัดไปหลักหมื่น เป็น เทร่านี่กดเป็นแสน  เลยคิดว่า เฮ่อ หมดหนทางหมดสิ้นปัญญาแล้ว ก็เลยล้มเลิกความคิด หยุดหาข้อมูลต่อ ผ่านไป สามวัน เอาฮาร์ดดิสมาต่อเพิ่มแล้วมันต้องฟอแมตก่อนเพราะเป็นแม็คจะเอาไปใช้กับวินโดวไม่ได้ เลยเข้าไปที่ Disk Utility ไปพบกับคำคำนึงที่เคยเห็นมานานละแต่ไม่สนใจ คำนั้นก็คือ Raid เออ เหมือนมีอะไรมากระตุ้นให้อยากรู้้นึกยังไงก็ไม่รู้เลยรีบ
เอาไปถามอากู๋(กูเกิ้ล)ได้ความดังนี้

            เจ้า Raid มันคือ

                       RAID (Redundant Array of Inexpensive Disk) คือการนำเอา Harddisk ตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไปมาทำงานร่วมกันเสมือนเป็น harddisk ตัวเดียวที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น หรือมีโอกาสที่จะสูญเสียข้อมูลน้อยลงในกรณีที่เกิดความผิดพลาดของ hardware (fault tolerance) กลุ่มของ harddisk ที่เอามาทำงานร่วมกันในเทคโนโลยี RAID จะถูกเรียกว่า disk array โดยระบบปฏิบัติการและ software จะเห็น harddisk ทั้งหมดเป็นตัวเดียว ซึ่งการทำ RAID นี้นอกจากจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการเก็บรักษาข้อมูลแล้ว ยังเป็นการประหยัดอีกด้วย เพราะว่ายิ่ง harddisk มีความจุมากเท่าไหร่ ราคาของมันก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น ดังนั้น สำหรับงาน ที่จำเป็นต้องใช้พื้นที่ในการเก็บข้อมูลมากๆ อย่าง Database Server ถ้าเราเลือกใช้ harddisk ความจุมากๆ เพียงตัวเดียว ในการเก็บข้อมูลหรือที่เรียกกันว่าเป็นการใช้ harddisk แบบ SLED หรือ Single Large Expensive Disk ราคาที่เราเสียไปกับ harddisk ตัวเดียวนั้น อาจจะไม่คุ้มค่าเท่ากับการใช้ harddisk ที่มีความจุต่ำกว่า (ซึ่งแน่นอนว่าราคาต้องถูกกว่าหลายเท่าด้วย) นำมาต่อเพื่อให้ทำงานร่วมกันหรือที่เรียกกันว่าเป็นการใช้ harddisk แบบ RAID

หน้าตามันจะเป็นประมาณนี้

        

   สรุปเลยแล้วกัน

               ไอ้ที่เอามาให้ดูก็คือ เราสามารถนำเอาฮาร์ดดิสตั้งแต่สองลูกขึ้นไปมาเชื่อต่อกันให้เป็นไดรฟ์เดียว อ้าวแล้วมันดียังไงก็ได้แค่พื้นที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่หรอ ใช่ครับได้พื้นที่เพิ่มขึ้น แต่ไม่ใช่แค่นั้นครับ
เรายังได้หัวอ่านเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย ดียังไงก็นึกถึงเวลาลอกการบ้านส่งอาจารย์แล้วกันครับ(ผมทำประจำ)เวลาเราลอกคนเดียวกับให้เพื่อนช่วยลอกอะไรเร็วกว่า นั้นหล่ะครับคือประเด็น หมายความว่ายิ่งเราเอาฮาร์ดดิสมาต่อ เพิ่มก็ยิ่งได้หัวอ่านเพิ่ม ฮาร์ดดิสเราก็ทำงานเร็วขึ้น แต่ที่พูดถึงนี่คือ Raid 0 นะครับ มันมีอีกเยอะ Raid 1 0 3 5 อีกเยอะไปหมด แต่ที่พูดถึงนี่คือ Raid 0 เพราะเหมาะกับวงการ
เราครับ 
                           ข้อดีของ Raid 0 ก็คือ  เร็วครับ
                           ข้อเสียของ Raid 0  ก็คือ หากมีไฟล์ข้อมูลของลูกไหนเสียเราก็จะเสียข้อมูลทั้งหมดเลยครับ

           ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้ความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูล(ตัดต่อวีดีโอ)มากกว่าที่จะนำไปเก็บสำรองข้อมูล ครับผม

อันที่จริงมีรายละเอียดอีกมากมายลองไปถามอากู๋ดูนะครับเจออะไรดีๆก็มาแบ่งปันที่นี่หล่ะครับ  ใครรู้แล้วก็ดูผ่านๆผิดพลาดยังไงก็ทักท้วงด้วยคับ  ใครมือใหม่ก็อ่านเก็บๆไว้คับเผื่อวันนึงได้ใช้
สังคมที่นีน่าอยู่อบอุ่นมากคับผมรัก ThaiDFilm มากผมเรียนฟิล์มเรียนหนัง ก็เอาความรู้จากที่นี่ไปใช้ได้เยอะขอบคุณทุกๆคนที่ตามอ่านครับ  


dew
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
234
เงิน
6040
ความดี
6369
เครดิต
5684
จิตพิสัย
5038
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
ผมใช้ raid มาได้ 12 - 13 ปีแล้ว เร็วคุดไอพ่นเลยครับ ขนาดแค่ raid 1 นะครับ ( ถ้า raid 0 จะเร็วมากกว่านี้ )
โพสต์
1099
เงิน
24442
ความดี
20956
เครดิต
21442
จิตพิสัย
21252
จังหวัด
ขอนแก่น

ผมเคยใช้ ฮาร์ดดิสก์ Raid อยู่หนหนึ่งหลายปีแล้วตัดงาน แล้ว Raid หลุด เรียบร้อยเลยครับ
ยังโชคดีกู้ข้อมูลคืนมาได้ เลยไม่ได้ใช้อีกเลย
โพสต์
1036
เงิน
21774
ความดี
14792
เครดิต
14177
จิตพิสัย
24522
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

นั่งอ่านแล้วนั่งคิด เพราะส่วนตัวไม่ได้มีความรู้เรื่องนี้เลยมาศึกษาหาข้อมูล

ข้อเสียของ Raid 0  ก็คือ หากมีไฟล์ข้อมูลของลูกไหนเสียเราก็จะเสียข้อมูลทั้งหมดเลยครับ

ผมว่าข้อนี้ล่ะที่น่ากลัวสุด คิดยังไงก็ไม่น่าเสี่ยงแฮะ
โพสต์
2938
เงิน
58400
ความดี
38732
เครดิต
38299
จิตพิสัย
54804
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 4#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-15
เอ่อ หายหมด ก็ตัวใครตัวมันละครับพี่น้อง แค่ฟุตเทจหายไปสักคลิปนึง หรือเฟรมสำคัญๆ ยับไปสักเฟรมนึง ก็แย่แล้วครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
247
เงิน
6965
ความดี
5192
เครดิต
5302
จิตพิสัย
6749
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 5#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-15
,กระทู้ดีมีประโยชน์ครับ เล้าเรื่องสนุกดีครับผมชอบๆ ฮ่าๆอ่านครบเลย
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
284
เงิน
5753
ความดี
5695
เครดิต
6638
จิตพิสัย
6039
จังหวัด
เชียงใหม่

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 6#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-15
ที่เมื่อก่อนนิยมใช้เพราะ เมื่อก่อนความเร็วของฮาร์ดดิสมันต่ำ (เว้นพวกสกั๊ตซี่ แต่แพงโคตรๆ)

และยังไม่มีความจะสูงๆออกมา จึงต้องวัดใจกับความเสี่ยง

แต่ผมไม่เสี่ยงใช้เรด หายทีเจ๊งหมดทั้งงาน

เคยมาแล้ว ดีที่ยังมีเทปต้นฉบับอยู่ มานั่งตัดใหม่ได้

แนะนำว่าหาฮาร์ดดิสความจุสูง ซัก 1-2 TB สำหรับเก็บโปรเจคงานตัดโดยเฉพาะ

แยกต่างหากกับไดรฟ์ OS และ ไดรฟ์ที่เก็บข้อมูลอื่นๆ จะดีกว่า

ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
394
เงิน
7818
ความดี
8913
เครดิต
9171
จิตพิสัย
9646
จังหวัด
นครนายก
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 7#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-15
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านครับ โหพึงรู้ว่ามีมาเป็นสิบปี แฮ่ๆ ผมไปอยู่ไหนมาหว่า 555555
โพสต์
420
เงิน
10004
ความดี
8399
เครดิต
7587
จิตพิสัย
6783
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 8#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-15
เขาถึงมีระบบการตัด Proxy แบบ  Off-Line เพื่อการนี้แหละครับไม่จำเป็นต้องไปตัดไฟล์ใหญ่ให้เปลืองทรัพยากร ถ่ายอะไรมาก็ตัดได้หมด
โน้ตบุ๊คตัวเดียวก็ตัดได้แล้วครับ เราไม่จำเป็นต้องตัดไฟล์ใหญ่ขนาดนั้น สุดท้ายแล้วตอนทำสีค่อยไป Conform กลับมาไฟล์ต้นฉบับในตอนทำ Online น่าจะดีกว่าครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
394
เงิน
7818
ความดี
8913
เครดิต
9171
จิตพิสัย
9646
จังหวัด
นครนายก
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 9#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-15
ตอบกลับโพส 8 โพสของ (jobfilm)
อันนี้โดนมากเลยครับ พอจะให้ข้อมูลการตัดต่อโดยใช้ Proxy ได้ไหมครับ ผมใช้ imac อยู่มันสามารถทำได้ใช่ไหมครับแล้วทำยังไงครับ
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
734
เงิน
20336
ความดี
17622
เครดิต
19309
จิตพิสัย
17084
จังหวัด
สงขลา

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 10#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-15
เทคนิคแบบนี้เป็นการตัดแบบถอดวิญญานไฟล์ตัด .......วิญญานไฟล์สามารถแสดงผลเพียงหน้าจอเท่านั้น ตอนเอาท์พุทต้องเรนเดอร์อีกครั้งจะเสียเวลานิดเดียวตอนเรนเดอร์ ตอนตัดเราก็เห็นแค่วิณญาณไฟล์แค่นั้นและต้องไปรวมร่างตอนหลังเสร็จงาน....... โปรแกรม 3Dและอิลาสชั่นใช้มาก่อน
เพราะเทคโนโลยี่ทะลุเหนือความเร็วไปแล้วมันอยู่ที่ขั้นตอนจะทำใช้ยังงัยใช้มันให้เต็มศักยภาพเท่านั้น.........ยังมีเทคติกง่ายๆราคาถูกให้เร็วเหมือนเรดแต่เปลืองไฟหน่อยค่อยมาแนะนำแบบบ้านๆ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
361
เงิน
11859
ความดี
9359
เครดิต
9848
จิตพิสัย
9986
จังหวัด
จันทบุรี

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 11#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-15
Raid ไม่ติดชีวิตเปลี่ยน
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
394
เงิน
7818
ความดี
8913
เครดิต
9171
จิตพิสัย
9646
จังหวัด
นครนายก
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 12#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-15
ตอบกลับโพส 10 โพสของ (kai35)
รอคำแนะนำอยู่ค้าบผม ขอบคุณมากๆเลยคับ
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
734
เงิน
20336
ความดี
17622
เครดิต
19309
จิตพิสัย
17084
จังหวัด
สงขลา

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 13#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-15
แบบนี้คงจะพอแล้วนะครับ 7ลูก ลูกละ 500G+250G บ้านๆเครื่องก็โปราณ cpu ก็เชยล้าสมัย แต่ก็ทำงานได้ FullHd ramใส่ไป 6มันเห็นแค่นี้แหละกราด์จอก็สเปคตำ่ๆ


[ แก้ไขล่าสุดโดย kai35 เมื่อ 2011-05-15 11:35 ]
  • รูปภาพ:Picture 5.jpg
  • รูปภาพ:Picture 4.jpg
  • รูปภาพ:Picture 5.jpg
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
734
เงิน
20336
ความดี
17622
เครดิต
19309
จิตพิสัย
17084
จังหวัด
สงขลา

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 14#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-15
อีกอย่างลืมบอก เมื่อก่อนใช้ EXFireWire ตอนนี้ทอดทิ้งใช้ USBหมดแล้ว เทคโนโลยี่เลยจุดความเร็วไปแล้วเกือบเท่ากันหมดแล้วปกปิดไม่ได้ช้าเดี่ยวขายไม่ออกเอาราคาถูกแต่จะนวนมากดีกว่าและเพิ่มตลาดล่างได้ด้วยของเลยถูกมาก
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้