สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 18535เข้าชม
  • 11ตอบกลับ

น้องใหม่อยากเป็นโปรดิวเซอร์ ง่ายนิดเดียว (เราขอคุณ 2 ข้อ )..

โพสต์
787
เงิน
5355
ความดี
14867
เครดิต
11447
จิตพิสัย
37005
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

..หวัดดีคับ..ช่วงนี้พอมีเวลาว่างแล้ว ก็เลยเขียนมาให้น้องใหม่ได้อ่าน เห็นมีต้องการรับสมัครโปรดิวเซอร์มาบ้างแล้ว ก็เลยคิดว่าได้เวลานำเสนอ..
บอกก่อนเลยนะคับว่า บทความชิ้นนี้นำเสนอให้น้องใหม่ได้อ่าน ( สำหรับพี่คนเก่งอ่านแล้วอาจไม่สบอารมณ์ก็อย่าว่ากันนะ  ) ก็ขออภัยมาก่อน ณ ที่นี้เลย .. 
เป็นห่วงน้องใหม่ที่อยากเข้ามาทำงานจะได้ไม่สับสน เพราะมีไปสมัครตำแหน่งอื่นแล้วพี่เจ้าของบริษัทใจดีให้ทำหน้าที่นี้ ( ด้วยเหตุนี้แหละ จึงจำต้องเขียน ) ..
...มาทำความเข้าใจอันดับแรกก่อนว่า โปรดิวเซอร์คืออะไร ( ไปหาอ่านความรู้หลักของพี่ก่อน ) ถ้าอ่านแล้วยังไม่เข้าใจอีก ก็ขอบอกแบบบ้านๆว่า 
จริงๆแล้วตำแหน่งโปรดิวเซอร์ก็คือตำแหน่งประสานงานนั่นเอง หรือ เป็นตัวแทนของเจ้าของงาน ( คนเขียนบท , เจ้าของบริษัท )ที่จ้างมาทำแทนตัวเขา
 คอยตรวจดูทุกขั้นตอนการทำงานต่างๆให้เป็นไปตามแผนงานที่ได้วางไว้ ( ไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง ) ตั้งแต่ต้นจนจบ 
...สมมตินะคับ เจ้าของบริษัท ต้องการทำสารคดีธรรมะ 5 นาที แนวปรัชญาเน้นภาพสวยใส ไม่เครียดสำหรับผู้ชมวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ แต่เนื่องจากเจ้าของบริษัทฯมี
งานที่ต้องดูแลมากมายก็เลยเรียกโปรดิวเซอร์มาพูดคุยถึงรูปแบบรายการ ถ้าเจ้าของงานมีความรู้ในขั้นตอนต่างๆเป็นอย่างดี โปรดิวเซอร์ก็เพียงแต่คอยจดและจำ
พยายามทำงานตามขั้นตอนที่เจ้าของบอกมา มีปัญหาอะไรก็โทรคุยปรึกษางานไปเรื่อยๆ เมื่อเสร็จงานก็นำส่งเจ้าของงาน เพียงแค่นี้ก็เสร็จงาน ปิดจ๊อบแล้ว
กรณีแรกง่ายคับ เพราะเหมือนทำตามคำสั่งอย่างเดียว แต่กรณีที่มีปัญหาก็คือเจ้าของงานไม่มีความรู้เลย หรือมีความรู้นิดเดียวและไม่อยากเสี่ยงกับงานที่เสีย
ก็เรียกโปรดิวเซอร์มาพูดคุยถึงแนวทาง รูปแบบที่เขาอยากทำ แต่ไม่รู้วิธีในการสร้างสรรค์ อันนี้แหละคับ โปรดิวเซอร์ต้องออกโรงเป็นพระเอกตั้งแต่ต้นจนจบ
เริ่มตั้งแต่ต้องหาทีมงานตากล้องถ่ายทำ พิธีกรพูดบทแนวปรัชญาได้น่าฟัง สถานที่สวยเหมือนฝัน ถ่ายเสร็จเข้าตัดต่อ หาทีมงานทำเอฟเฟคให้ภาพออกมาดูสวยใส
ตามที่เจ้าของบอกคอนเซปมา รวมถึงลงเพลงประกอบ เสร็จส่งงานปิดจ๊อบเหมือนกัน กรณี 2 ค่าตัวโปรดิวเซอร์อาจแพงกว่าแบบแรก เพราะมีความรู้และประสบการณ์
มากพอที่จะควบคุม ขั้นตอนต่างๆให้กลมกลืน น่าดู ได้อารมณ์ตามที่เจ้าของงานพอใจ ...
...เมื่อเข้าใจถึงความรับผิดชอบของโปรดิวเซอร์แล้ว ทีนี้มาถึงตัวน้องใหม่ล่ะคับ ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง.(  มี 2 ข้อเท่านั้น ก็ทำงานได้เลย )
....... สำคัญอันดับแรกถามตัวคุณเองก่อนว่า  มีเงินเก็บไว้สักก้อนหนึ่งไหม ไม่มากไม่น้อย ( ถ้าไม่มีก็รีบๆเก็บซะตอนนี้ )
         และสำคัญอันดับสอง คือ พร้อมเป็นหนี้ได้ทุกเวลา......ถ้ามีคุณสมบัติครบสองข้อขั้นต้น ..เรารีบให้คุณมาทำหน้าที่โปรดิวเซอร์เลย ( รีบมาสมัครรับไม่อั้น ) 
 เหตุที่บอกว่าสำคัญก็เพราะ เมื่อคุณมีหน้าที่ประสานงาน คุณคือ คนเดียวที่รู้จักเจ้าของงาน และคุยกับเจ้าของงาน คนอื่นเขาไม่รู้ไม่เห็น หรือได้ยินอะไรที่คุณพูดคุยกัน
 เมื่อคุณรู้คนเดียวเข้าใจคนเดียวแล้วมานั่งสั่งงานคนอื่นที่เกี่ยวข้อง  เขาก็ทำตามที่คุณสั่งโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่เหมือนกันจนจบ ..สุดท้าย โปรดิวเซอร์นำส่งปิดจ๊อบ
 เจ้าของงานมาเห็นโวยวายแหลก บอกเขาไม่ได้สั่งให้คุณทำแบบนี้ คุณทำมาผิดคอนเซ็ปที่เขาบอกไป  ( คือคนละทิศละทาง ) ..เอาล่ะซิคับ ทีนี้ล่ะ...ใครถูกใครผิด
 ...ใครโกงใคร... มีพระเจ้าเท่านั้นที่รู้  ( เพราะคุณคุยอยู่กัน 2 คน ) บอกเลยงานเข้าคับ... เมื่อเจ้าของงานไม่รับงานที่คุณนำส่ง นั่นก็คือ เขาไม่ยอมจ่ายค่าจ้างให้คุณ..
.... นั่นหมายถึงอะไร ...คุณต้องออกค่าใข้จ่ายทุกขั้นตอนการทำงานเองตั้งแต่ต้นจนจบ.... 
     เป็นงายคับ ตำแหน่งโปรดิวเซอร์ง่ายจะตายใครว่ายาก ...ตัวอย่างที่ยกมาให้อ่านเป็นเพียงทฤษฏี  ที่เขาว่าไว้แบบนั้น แต่ในทางปฏิบัติมีทางแก้คับ ใจเย็นๆ
 อ่านความสามารถพิเศษเพิ่มเติมอีกนิดไม่เยอะแล้ว..อย่าเพิ่งไปไหน ( ข้อร้อง please..).... แหมหายากคับ ..ที่มีเงินเก็บแล้วพร้อมเป็นหนี้  ต้องหลอกล่อไว้ ..
.....เมื่อเป็นโปรดิวเซอร์น้องใหม่แล้ว แต่อยากเพิ่มเป็นมืออาชีพ คณต้องมีความสามารถพิเศษ ที่สามารถทำ 2 อย่างพร้อมกันได้ จำเป็นมาก..อยากเป็นโปรดิวเซอร์ต้องฝึก  ..
 ....อ่านแล้วอยากให้ลองฝึกทำตาม สมมติตามเหตุการณ์ที่เราเจอ ณ ตอนนั้น ..
1.  หน้าคิ้วขมวด ปากพยักหน้าเข้าใจ ( จับประเด็นเก่ง ) สมมติเจ้าของงานกำลังแต่งงานบอกอยากได้ MV แบบ 1 โมเมนติก แต่พออธิบาย กลับมีล็อคคอเสยเข่าตีศอก
      กลายเป็นแบบ 2 หน้าที่คุณคือต้องจับหัวท้ายของ( แบบ1 และ แบบ 2 ) มาชนติดกัน และสรุปให้เจ้าของงานฟังอีกครั้งว่า ที่เราเข้าใจคือแบบที่ 3 แนวบู๊ผสมซาดิสต์..ใช่ป่าว 
     เจ้าของงานฟังโอเคบอก ใช่ๆๆ แต่ขอแบบแรงสุดๆเลยนะ โปรดิวเซอร์น้องใหม่ หน้าคิ้วขมวด ปากพยักหน้าเข้าใจ พร้อมสั่งทีมงานว่า ลูกค้าต้องการ "แนวชีวิตบัดซบ "
    .. เลยไม่รู้ว่า ไอ้ที่เขาพูดเราฟังไม่เข้าใจ หรือ...เราพูดแล้วเขาไม่เข้าใจเอง..( ชักอยากรู้แล้วว่า โปรดิวเซอร์น้องใหม่คนนี้ตอนจบจะเป็นยังไง ติดตามนะคับ )
2 . มือกำหมัดหน้ายิ้มระรื่น ( มีความอดทนสูง ) อาการแบบนี้จะเกิดตอนทำงาน เมื่อเราได้โจทย์มาจากเจ้าของงาน และสั่งงานไปยังแผนกที่เกี่ยวข้องแต่
       ไม่มีใครทำตาม บอกไม่ดีบ้าง เชยบ้าง ทำแบบผมซิดีกว่าเร็วกว่าจ๊าบกว่า จะโมโหก็ไม่ได้กลัวคุมอารมณ์ไม่อยู่งานจะเสีย จำต้องใจเย็นอธิบายไปยิ้มไป
      แต่อารมณ์ภายในโกรธเต็มที่ จ้างมาให้ทำงานไม่ใช่มาเป็นเจ้านาย  แต่เพื่องาน ยิ้มไว้ก่อนจบแล้วค่อยคิดบัญชี อดทนๆๆ..ให้ถึงที่สุด
3.   ตาโตกลอกไปมา พร้อมทำปากจู๋ ส่งเสียงจุ๊ๆๆ ( รับผิดในงานที่ตัวเองไม่ได้ทำ ) นึกภาพที่ตัวเองยืนอยู่ในทีมงาน จู่ๆมีลูกค้าเดินเข้ามานิ้วชี้กระทืบเท้าด่าฉอดๆๆ คุณคงยืนงง
     แล้วก็ทำอาการ  ตาโตกลอกไปมา พร้อมทำปากจู๋ ส่งเสียงจุ๊ๆๆ เหมือนบอกผมไม่รู้เรื่อง จะด่าก็ด่าเบาๆหน่อย อายเขา กว่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็โดนด่าเสียนาน
     สรุปก็คือ ผู้ช่วยไปแอบหลับอยู่ตรงโน้น ไอ้ครั้นจะแก้ตัวให้น้องก็ไม่ได้ คงโดนสวนว่าทำไมไม่เลือกคนอื่นมาทำงาน จะรับผิดก็เราไม่ได้ทำนี่หว่า ..อารมณ์นั้นล่ะ..
4.  ด่าเก่งและเล่นละครเก่ง ( มีจินตนาการสูงแก้ปัญหาได้เก่ง ) จะเกิดบ่อยมาก เช่น คนขับรถตู้มาสาย ทีมงานทุกคนก็ต้องสายกันหมด เพราะรอรถตู้มารับ
      ทำให้งานส่วนอื่นๆก็พลอยล่าช้าไปด้วย  มาถึงเจ้าของงานยืนท้าวสะเอวหน้าตาบอกอารมณ์พร้อมระเบิดซึนามิ รู้เลยว่าลงจากรถเมื่อไหร่คลื่นเป็น 100 ลูก ถาโถมไม่หยุด
     หน้าที่โปรดิวเซอร์คือต้องคิดแก้ปัญหาได้ทันที สำหรับน้องใหม่โปรดิวเซอร์คนนี้ เธอทำได้เพราะเธอคือตุ๊ดควายที่แฝงในร่างแอ๊บแมน (ไม่มีอะไรในโลกที่ตุ๊ดทำไม่ได้ )
    คิดแนวทางได้ก็จัดการเลยค่ะ คือลงรถปั๊บด่าทุกอย่างท่ีขวางหน้าเพื่อให้ลูกค้าเห็นว่าฉันโมโหแล้วนะยะ ต่อให้เธอเป็นใคร ตุ๊ดควายคนนี้ไม่สน อย่าแหยมมาเข้าใกล้ 
    พูดง่ายๆก็คือด่าก่อนที่จะถูกลูกค้าด่า พอลูกค้าเห็นเราด่าเก่งกว่าเขา แค่นี้ลูกค้าคนนี้ก็ไม่กล้าแล้วคับ ทุกคนรักชีวิตกลัวตายทุกคน..
5.นั่งทำงานได้ทั้งที่หลับ  ( อดนอน ) ใครขึ้นรถเมล์แล้วเห็นกระเป๋ารถหลับขณะทำงาน อารมณ์นั้นล่ะ คนขึ้นรถเธอก็จะเดินมาเก็บตังค์ รถออกเสียงเครื่องดังเธอก็นั่งหลับ 
   พอเสียงเครื่องรถหยุดนั่นหมายถึงรถจอด เธอก็จะตื่นเดินเก็บตังค์ พอครบก็หลับต่อ นั่นแหละ โปรดิวเซอร์คุมตัดก็เหมือนกัน ยามที่รีบกลัวส่งงานไม่ทัน
   ก็ต้องนั่งสั่งคนตัดต่อทำงาน พอเสียงเครื่องตัดต่อเงียบก็ตื่นมาสั่งใหม่แล้วก็หลับต่อ แต่ถ้าเป็นโปรดิวเซอร์เองและนั่งตัดเองก็นั่งหลับไปทำไปคือพอทำเอฟเฟค
   ต้องเรดเดอร์ก็หลับรอเครื่องทำงาน สักพักก็ตื่นมาทำต่อ ..ทำบ่อยๆก็ทำได้เองไม่ยากเคสนี้. 
6 . หัวเราะและร้องไห้ในคราวเดียวกัน ( รับผิดชอบงานจนจบ ) ก็ต่อจากข้อ 1 ล่ะคับ ลูกค้าให้ทำ MV งานแต่ง คุยไปมาจบลงที่ ลูกค้าให้ทำเรื่อง ชีวิตบัดซบ ได้ซบจริงๆ
    แต่เป็นโปรดิวเซอร์นะคับ ตอนลูกค้าสั่งงานแรกๆก็แมนดี พอเห็นงานเท่านั้น ต่อมแต๋วแตก ลุกขึ้นท้าวสะเอวกรีดนิ้วด่า " อีแอ๊บแมน แกทำอะไรมาให้ฉันยะ " 
    รัวต่อด้วยคำสบถเท่าที่เธอจะสรรหามา ถึงตอนนั้นแล้วคุณจะรู้ว่าหัวเราะและร้องไห้ในคราวเดียวกันเป็นไง จะส่งงานลูกค้าไม่รับ จะรับก็ต้องแก้แทบรื้อทำใหม่...
 ...อย่าซีเรียสนะคับ ที่เขียนมาทั้งหมด เป็นเรื่องขำๆเท่านั้น หน้าที่ของโปรดิวเซอร์จริงๆ มีแค่ในวงเล็บแต่ละข้อเท่านั้น เทียบดูแล้วไม่ว่าคุณทำในตำแหน่งไหน

ก็ต้องมีคุณสมบัติตามนี้  โดยปกติทุกคนก็เป็นโปรดิวเซอร์ในงานของตัวเองอยู่แล้ว  ( งานเล็กๆ )   แต่ถ้าเป็นงานใหญ่การดูแลอาจทำให้คุณปวดหัวได้ 
แต่ไม่ต้องกลัวหรอกคับ บริษัทฯเขาไม่ส่งให้คุณไปตายคนเดียว เขาให้คุณไปตายหมู่ โดยส่งผู้ช่วยไปให้ด้วย อาจ 1 หรือ2  คน เพื่อไม่ให้งานมีปัญหา..
ตำแหน่งโปรดิวเซอร์บางคนก็เปรียบเหมือนเป็ดคือรู้ทุกอย่าง แต่อาจไม่เก่งอย่างใดอย่างหนึ่งถึงที่สุด  คือ จะให้ถ่ายเก่งเหมือนช่างภาพเลย ปรับโฟกัสไม่ผิด
ซูมแพนไม่กระตุก หรือเก่งแบบช่างตัดต่อที่รู้เอฟเฟคทุกตัว ทำกราฟฟิคแอนนิเมชั่นได้ หรือต้องเขียนเก่งเหมือนคนเขียนบท อาจไม่จำเป็นถึงขนาดนั้น.. 
...สำหรับน้องใหม่ที่จะมาเป็นโปรดิวเซอร์ แต่ไม่มีประสบการณ์ในการทำงานมาเลย ถามว่าเป็นได้ไหม ตอบทันทีว่าเป็นได้ และดีซะด้วย เพราะน้องใหม่ไฟแรง
และบางบริษัทฯ เขาต้องการความสด ..มุมมองใหม่ของงาน ..น้องเพิ่งจบอาจทำให้งานออกมาดีเกินความคาดหมายได้ และไม่ต้องกลัวว่าสุดท้ายแล้ว
งานเกิดออกมาไม่ตรงตามที่คุยและทำให้คุณต้องเป็นหนี้ เจ้าของบริษัทเขาไม่โหดร้ายหรอกคับ เขาจะติดตามการทำงานของคุณทุกขั้นตอน ดูว่ารายละเอียด
ของงานออกนอกลู่นอกทางหรือเปล่า อาจจะถ่ายทำหลายวัน ตัดต่อหลายวัน ( ก็บอกแล้วว่าน้องใหม่นี่คับ ) บริษัทเขาทำสต๊อกเอาไว้แล้ว หรือไม่เขาก็ให้ทีมอื่น
ทำงานล่วงหน้าไปพลางๆก่อน และถ้างานของน้องใหม่ที่ทำออกมาแล้วแย่จริงๆ พี่ๆเขามีความสามารถแก้งานของคุณให้ออกมาจนดีได้ ...
..ฉนั้น ..ถ้าจะไปทำงานตำแหน่งโปรดิวเซอร์  ก็คงต้องดูว่าบริษัทที่เขาจะจ้างคุณ เขาคาดหวังงานของคุณมากน้อยแค่ไหน ประเมินความสามารถของตัวคุณเอง
ด้วยว่า งานที่บริษัทฯมอบหมายมาให้เกินความสามารถที่คุณจะทำได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็บอกเขาไปตามตรงว่าใหญ่เกินไป จะขอตัวช่วยที่เก่งกว่าไปด้วย
หรือถ้อยทีถ้อยอาศัย ว่าจะทำให้เต็มประสิทธิภาพ แต่ถ้าเกิดมีปัญหาทำไม่ได้ ก็อย่าว่ากัน..
...แต่ถ้าอนาคตอยากโต และก้าวไกลในสายทางเดินของอาชีพโปรดิวเซอร์  จำเป็นต้องมีความรู้มากกว่าคนอื่น 1 เท่าตัว ในทุกๆด้าน ยิ่งมากยิ่งดี
เพราะอย่าลืม ไม่ว่าคุณจะเดินไปทางไหน คุณก็เหมือนเงาของเจ้าของบริษัท  ( ที่ได้มอบหมายความรับผิดชอบให้คุณเต็ม 100 %  )  มีอำนาจสิทธิ์เด็ดขาด
ในการสั่งการ   เสมือนคุณเป็นเจ้านาย มีสิทธิ์ให้คุณและให้โทษคนในสายงานได้ ในทางกลับกัน ถ้าคุณไม่มีความรู้อย่างแท้จริง การสั่งงานจะไม่มีใครเชื่อถือ
และไม่ได้รับการยอมรับจากคนในทีมงาน อาจถึงขั้นไม่ทำตามที่คุณสั่งก็ได้ แล้วคุณจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านี้อย่างไร..วันนี้..ขึ้นอยู่กับอนาคตคุณแล้วว่า
 ....." คุณอยากเป็นเจ้านายที่ฉลาดกว่าลูกน้อง หรือ ..อยากเป็นเจ้านายที่โง่กว่าลูกน้อง  "...คุณต้องเลือกทางเดินเองคับ..
( อยากเป็นโปรดิวเซอร์ที่มีความสามารถ เรามีเคล็ดลับมาบอก..ต้องกลับไปอ่านทุกบทความที่ผมเขียน อ่านจบแล้วรับรองว่า คุณฉลาดขึ้นอีกเยอะเลย ..)




[ แก้ไขล่าสุดโดย p0p-it เมื่อ 2011-06-12 10:12 ]
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 4 คะแนน ซ่อน
gigapixel ความดี +1 2011-06-09 มีประโยชน์มากครับ
pluto ความดี +1 2011-06-09 อ่านสนุกได้ความรู้ครับ
vfspostwork ความดี +1 2011-06-09 น้า pop-it สร้างสรรงานผลดี ๆ อีกแล้ว
maprang ความดี +1 2011-06-09 ชอบๆเขียนสนุกจังค่ะ รวมเล่มเลยอิอิ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
648
เงิน
14831
ความดี
10740
เครดิต
11271
จิตพิสัย
10607
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
ตื่นคนแรก.....นอนคนสุดท้าย
โพสต์
1858
เงิน
56103
ความดี
46498
เครดิต
51231
จิตพิสัย
52476
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร


ได้ประโยชน์มหาศาลบานตะไทจริงๆ
ความรู้นอกตำรานี่คือแก่นล้วนๆ ...
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
552
เงิน
17898
ความดี
14775
เครดิต
15797
จิตพิสัย
15554
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

อ่านเป็นคอลัมน์ประจำไปแล้วครับ
มีประโยชน์มาก
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
509
เงิน
13475
ความดี
9806
เครดิต
9997
จิตพิสัย
11317
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 4#  โพสต์เมื่อ: 2011-06-09
ขอบคุณ จขกท. ครับที่แบ่งปันสิ่งดีๆ ได้ความรู้เยอะมากเลยครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
394
เงิน
7818
ความดี
8913
เครดิต
9171
จิตพิสัย
9646
จังหวัด
นครนายก
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 5#  โพสต์เมื่อ: 2011-06-09
กำลังจะไปฝึกเป็น โคโปรดิวพอดีเลยครับ ขอบคุณมากๆครับ
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
169
เงิน
6442
ความดี
5167
เครดิต
5033
จิตพิสัย
6587
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 6#  โพสต์เมื่อ: 2011-06-10
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
221
เงิน
7782
ความดี
5272
เครดิต
5353
จิตพิสัย
6291
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 7#  โพสต์เมื่อ: 2011-06-10
มีประโยชน์มากครับขอบคุณคับ
โพสต์
787
เงิน
5355
ความดี
14867
เครดิต
11447
จิตพิสัย
37005
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 8#  โพสต์เมื่อ: 2011-06-11
อ่านแล้วสนุกนะคับ ...แต่นึกสภาพที่โปรดิวเซอร์น้องใหม่เจอเหตุการณ์นั้นจริงๆ คงหัวเราะไม่ออกเหมือนกัน...
  อยากบอกเพิ่มเติมอีกว่า จะมีอยู่ประโยคหนึ่ง ที่อยากให้โปรดิวเซอร์น้องใหม่ ( หรือทุกคนที่ทำงานโปรดัคชั่น ) ต้องจำและท่องไว้ในใจไม่ลืม
" ...ไม่ว่าลูกค้าสั่งให้เราทำอะไร ...เมื่อเราทำตาม ...แล้วเกิดมีข้อผิดพลาดขึ้น  ลูกค้าก็จะด่าเราว่าทำไมไม่บอกเขาว่า ตั้งแต่แรกว่าสิ่งที่เขาคิดไม่ดี
  เพราะเขาไม่มีความรู้ เขาถึงจ้างเราให้มาทำงาน และดูแลงานให้ออกมาดีแทนเขา ..."  ในทางกลับกัน ถ้าเราไม่ทำตามที่ลูกค้าสั่ง..
" ...ผมจ้างให้คุณมาทำงานให้ผม ไม่ใช่ให้คุณมาเป็นเจ้านายผม ผมสั่งอะไรคุณก็ทำตามที่สั่ง ไม่เห็นมันยากตรงไหนเลย...."  สรุปก็คือ..
...ทำตามก็โดนด่า ไม่ทำตามก็โดนด่า... ฉนั้น ชีวิตโปรดัคชั่นเป็นอะไรที่พร้อมจะจบชีวิตลงได้ทุกเมื่อ ตลอดเวลา ก็อย่างที่ผมบอกพร้อมเป็นหนี้
นั่นแหละ คือเรื่องจริง วิธีการทำงานที่เซฟตัวเองดีที่สุดคือ
วิธีที่ 1 .. มีสติและคิดแบบมีเหตุมีผล หมายความว่าตัวอย่าง 1 ลูกค้าต้องการทำ MV โมเมนติกแต่พออธิบายกลับมีล็อคคอตีศอกตบด้วยเข่า
               แล้วมาจบลงที่ทำชีวิตบัดซบ คือคิดทุกอย่างมีเหตุมีผล เป็นไปได้หรือที่ลูกค้าต้องการทำวีดีโอประจานผลงานไม่ดีกับตัวเอง
               แต่พอถามลูกค้าแล้วลูกค้าก็ยังยืนยันเหตุผลเดิม วิธีที่ดีที่สุดคือ ( ถ้าลูกค้าเป็นผู้ชายลองสืบดูว่ามีเมียน้อยไหม ถ้ามีหลายคน
               หาคนที่อายุน้อยที่สุด แล้วเล่าให้เขาฟังว่า ร้อยทั้งร้อยผู้ชายกลัวเมียน้อย  แล้วให้เขาไปช่วยพูดอธิบายอีกที ..วิธีผมเองห้ามเลียนแบบ )
               รวมถึงคนอื่นๆที่เขารู้จัก เช่น คนในครอบครัว แล้วอธิบายให้ฟังอีกครั้ง อาจเป็นไปได้ว่าลูกค้าบางคนพูดอธิบายไม่เป็น
              คือปากกับใจไม่ตรงกันและไม่รู้ตัวว่า กำลังพูดอะไรออกไป ( ..เหมือนที่เรานัดดูหนังกับแฟนแล้วไปรอคนละโรงนั่นแหละ..)
วิธีที่ 2....สำรองเอาไว้ทุกอย่าง เช่น กรณีแรกสรุปออกมาเป็นชีวิตบัดซบ ลดความแรงของงานลง เหลือแบบชีวิตต้องสู้ จะดีกว่า นั่นหมายความว่า
             ถ้ามีแบบตบจูบ ให้จูบก่อนตบ หรือจูบพร้อมตบแบบเบาๆ เฟื่อลูกค้าดูเสร็จบอกแรงไป ขอเบาเราก็มีเพราะถ่ายเผื่อเอาไว้แล้ว
             และพยามยามรายงานความคืบหน้าทุกขั้นตอน มีงานก็ให้เขาดูเขาเช็คอีกครั้ง ทั้งก่อนถ่ายและหลังถ่าย ก่อนตัดและหลังตัด เผื่อลูกค้า
             เกิดมีสติตอนหลังจะได้แก้ไขได้ทัน ..
วิธีที่ 3. พยายามหาทีมงานที่มีประสิทธิผลสูงสุดในอัตราค่าจ้างเท่าที่เรามี เช่น ทีมถ่าย, ทีมตัดต่อ, ลงเสียง ฯลฯ เพราะเมื่อใดที่เรามีทีมงานที่
            พร้อม และเก่งเต็มพิกัด การทำงานของโปรดิวเซอร์จะเหนื่อยน้อยลง คุณภาพของงานจะมีมากขึ้น ( เก่ง + เก่ง = งานที่ดีเลิศ )
วิธีที่ 4...ทำงานให้เกิดประสิทธิผลมากกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง เช่น ลูกค้าสั่งทำ 100 แต่เราเห็นแล้วว่าไม่ดี เราปรับเสริมทำให้ดีออกมา 200 
             ลูกค้าเห็นเราทำให้งานของเขาดีออกมาเกิดกว่าที่เขาคิด ในอัตราค่าจ้างเท่าเดิม รับรองลูกค้าไม่หนีหายไปไหน..
...นอกนั้นผมว่าคงไม่มีอะไรน่าห่วงแล้วล่ะ ชีวิตโปรดิวเซอร์จะได้รายได้มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า และเวลาที่ทำ
เช่น ...งานรีบด่วน..งานสำคัญพลาดไม่ได้ ..งานใหญ่ที่ต้องใช้ทีมงานมากประสบการณ์ ..งานที่ยิ่งมีความเสี่ยงมากคุณก็จะได้รับค่าจ้างมาก
ตามไปด้วย แต่อย่าลืม รายได้มากคุณก็เสี่ยงเป็นหนี้มากเหมือนกัน
ฝากข้อคิด คำที่ควรท่องไว้ประจำในการทำงานโปรดัคชั่น....."  ทำอย่างไรที่จะให้ลูกค้าจ้างเฉพาะเรา ไม่ไปจ้างคนอื่น " ..( หาวิธีส่วนตัวกันเองคับ )



[ แก้ไขล่าสุดโดย p0p-it เมื่อ 2011-06-12 10:04 ]
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
394
เงิน
7818
ความดี
8913
เครดิต
9171
จิตพิสัย
9646
จังหวัด
นครนายก
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 9#  โพสต์เมื่อ: 2011-06-11
ตอบกลับโพส 8 โพสของ (p0p-it)
ขอบคุณอีกครั้งครับ  
     ว่าแต่เรื่องการทำเอกสารเพื่อยื่นในที่หรือฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องโปรดิวมีหน้าที่ทำเองหรือมีคนทำให้ครับ

โพสต์
787
เงิน
5355
ความดี
14867
เครดิต
11447
จิตพิสัย
37005
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 10#  โพสต์เมื่อ: 2011-06-12
โดยปกติไม่ว่างานเอกสารหรืองานที่รับผิดชอบ โปรดิวเซอร์ต้องทำคนเดียวคับ รายละเอียดในการทำงานของโปรดิวเซอร์
ขึ้นอยู่กับคุณและผู้ว่าจ้างจะตกลงกัน ถ้างานที่มีรายละเอียดมากและมีเวลาให้ทำงานมากคุณอาจต้องทำงานคนเดียว ( รายได้ก็มากขึ้นด้วย )
แต่ถ้ารีบด่วน ไม่มีเวลาพอให้คุณต้องเอ้อระเหย อาจต้องมีผู้ช่วย 1 - 2  ลองคุยกับเจ้าของงานว่า ขอผู้ช่วยเพิ่มได้ไหม
แต่ถ้าเขาเห็นว่า จ้างคุณมาในอัตราที่สูงอยู่แล้ว ( คือไม่จ่ายนั่นล่ะ ) คุณต้องจ่ายค่าทีมงานผู้ช่วยที่เพิ่มเอง ( หักจากรายได้ที่คุณได้ )
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
109
เงิน
2848
ความดี
2307
เครดิต
2626
จิตพิสัย
2919
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 11#  โพสต์เมื่อ: 2011-06-26
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ....
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้