สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 3576เข้าชม
  • 19ตอบกลับ

อยากทราบเรื่องภาพยนตืฟิม

ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
414
เงิน
10307
ความดี
9193
เครดิต
9018
จิตพิสัย
11251
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
อยากทราบเกี่ยวกับภาพยนต์ฟิมล์ครับ รบเพื่อนๆพี่ๆน้องๆให้ความรู้เเก่ตัวผมเอง เเละเพื่อนสมาชิกบางท่านที่ยังไม่ทราบด้วยครับ
    // ตามความเข้าใจผมนะฟิมเวลาถ่ายจะได้ภาพออกมาเป็นเเฟรมๆเหมือนภาพนิ่ง เวลาฉายก็เอามาวิ่งๆ จะทําให้เกิดภาพเคลื่อนไหว มีคําภามว่า
  1. ถ่ายออกมาเวลาตอนที่เราจะedit หรือ จะเเต่ง เพิ่ม effect จะใส่ CG บนหนังฟิมล์ของเราเนี้ย เราต้องทําอย่างไร
  2. เวลาได้ฟิมที่สําเร้จเเล้ว เวลาเอาไปฉายในโรง เค้าเอาฟิมลต้นฉบับไปฉายในโรงหรอ  หรือเค้าสามารถสําเนาฟิมได้หรอ
  3. สามารถเเปลงได้มั๊ย   จากกล้องที่ถ่ายดิจิตอล  เเปลงให้กลายเป็นฟิม Digital ---->  film
                           หรือฟิม เป็นดิจิตอล                                        Film     ---->  Digital
  4. หนังในปัจจุบันเค้าถ่ายด้วย digiะal กันเยอะเเล้ว  เเล้วเวลาฉายในโรง เค้าต้องฉายด้วย digital อยา่งเดวหรือป่าว หรือต้องทําเป็น film (ต่อจากข้อ 3 )


  • รูปภาพ:101208_ghettofilm_02 © Itai Neemann.jpg
  • รูปภาพ:ภาพถ่ายจากเว็บไซต์
    รูปภาพ:090849_008.jpg

บทความที่เกี่ยวข้อง

ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
544
เงิน
9933
ความดี
7297
เครดิต
6890
จิตพิสัย
8542
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 19#  โพสต์เมื่อ: 2013-02-08
ก่อนหน้า Computer Generated Image หรือ CGI จะเข้ามา เมื่อก่อนเค้าใช้ฟิล์มถ่ายพวกโมเดลจำลอง แล้วขยับทีละเฟรม หรือวาดลงแผ่นฟิล์มทันบนฟุตเตจ

Optical Printer มีหน้าที่ปรินท์ภาพพวกนั้นลงบนแผ่นฟิล์มทละเฟรมครับ

ส่วน cg ยุคนี้ เค้าสแกนฟิล์ม แล้วมาทำในคอมพิวเตอร์  เรนเดอร์ภาพออกมาเป็นภาพท่สมบูรณ์แล้วส่งเข้าห้้องตัด ทำเสียง เกรดสี  (ด้วยดิจิตอล)

เสร็จแล้วเค้าจะเาอค่าต่างๆ กลับมาเทยบ เวลาปริ้นท์ลงฟิล์มอีกทีครับ
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
544
เงิน
9933
ความดี
7297
เครดิต
6890
จิตพิสัย
8542
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 18#  โพสต์เมื่อ: 2013-02-08
ค่า dynamic rang ของฟิล์มมันจะอยู่ราวๆ 15-18 stop ครับ ซึ่งดิจิตอลทำได้สูงสุดตกราวๆ 13 stop
แล้วก็เรื่อง rolling shutter ที่ดิจิตอลมีกันหมดทุกตัว ไม่ว่าจะกล้องตัวละ 5 ล้าน อย่าง Red Epic หรือ 8 ล้านอย่าง  Alexa ไหนจะเรื่องสีอีก ดิจิตอลยังเลียนแบบได้ไม่ 100% และ film มันไม่มี resolution ครับ อีก 10 ปีเก็บไว้ แล้วสแกนให้ใหญ่กว่าเดิมก็ได้

การสแกนฟิล์มมาเป็น digital นั้นเพราะเค้าสามารถไปตัดต่อ เกรดสี ทำเสียง ทำ CG ได้ครับ แล้วก็เอาไปปริ้นท์กลับอีกที    

ส่วนที่ว่าทำไมเค้าถ่ายฟิล์ม ทั้งๆ ที่เดี๋ยวน้มีดิจิตอล..... อันนั้นเป็นความชอบส่วนตัวของคนทำหนังครับ ผู้กำกับ บางคนเค้า conservative มากๆ ไม่ยอมใช้ดิจิตอลอย่าง เควนติน ทาแรนทิโน, โนแลน กับตากล้อง วอเรน พิฟฟี, สปีลเบิร์กกับตากล้องจานุซ คามินสกี้  พวกนี้เกลียดิจิตอล ไม่ยอมจับครับ

ขณะที่มาร์ติน สกอเซซี หันไปจับดิจิตอล ใช้ alexa เค้าก็ชอบครับ (จริงๆ กล้องตัวนี้ผู้กำกับภาพหลายคนที่ถ่ายฟิล์มชอบมากกว่าดิจิตอลตัวอื่นๆ เยอะ)  ซึ่งเค้าจะใฃ้อะไร ก็อยู่ที่งบประมาณกับรสนิยม เมืองนอกการทำ digital ถูกกว่าตรงไม่ต้องแสกนฟิล์ม แต่หนังทุนสูงเค้าก้นิยมดิจิตอล ซึ่งแล้วแต่ผู้กำกับ แต่บ้านเราเนี่ยเอาจริงๆ ราคาเท่ากันครับ ฟิล์มหรือ digital (แบบกล้อง red หรือ alexa)

ถ้าคุณลองเล่นกล้องพวก RED หรือ Alexa มันจะมี RAW ครับซึ่งตรงนี้เค้าชอบกัน เพราะมันเหมือนฟิล์มที่ปรับแก้ในโพสต์ได้เยอะ (สีแน่นกว่า รายละเอียดภาพดีกว่า)  ถ้าจับแต่พวกกล้อง DSLR จะไม่ค่อยเห้นภาพว่าทำไมเค้าถึงนิยมถ่ายฟิล์ม เพราะมันสแกนแล้วเอาไปแก้ไขได้เยอะไงครับ

ปัญหามันไม่ได้อยู่อะไรดีกว่าอะไรครับ  เพราะไม่ว่ายังไงข้อดีของฟิล์มมันก็แทนด้วยดิจิตอลไม่ได้ ณ ปัจจุบัน
....แต่อีก 10 ปีก็ไม่แน่หรอกครับ เพราะดิจิตอลมันไปเร็วมากๆ แถมตอนนี้ประเทศเมกา ญี่ปุ่น ยุโรป เค้ากำลังจะก้าวสู่ ยุค 4k เป็นมาตรฐานแล้ว
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 2 คะแนน ความดี +2 ซ่อน
fooding ความดี +1 2013-02-09 ขอบคุณครับได้ความรู็เยอะเลย
vfspostwork ความดี +1 2013-02-08 -
โพสต์
3280
เงิน
49028
ความดี
67852
เครดิต
78389
จิตพิสัย
62308
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 17#  โพสต์เมื่อ: 2013-02-08
ตอบกลับโพสต์ 16 โพสต์ของ (krerk)
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
414
เงิน
10307
ความดี
9193
เครดิต
9018
จิตพิสัย
11251
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 16#  โพสต์เมื่อ: 2013-02-07
"telecine คือยิงฟิล์มเข้า CCD " มันจะเป็นเครื่องใช่มั๊ยครับ หลักการทัางานประมาณอย่างไรครับ เอาเเผ่นฟิมไปวิ่งบน ccd ซึ้งจะได้เป็น Digital ประมาณนี้รึป่าวครับ            


///
ยังไงๆ มันก็ไปเป็น digital อยุ่ดี ทําไมเค้าต้องถ่ายเเบบฟิมกันยู่ครับ
โพสต์
3280
เงิน
49028
ความดี
67852
เครดิต
78389
จิตพิสัย
62308
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 15#  โพสต์เมื่อ: 2013-02-07
ตอบกลับโพสต์ 13 โพสต์ของ (krerk)
คงไม่นิยมเอาฟิล์มทั้งหมดมาสแกนนะครับ เพราะจะเสียค่าใช้จ่ายสูง แต่จะใช้อีกเทคนิคนึงที่เรียกว่า telecine คือยิงฟิล์มเข้า CCD ได้ออกมาเป็นวีดีโอธรรมดา ๆ แล้วนำไปตัดต่อ พอเสร็จแล้วก็จะส่งออกเป็นไฟล์ EDL เพื่อไปเลือกเอาเฉพาะส่วนที่ต้องการใช้งานจริง ๆ มาสแกนอีกครั้งครับ จากนั้นก็ทำ CG อะไรต่อไป ...







ปล. ปกติเครื่อง scan ฟิล์ม ก็ทำ telecine ได้ในตัวอยู่แล้ว ...
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ความดี +1 ซ่อน
krerk ความดี +1 2013-02-07 -
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
414
เงิน
10307
ความดี
9193
เครดิต
9018
จิตพิสัย
11251
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 14#  โพสต์เมื่อ: 2013-02-07
เสริมอิกนิดนะครับ......ไอ้เเผ่นฟิมเนี้ย มันมีสเนห์มากขนาดนั้นเลยหรอครับ ทําไมหนังฟอมบิ๊กๆเค้าถึงเลือกใช้กันจัง ทั้งๆที่ขั้นตอนยุ้งอยากมากมาก ต้นทุนก็สูงขึ้นมาก    //หนังเรื่อง Fast6  ก็ยังใช้ฟิม ยุเลย
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
414
เงิน
10307
ความดี
9193
เครดิต
9018
จิตพิสัย
11251
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 13#  โพสต์เมื่อ: 2013-02-07
อ้างอิง
อ้างอิงโพสต์11 ต้นฉบับโพสต์โดยmr.nantawatเมื่อ2013-02-06 23:24เผยแพร่ :




ก็ประมาณนั้นแหละครับ เหมือนที่เราๆนั่งทำกันอยู่ทุกวันนี่แหละ เพียงแต่สมัยนั้น ถึงตัดไป ก็เอาไปใช้จริงยังไม่ได้ เพราะเครื่องคอมพ์ยังสมรรถนะจำกัด ตัดที่ Resolution สูงๆ/ความละเอียดมากๆไม่ได้ เลยเอาไว้ดูเป็นแนวทางเฉยๆ ตอนตัดจริง ก็ต้องไปตัดที่ฟิล์มอยู่ดี
.......

สรุปเป็นภาษาง่ายๆสัาหรับผมนะครับ(ผิดถูกชี้เเนะด้วย)....เเเนวคิดของการตัดต่อหนังฟิม คือถ่ายด้วยกล้องฟิม จากนั้นเอาฟิมมาสเเกนเเล้วทําการตัดต่อ+เอฟเฟคต่างๆ เเละมีเจ้าเครื่องOptical Printer เอาไว้วาด CG ลงเเผ่นฟิม ถูกต้องมั๊ยครับ  

-------------------------------------------
ยังไงขอบคุณคุณmr.nantawatมากครับที่ชี้เเนะ ตั้งเเต่งเรื่องเวกัสผมเจ๋งเเล้ว ขอบคุณมากครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
414
เงิน
10307
ความดี
9193
เครดิต
9018
จิตพิสัย
11251
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 12#  โพสต์เมื่อ: 2013-02-07
อ้างอิง
อ้างอิงโพสต์2 ต้นฉบับโพสต์โดยvfspostworkเมื่อ2013-02-06 05:33เผยแพร่ :
เครื่องสแกนฟิล์ม ...


ARRISCAN

.......

เเจ่มเเจ้งเลย ทําไมต้องเอาฟิลน๊า.......ยังไงๆก็เเปลงเป็นdigital ยู่ดี
โพสต์
1064
เงิน
14841
ความดี
10868
เครดิต
10002
จิตพิสัย
15544
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 11#  โพสต์เมื่อ: 2013-02-06
อ้างอิง
อ้างอิงโพสต์9 ต้นฉบับโพสต์โดยkrerkเมื่อ2013-02-06 17:07เผยแพร่ :

วิธีโยนลงคอมเนี้ยหมายถึงว่าเอาฟิมไปสเเกนเเล้วเอาไฟลงไปตัดต่อในคอมรึป่าวครับ





ก็ประมาณนั้นแหละครับ เหมือนที่เราๆนั่งทำกันอยู่ทุกวันนี่แหละ เพียงแต่สมัยนั้น ถึงตัดไป ก็เอาไปใช้จริงยังไม่ได้ เพราะเครื่องคอมพ์ยังสมรรถนะจำกัด ตัดที่ Resolution สูงๆ/ความละเอียดมากๆไม่ได้ เลยเอาไว้ดูเป็นแนวทางเฉยๆ ตอนตัดจริง ก็ต้องไปตัดที่ฟิล์มอยู่ดี



ปอลอ เปลี่ยนคีย์บอร์ดเหอะครับ พิมพ์ออกมาแล้วอ่านไม่รู้เรื่องเลย
โพสต์
1064
เงิน
14841
ความดี
10868
เครดิต
10002
จิตพิสัย
15544
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 10#  โพสต์เมื่อ: 2013-02-06
อ้างอิง
อ้างอิงโพสต์8 ต้นฉบับโพสต์โดยkrerkเมื่อ2013-02-06 17:05เผยแพร่ :


ผมยังงงๆกับขั้นตอนการตัดต่อครับ
เช่น สมมติผมจะเกรดสีของฟิม วิธีต้องทํายังไง // เเล้วที่บอกว่าสร้างฟิมมาทับเวลาทํา CG เค้าสรา้งกนยังไงครับมันถึงจะตรงกันทุกเฟรม






ถ้าเป็นสมัยก่อน ก็เกรดสีกันขั้นเกือบสุดท้ายเลย คือหลังจากตัดเสร็จหมดแล้ว ก็ค่้อยเอามาเข้าเครื่องเกรดสี (ประมาณว่ากล้องวิดีโอ ถ่ายจากฟิล์มเนกาทีฟ แล้วกลับสีเป็นโพสิทีฟ ก่อนจะแสดงผลออกจออีกที) เราก็ลองปรับจนพอใจ ก่อนจะบันทึกค่าการปรับตั้งต่างๆไว้ แล้วตอนที่พิมพ์ก็อปปี้สำหรับฉายนั่นแหละครับ เครื่องจะสามารถตั้งค่าการชดเชยสีตอนก็อปปี้ได้เลย โดยจะปรับไปเรื่อย ตามค่าที่เรากำหนดไว้ล่วงหน้า

อ้อ ตอนพิมพ์ออกมา ใช้เครืองที่เรียกว่า contact printer ครับ เครื่องแบบนี้ จะไม่มีกล้อง ไม่มีเลนส์ แค่เอาฟิล์มต้นฉบับมาประกบกับฟิล์มเปล่า แล้วฉายแสงเข้าไป หลักการก็มีเท่านี้ ใช้สำหรับก็อปปี้ฟิล์มกันทีละเยอะๆ เพราะเครื่องเดินด้วยความเร็วสูงได้


ส่วนการทำเอฟเฟคต่างๆ ก็ต้องใช้เครื่องที่เรียกว่า Optical Printer หน้าตาประมาณในรูป ค่อยๆก็อปปี้ฟิล์มกันทีละชั้น ทีละชั้น จากหลายๆส่วนทางด้านซ้าย ลงไปยังฟิล์มเปล่าที่อยู่ฝั่งขวา อยู่ในที่หน้าตาเหมือนกล้องถ่ายหนังนั่่นแหละครับ ค่อยๆเดินฟิล์มทีละเฟรมๆๆ ใช้เวลานานกว่าจะเสร็จ จึงไม่เหมาะสำหรับสั่งพิมพ์ทีละเยอะๆ
  • รูปภาพ:contact printer.JPG
  • รูปภาพ:optical-printer.jpg
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ความดี +1 ซ่อน
vfspostwork ความดี +1 2013-02-07 -
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
414
เงิน
10307
ความดี
9193
เครดิต
9018
จิตพิสัย
11251
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 9#  โพสต์เมื่อ: 2013-02-06
อ้างอิง
อ้างอิงโพสต์4 ต้นฉบับโพสต์โดยmr.nantawatเมื่อ2013-02-06 09:32เผยแพร่ :
2.ซักสิบปีก่อน~ไม่กี่ปีที่ผ่านมา:ถ่ายฟิล์ม ตัดในคอมพ์ แล้วก็ฉายฟิล์ม
-ตอนถ่าย ยังใช้ฟิล์มอยู่
-แต่ตอนตัดต่อ ใช้วิธีโยนลงในคอมพ์ แล้วใช้โปรแกรมตัดต่อออกมาดูคร่าวๆก่อน ยังไม่แก้สี/ลง Effect ใดๆ
-พอใจแล้ว ก็ค่อยสั่งปรินท์ EDL มาตัดเนกาทีฟอีกที ฉบับที่ตัดอยู่ในคอมพ์ ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรอีก ยกเว้นจะเก็บไว้ทำ Deleted Scene ตอนออกดีวีดีโน่น
-ตอนฉายก็เหมือนเดิม

วิธีโยนลงคอมเนี้ยหมายถึงว่าเอาฟิมไปสเเกนเเล้วเอาไฟลงไปตัดต่อในคอมรึป่าวครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
414
เงิน
10307
ความดี
9193
เครดิต
9018
จิตพิสัย
11251
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 8#  โพสต์เมื่อ: 2013-02-06
อ้างอิง
อ้างอิงโพสต์3 ต้นฉบับโพสต์โดยmr.nantawatเมื่อ2013-02-06 09:29เผยแพร่ :
เอาแบบเข้าใจง่าย ไม่เน้นวิชาการละกันนะครับ

1.แบบสมัยก่อน ตั้งแต่ยุคบุกเบิก~ซักสิบปีก่อน:ถ่าย-ตัด-ฉายด้วยฟิล์มตลอดกระบวนการครับ
-ฟิล์มที่วิ่งในกล้อง ก็คือฟิล์มเนกาทีฟ ล้างมาดู เห็นเป็นสีกลับ(Negative) ดูไม่รู้เรื่อง
-แล้วก็เอามาพิมพ์ออกเป็น Positive (คือสีตรงตามธรรมชาติ) ก่อน 1 ชุด สำหรับตัดต่อ หลักการเดียวกับการใช้ proxy file ในการตัดต่อด้วยคอมพ์สมัยนี้แหละครับ พอลองตัดจนพอใจแล้ว ค่อยเอา
.......


ผมยังงงๆกับขั้นตอนการตัดต่อครับ
เช่น สมมติผมจะเกรดสีของฟิม วิธีต้องทํายังไง // เเล้วที่บอกว่าสร้างฟิมมาทับเวลาทํา CG เค้าสรา้งกนยังไงครับมันถึงจะตรงกันทุกเฟรม
ระดับ : สมาชิก IIII
โพสต์
87
เงิน
2468
ความดี
2784
เครดิต
2541
จิตพิสัย
3145
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 7#  โพสต์เมื่อ: 2013-02-06
EDL
NLE  

หมายถึงอะไรครับ



ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
249
เงิน
798
ความดี
3490
เครดิต
3070
จิตพิสัย
8316
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 6#  โพสต์เมื่อ: 2013-02-06
เพิ่มเติมครับ ถ้าถ่ายฟิล์ม แล้วแปลงเป็นไฟล์ไปตัดต่อแล้วแปลงกลับมาเป็นฟิล์มอีกที ค่าFilm Transfer + Color Grade อย่างต่ำ 1 ล้านบาทครับ อ้างอิงจาก http://www.onpa.co.th/postproduction_services_th.php
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้