เล่าสู่กันฟัง Scream 4 ครับ

วันนี้เพิ่งได้ดูในรูปแบบของ DVD ครับ พักหลังๆไม่ค่อยมีโอกาสได้ดูหนังในโรงภาพยนตร์ เลยต้องอาศัยเก็บๆเอาเวลามันออกเป็น DVD และนี่คือเรื่องที่เพิ่งได้ดูสดๆร้อนๆ กับ SCREAM 4

ออกตัวแรงก่อนว่าเมื่อสิบปีที่ผ่านมาตอนที่เพิ่งเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยใหม่ๆ ตอนนั้นเรียนหนัง แล้วก็ได้ไปดูหนังเรื่องแรกของชุดนี้ แล้วก็ประกาศตัวกลายเป็นแฟนของหนังเรื่องนี้ เรียกว่าถ้าสร้างอีก ไม่ว่าจะห่วยแค่ไหนก็จะต้องขอดู

พอมีการประกาศสร้าง Scream 4 ออกมา ในใจยังคิดอยู่เลยว่าหนังจะทำอย่างไร อีกอย่างตอนนี้ก็ติดกับเจ้าหน้าผีในหนังตระกูลตลกอย่าง Scary Movie ไปซะแล้ว แล้วมาดูภาคนี้มันจะน่ากลัวเหมือนเดิมมั๊ยล่ะเนี่ย

ก่อนพูดถึงภาค 4 ต้องย้อนกลับไปพูดถึง Scream ชุดแรกกันซักหน่อย เนื้อเรื่องคงไม่เล่า เพราะว่าอาจจะมีน้องๆหลายคนที่ยังไม่เคยดูชุดแรกแต่ได้ดูภาค 4 แล้วอยากกลับไปดูเดี๋ยวจะเสียอรรถรสกันไปนะครับ แต่ความโดดเด่นของหนังชุดนี้คือการใช้กฏของหนังสยองขวัญในอดีต(โดยฌแพาะในกลุ่มหนังเชือดสยองที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า SLASHER FILM) แล้วนำมาสร้างโครงสร้างใหม่โดยการคารวะสูตรและล้อเลียนกฏจนได้ความเป็นออริจินอลออกมาโดยอาศัยช่องโหว่ของหนังยุคเก่า โดยโครงสร้างของสามภาคเก่ายังเล่นกับความเป็นกฏของหนังไตรภาค ขนบดั้งเดิมถูกจับมาล้อ เสียดสี และคารวะ ในหนังทั้งสามภาคเก่าแต่ก็ใส่ความเป็นกฏแบบสครีมลงไป นั่นก็คือ

(สปอลย์) อย่างน้อยฆาตกรต้องมาเหตุผลในการกระทำ ฆาตกรมีมากกว่าหนึ่งได้ เพราะว่าเป็นฆาตกรที่อยู่ในเครื่องแบบ)

ดังนั้น เมื่อหนังชุดเก่าจบลงกับความเป็นไตรภาคก็เท่ากับว่า หนังชุดนี้ก็หมดเรื่องที่จะล้อสูตรสำเร็จไปด้วย และเป็นการปิดไตรภาคโดยสมบูรณ์ เรียกว่าถ้าใครอยากทำหนังสยองขวัญช่วงนั้น ให้เปืดหนังชุดนี้ดู นอกจากจะสยองขวัญแล้ว ยังได้ความรู้เกี่ยวกับขนบของหนังแนวทางนี้อีก

แต่เมื่อเวลาผ่านไป สิบปี ไวเหมือนโกหก ในขณะที่โลกเปลี่ยนมาใช้ผลไม้ให้กลายเป็นโทรศัพท์ และโทรศัพท์ที่ทำอะไรๆได้พอๆกับคอมพิวเตอร์ และวันที่ฮอลลิวู๊ดตีบตันสมองฝ่อกับการคิดของใหม่ ดังนั้นจึงหนังอีกกลุ่มขึ้นมา เป็นหนังที่ออกตัวว่าเป็นหนังที่เคารพของเก่า แต่จะเอามาทำใหม่ ไม่ใช่ภาคต่อ แต่เอาของเดิมมาใส่ความคิดใหม่ๆแล้วสร้างออกมา นั่นคือหนัง REMAKE กับหนัง REBOOT หรืออะไรก็แล้วแต่จะเรียก

ยิ่งในปัจจุบันหนังรีเมกหรือรีบู๊ตนี่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ดูอย่าง เอ็กซ์เมน กับ สไปดี้ นั่นปะไร ของเก่ายังไม่ทันลืม รีบู๊ตกันซะแล้ว ของไทยก็ไม่เว้นมีกระทั่ง บ้านผีปอบ รีฟอร์เมชั่น

และนี่ก็คือเครื่องมือใหม่ของ เวส คราเว่น และ เควิน วินเลียมสัน ผู้กำกับและมือเขียนบทของหนังชุดหวีดเก่า มา่สู่ หวีด รีบู๊ต ซึ่งขนบในการหยอกล้อ จิกกัด คารวะ ก็มาเป็นเรื่องของหนังรีเมกนั่นเอง

แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสักแต่ทำกันนะครับ เพราะว่า หนังหวีดภาคนี้ ยังสามารถนำตัวละครเก่าๆกลับมาได้ครบถ้วน พร้อมทั้งเปิดตัวละครใหม่ๆ และที่สำคัญกับกฏใหม่ของหนังสยองขวัญในช่วงระยะเวละสิบปีที่ผ่านมา รวมถึงความสยองเลือดสาด ลุ้นเต็มเม็ดเหงื่อ อารมณ์จิกกัดแบบหนังหวีดชุดเก่า และแน่นอนจุดหักมุมในการเฉลยตัวฆาตกร ที่เป็นจุดเด่นเสมอมาของหนังชุดนี้ ทุกอย่างยังอยู่ครบ ภายใต้กฏใหม่ๆ  และก็บรรยากาศใหม่ๆ ในยุค เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ และสื่อออนไลน์กำลังมาแรง

และหนังก็ทำออกมาได้ดีครับ

(อาจจะสปอลย์) หนังว่าด้วยเรื่องการกลับมาที่ วู๊ดส์ โบโร่ ของ ซิดนีย์ฺ เพรสค็อต ตัวละครหลักจากหนังชุดแรก และที่นี่ ไอ้หน้าผีก็กลับมาอาละวาดอีกครั้ง หลังจากที่หายไปกว่าสิบปี มันกลับมาไล่เชือดคนที่อยู่รอบตัวของซิดนีย์ ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ไม่มีใครรู้ได้ และตัวละครทุกตัวก็ดูน่าสงสัยสำหรับคนดู ไม่เว้นแม่แต่ซิดนีย์เอง ในส่วนการกระจายบททำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวครับ แม้ตัวตัวละครจะเยอะ แต่ก็ไม่มีใครที่ถูกทิ้งไว้เป็นแค่ไม่ประดับ หรือถ้าจะประดับก็จะถูกเชือดไปซะตั้งแต่แรกๆแล้ว ส่วนขนบของความเป็นหนังรีเมก และกฏใหม่ๆที่หนังใส่มาก็ค่อนข้างเด่นชัดครับ และขนบเก่าของการเป็นหนังหวีดสุดขีดในช่วงเฉลย ก็ค่อนข้างดี เพราะยังคงความเป็นสครีมได้ครบถ้วน และมีเหตุผลรองรับค่อนข้างดี รวมถึงยังจิกกัดโลกยุคโซเชียลเน็ตเวิร์คได้อย่างดีด้วย อย่างที่ฆาตกรพูดครับ ถ้าจะดังเดี๋ยวนี้ไม่ต้องพยายาม แค่เป็นคนที่ซวยหลุดโลกก็จะได้ดังแล้ว ฉากสุดท้ายของหนังทำได้อย่างฉลาด มีนัยยะ และบอกอะไรๆเราได้มากทีเดียวครับ

วันนี้คงไม่วิเคราะห์หรือวิจารณ์ เอาเป็นว่าเล่าสู่กันฟังแล้วกันครับ ใครเป็นคอหนังสยองขวัญที่เขียนบทดีดี ก็อย่าลืมไปหามาชมกันครับ

น่าจะไม่ผิดหวังกับการกลับมาของหนังชุดนี้ครับ

ผมไม่ชอบ หนังสยองขวัญ/หนังผี ไม่ชอบเพราะซาวด์ที่ดังๆเวลาลุ้นๆ หัวใจผมจะวายซ่ะให้ได้
แต่พออ่านแล้วอยากดูเลยครับ...

พึ่งได้มาเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้ดู  แต่ตอนนี้ต้อบรีบไปดูก่อนแล้ว