จบนิเทศจุฬา ธรรมศาสตร์ จะมีไอเดียและทำงานดีกว่าคนอื่นๆมั้ยครับ

เกริ่น น้องสาวของผมอยู่ต่างจังหวัดสอบได้ที่1ของภาคอิสาน เรียนเกรดได้ 4.00 ไปแข่งตอบปัญหาอะไร ที่ไหน ก็ชนะหมด กวาดโส่ห์และถ้วยรางวัลมาเพียบ
แต่พอมาสอบเข้าเตรียมอุดมตอนม.4 น้องสาวกลับได้อยู่ห้องควีนเฉยเลย ผมเลยสงสัยว่าเด็กห้องคิงสมองมันทำด้วยอะไรหว่า ทำไมมันเก่งขนาดนั้น


ส่วนตัวของผมเองนั้น น้อยใจที่เรียนไม่เก่ง เกรดได้2.5 เองตอนมัธยมปลาย สอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่ได้ หวังเรียนนิเทศจุฬา แต่ก็สอบไม่ติด ผมสงสัยว่าเรียนจบมา ผมจะไปสู้เด็กสมองเพชรทีเกรดได้4.00 จากเตรียมอุดม
เรียนจบนิเทศจุฬามาได้มั้ย


คำถามมีว่า 
1. ถ้าเด็กที่เรียนเก่งสมองมันทำด้วยอะไรหว่าพวกนั้นสอบติดนิเทศจุฬาธรรมศาสตร์ จบมาทำงานบันเทิง พวกนี้จะมีไอเดียเป็นอย่างไรครับ  และทำงานได้เก่งมากหรือเปล่าครับ
เอาจากประสบการณ์ที่พี่ๆเจอมานะครับ
2. การเรียนเก่ง มีผลต่อไอเดียความคิดสร้างสรรค์ ในการทำงานวงการบันเทิงมั้ยครับ
3. ผู้กำกับหนังที่ไอเดียบรรเจิดของฮอลลีวูดหรือไทย ตอนเรียนเรียนเก่งมั้ยครับ  ยกตัวอย่างด้วยนะครับพี่ 

GTH ไงครับ จุฬาทั้งคณะ ค่ายหนังที่ฮอตที่สุดของเมืองไทย ผมไม่ได้จบจุฬานะครับ แต่ยอมรับว่าทีเด็ดทีขาด เด็กจุฬาคมจริงในเรื่องของไอเดีย และจังหวะการเล่าเรื่อง ในแบบภาพยนตร์

เกรดในมัธยม  ไม่ได้ชี้วัดถึงความเก่งหรอกครับ  คือจะเยอะจะน้อย  ด้วยเหตุผลอะไรย่อมรู้ด้วยตัวเอง      ส่วนเทคนิคการคิดนั้นก็แล้วแต่คนอีก  สถาบันสามารถวางฐานให้เราได้เท่านั้น  

สรุปอยู่ที่ตัวเองละ  ศึกษางานคนอื่นมากๆ  มุมดีๆมันก็ก๊อปไปก๊อปมาอยู่แค่นี้ละครับ  

คิดให้นอกกรอบครับ
เรียนเก่ง กับ ความคิดสร้างสรรค์ ไม่เหมือนกันครับ
ไม่งั้น วิศวกร หรือนักวิทยาศาสตร์ก็คงจะต้องเป็นผู้กำกับที่เก่ง
หรือทำงานด้านวงการบันเทิงได้เก่งกว่าคนที่จบมาจากสาขาอื่นแน่ๆ เลย
แต่การเป็นคนเก่ง ย่อมเป็นประโยชน์ในการทำงานครับ

ความรู้ไม่ได้จบในมหาวิทยาลัยครับ

กระทู้นี้โดนบล็อค ระบบจะซ่อนข้อความหรือไฟล์แนบอัตโนมัติ สามารถมองเห็นได้เฉพาะผู้ดูแล!

บิล เกตต์ เรียนไม่จบมหาวิทยาลัย
สตีฟ จ็อบส์ เรียนไม่จบมหาวิทยาลัย
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ตอนเด็กๆพัฒนาทางสมองช้ามาก กว่าเด็กคนอื่น

แต่ผมคิดว่าทั้งสามคนรู้ว่าตัวเขาเองจะไปที่ไหน... พวกเขารู้ว่าในชีวิตเขาจะไปเป็นอะไร..
และพวกเขาก็มี Passion ในงานและสิ่งที่ตัวเองรัก

จริงๆน่าจะมีอีกหลายคนที่เป็นแนวนี้ นะครับ

อันนี้ผมเคยทำสักพักนึงแล้วครับ ท้าทายใจดี
http://http://www.youtube.com/watch?v=xQVikjZOLB4&list=UUuFs4lQaAbd3g4ACexf_8Vg&index=6&feature=plcp

อย่ามองแต่ในเมืองไทยครับ เปิดมุมมองให้กว้างขึ้นจะรู้ว่า............. สตีฟ จ็อบส์ ก็ไม่ได้จบจุฬานี่หว่า!!!
อย่าให้สถาบันเป็นตัวชี้วัดครับ
นักแต่งเพลงเก่งๆก็ไม่ได้จบจุฬา
พี่เอกเราก็ไม่ได้จบจุฬา
ผู้กำกับฝีมือดีก็ไม่ได้จบจุฬา
แล้วทำไมเขายังเก่ง และมีคนจ้างเค้าล่ะครับ เขาอาจไม่สนกับคำนี้ก็ได้ครับ
สถาบันดีผมยอมรับนะครับ และสิ่งที่จะได้คือconnection แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ
ความหมั่นเพียร และรู้จุดประสงค์ของตัวเอง ถ้าคุณรู้ว่าควรทำอะไร แล้วลงมือทำ ความสำเร็จย่อมเกิดขึ้นได้โดยสมบูรณ์ครับ
สู้ๆครับ

มันเปนเรื่องพรรคเรื่องพวกแล้วครับ ตามเฮ้าส์ในเครื่ออากู๋อ่ะ
จบจุฬาแต่ดันยังไงก้อไม่ไป เสิร์ฟน้ำทั้งปีก้อมีให้เห็น

เพียงแต่มันเปนใบเบิกทางไปสู่สถานที่ทำงานที่อินเตอร์ก้อเท่านั้น
ถ้าเรามีของก้อ อยู่ไหนก้อได้ อย่ากลัว

สงสัย สมองจะหลอมนะครับคนถามนี่   .. ถ้าอยากเก่งไม่ไปเรียนต่อที่เมืองนอกเลยล่ะครับ ... อย่า เอา ทฤษฎี มา เปรียบ กับความเป็นจิงซิครับ พี่น้อง ไอเดียความคิดสร้างสรรค์ เขาก็มีกันทุกคนอ่ะครับ .. แต่ถ้า มัว แต่ถาม โดยไม่ลงมือทำ ก็ถามไปเรื่อยๆนะครับพี่น้อง ไปแระ ( จบสูง กินข้าว เหมือนกับเราไหมอ่ะ จบป.6 เอง )

จะว่าไปแล้วการทำงานให้ได้ผมดีที่สุดคือการที่ทำงานและมีความสุขกับมัน และผมขอฝากอีกอย่างนะ ไปที่ไหนทำงานที่ไหนขอให้มีแต่คนรักเรา แล้วเราก็อย่าลืมทำตัวให้น่ารักด้วยนะครับ

"Imagination is more important than knowledge"
                    "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้"
                                อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

ความคิดผมนะ : อย่าไปยึดติดกับสถาบันการศึกษามากจนเกินไปครับ ถ้าสอบติดหรือได้เรียนนิเทศน์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ก็ดีไปครับ
แต่ถ้าสอบไม่ติดหรือไม่ได้เรียนที่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเก่งไม่ได้
ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ ผมคิดว่ามันมีอยู่รอบตัวเรานี่แหละครับ ถ้าเราหัดที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อย ผมว่าเราก็เก่งได้เหมือนกันครับ
ดูหนังเยอะๆ ฟังเพลงเยอะ ไม่ต้องเลือกหรือเจาะจงว่าจะเป็นแนวไหน ช่างคิดช่างสังเกตุ สุดท้ายลงมือทำ ทำจนกว่ามันจะได้นั่นแหละครับ
ลองผิดลองถูกบ้าง ดีกว่านั่งคิดแล้วไม่ลงมือทำอะไรเลย  

(คคห.ส่วนตัว)

จบดีไม่ดี มีส่วน"มาก"ในตอนเริ่มต้นชีวิตการทำงาน

แต่หลังอายุงานซัก 3-5 ปีไปแล้ว ไปสมัครงานที่ใหน เค้าก็ดูทรานสคริปต์แค่พอเป็นพิธี แล้วก็ไปดูแฟ้มผลงานกันต่อทั้งนั้นแหละครับ




ปอลอ
1.ผมไม่ได้จบจุฬา
2.ผมจบสายวิทย์ ไม่ได้เรียนนิเทศอีกต่างหาก
3.งานหลักก็ไม่ค่อยตรงกับที่เรียนจบมาด้วย
4.แต่อาศัยใจรัก+ขวนขวายเอาเอง ทำงานวิดีโอเป็นงานอดิเรก จนพอมีรายได้หมุนๆไป ให้เดือนเกยเดือนได้ละกันครับ